สำนักงานกกต. 17 มี.ค.-เลขาฯ กกต. แจงเหตุสั่งยุติ 61 คำร้องยุบพรรค ยึดตามกฎหมาย นายทะเบียนไม่ได้คิดเอง เตือนนักร้อง ถ้าร้องเท็จ ต้องรับโทษหนัก
นายแสวง บุญมี เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์กรณีกกต. ให้ยุติคำร้องยุบพรรคการเมือง 61 เรื่องเนื่องจากไม่มีมูล ว่า การพิจารณาการยุบพรรคของนายทะเบียนพรรคการเมืองไม่มีความซับซ้อน เพราะกฎหมายเขียนไว้ชัดเจน จึงต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ถือเป็นเรื่องของกฎหมาย เป็นความยุติธรรมตามกฎหมาย ไม่ใช่นายทะเบียนคิดเอง
เลขาธิการกกต. กล่าวว่า โดยหลักการทำงาน นายทะเบียนพรรคการเมืองจะให้สำนักงานดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง2564 ที่กำหนดให้ต้องให้โอกาสผู้เกี่ยวข้องชี้แจงเพื่อให้ความยุติธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย จากนั้นจึงพิจารณาว่า การการกระทำนั้น กฎหมายกำหนดเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ หลายคำร้องมีการกระทำตามที่ร้องเกิดขึ้นจริง แต่การกระทำนั้นไม่ใช่เหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง จะไม่รับไว้พิจารณา หรือสั่งยุติเรื่อง
“แต่ถ้าพิจารณาแล้วการกระทำตามคำร้องนั้นอาจเป็นเหตุให้ยุบพรรคได้ ก็จะรับไว้พิจารณาว่า การกระทำนั้นครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ หรือถึงขนาดให้ต้องยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งแล้วแต่กรณี แต่ที่ผ่านมาพบว่าส่วนใหญ่เป็นคำร้องที่ไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรค” นายแสวง กล่าว
นายแสวง กล่าวว่า หลังผู้ร้องยื่นคำร้องต่อกกต.แล้ว ผู้ร้องมีสิทธิสอบถาม ติดตามเรื่องเพื่อขอทราบความคืบหน้าผลการดำเนินการได้ตลอดเวลา โดยทำเป็นหนังสือถึงสำนักงานกกต. และเมื่อสำนักงานดำเนินการเสร็จสิ้น คือไม่รับเรื่องไว้พิจารณา ยุติเรื่อง หรือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง แล้วแต่กรณี จึงจะมีการแจ้งผลให้แก่ผู้ร้องทราบ
“ฝากว่าการเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบพรรคการเมืองเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ก็ต้องคำนึงถึงมาตรา 101 ที่กำหนดให้ความคุ้มครองพรรคการเมืองด้วยเหมือนกัน คือ ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลใดกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองต่อกกต. หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น แต่ถ้าการกระทำนั้นเป็นของพรรคการเมืองต้องได้รับโทษเป็น 2 เท่า และให้กกต.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น” เลขาธิการกกต. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายคำร้องที่ยุติเรื่องเป็นกรณีกล่าวหาว่านายทักษิณ ชินวัตร ควบคุม ชี้นำ ครอบงำ พรรคเพื่อไทย จะมีผลต่อคำร้องทำนองเดียวกันที่ร้องในปัจจุบัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของกกต.หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะแต่ละคำร้องจะมีข้อเท็จจริงแตกต่างกัน ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป.-สำนักข่าวไทย