ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.อาวุธปืน

ทำเนียบรัฐบาล 15 มี.ค.-ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.อาวุธปืน เปิดโอกาสให้ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย หรือส่งมอบคืนภายใน 180 วัน โดยไม่ต้องรับโทษ หวังแก้ปัญหาใช้ปืนก่อเหตุรุนแรง


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายผู้อื่นเพิ่มมากขึ้นทุกปี และอาวุธปืนที่นำมาใช้ในการก่อเหตุนั้น เป็นอาวุธปืนเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย อีกทั้ง มาตรการปราบปรามอาวุธปืนเถื่อนที่ใช้ในปัจจุบัน ยังไม่บรรลุผล เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะตรวจค้นได้ เฉพาะกรณีที่มีข้อมูลน่าเชื่อถือว่า บุคคลนั้นใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด มีพฤติการณ์ครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายหรือมีความเป็นไปได้ที่จะนำอาวุธปืนไปก่อเหตุร้าย หรือเป็นผู้มีส่วนร่วมกระทำความผิด ทำให้ยากต่อการควบคุม เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วานนี้(13 มี.ค.) มีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….

“ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปีน พ.ศ. 2490 โดยกำหนดให้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่อยู่ภายในราชอาณาจักรมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการนำเข้าอาวุธปืนจากประเทศเพื่อนบ้านมาขึ้นทะเบียน หรือให้ส่งมอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้คืนแก่นายทะเบียนภายในระยะเวลาที่กำหนด และกำหนดเพิ่มเติมให้นายทะเบียนท้องที่จัดทำรายละเอียดและจัดเก็บอัตลักษณ์เกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ มีดังนี้

  1. ให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวมาขอรับอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในระยะเวลา 180 วัน โดยไม่ต้องรับโทษ
  2. ให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ที่กฎหมายไม่อนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองหรือจำหน่าย เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการทำลายสูงเป็นอันตรายต่อประชาชน ให้ผู้ที่มีอาวุธปืนดังกล่าวนำมามอบให้แก่หน่วยทหารที่ใกล้ที่สุดภายใน180 วัน โดยไม่ต้องรับโทษ ทั้งนี้ ทางราชการไม่จำเป็นต้องชดใช้ราคาและให้อาวุธปืนนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
  3. ให้นายทะเบียนท้องที่มีอำนาจในการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืนที่นำมาดำเนินการทางทะเบียน เช่น การทำเครื่องหมายทะเบียน การโอนการแจ้งย้ายไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งอาวุธปืนที่นำมาขึ้นทะเบียนขออนุญาต เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องทางทะเบียนอาวุธปืน การตรวจสอบหาอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรม หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการ .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ