มท.1 เน้นย้ำผู้ว่าฯ ต้องเป็นพ่อเมืองที่บริหารจัดการพื้นที่ทุกมิติ

กทม. 10 มี.ค.- มท.1 มอบนโยบายผู้บริหาร มท. – ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เน้นย้ำ ผู้ว่าฯ ต้องเป็นพ่อเมืองที่บริหารจัดการพื้นที่ในทุกมิติ พร้อมเร่งยกระดับการแก้ปัญหา PM2.5 ปัญหายาเสพติด และขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการขยะอย่างจริงจัง


วันนี้ (10 มี.ค. 66) เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยนายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ร่วมมอบนโยบายด้วย โดยมี นายอนุชา โมกขะเวส ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารฝ่ายการเมือง คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม นายสมคิด จันทมฤก นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธนิศร์ วงศ์ปิยะสถิตย์ นางสาวสิริมา วัฒโน นายสุภกิณห์ แวงชิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกรม ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำหน้าที่เป็น “พ่อเมือง” เป็นผู้นำการบริหารพื้นที่ และเป็นผู้นำการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ชีวิตที่ดี ทั้งการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย การส่งเสริมด้านการทำมาหากินและการหารายได้ของพี่น้องประชาชนซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยหยิบยกตัวอย่างกรณีการส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ในทุกมิติ ทั้งการทอ การตัดเย็บผ้าไทย ผ้าขาวม้า หรือผ้าชนิดอื่น ๆ ตามอัตลักษณ์ของท้องถิ่นไทย ซึ่งที่ผ่านมาองค์กรภาครัฐยังขับเคลื่อนได้ระดับหนึ่ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นผู้นำการพัฒนาและร่วมกันบูรณาการกับทุกภาคส่วนช่วยกันสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน


“ในด้านปัญหายาเสพติดและการดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม เป็นประเด็นสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักและต้องจริงจังในการแก้ไขปัญหา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ต้องจับมือกับทุกภาคส่วน ทั้งทหาร ตำรวจ สาธารณสุข วัด สถานศึกษา และภาคประชาสังคม ที่เป็นภาคีเครือข่าย ผนวกกำลังกับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ระดมสรรพกำลังช่วยกันลด Demand Side และ Supply Side ของยาเสพติดให้ได้ ภายใต้แนวทางในการทำงาน (Framework) ที่เป็นโมเดลอย่างชัดเจน โดยในการลด Demand Side ที่เป็นต้นน้ำนั้น จะต้องไม่ให้มีผู้เสพรายใหม่เกิดขึ้น เริ่มต้นจากการทำให้สถาบันครอบครัวมีความเข้มแข็ง เพราะครอบครัวสำคัญที่สุด หากเราทำให้ไม่มี Demand Side ก็จะไม่เกิด Supply Side และปัญหายาเสพติดก็จะหมดไปจากสังคมไทยได้ นอกจากนี้ ในด้านการติดตามผู้ได้รับการบำบัดฟื้นฟู ให้ใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงไปติดตาม (Follow up) ดูแลผู้ป่วยยาเสพติดไม่ให้กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก พร้อมทั้งให้กำลังใจครอบครัว ช่วยประคับประคองดูแลให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น ด้วยความเข้าใจ และติดตามถามไถ่อย่างต่อเนื่อง” มท.1 กล่าวในช่วงต้น

มท.1 กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า เพื่อลดมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่หลายพื้นที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ให้บูรณาการทุกหน่วยเข้มงวดกวดขันมาตรการที่สอดคล้องกับระดับของค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ และหากว่ามีค่าฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องใช้มาตรการตามกฎหมาย ไม่ให้มีการกระทำกิจกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดมลพิษโดยเร่งด่วน ทั้งด้านการสัญจร-คมนาคม การก่อสร้างที่พักอาศัย หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงกับสภาวะอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเผาในที่โล่ง การเผาในพื้นที่ป่า ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย ต้องสร้างความรับรู้เข้าใจกับประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลและหากพบผู้กระทำความผิดต้องเร่งดำเนินคดีโดยทันที พร้อมทั้งให้ความรู้และระดมทีมระดับจังหวัดหาวิธีการที่นำเศษซากที่เหลือจากการเกษตรไปทำกระบวนการอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดประโยชน์ เช่น ทำถ่าน ทำฟืน เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษมากขึ้นและกำหนดมาตรการแก้ปัญหาในระยะยาวให้ได้

“ในด้านการบริการภาครัฐที่ต้องปรับตัวให้สอดรับกับพลวัตความเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบัน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบและใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้พัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (DOPA-Digital ID) เพื่ออำนวยความสะดวกและสนองตอบความต้องการของพี่น้องประชาชนในการติดต่อกับราชการโดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานทะเบียน และให้กรมการปกครอง ได้ประสานความร่วมมือรวมทั้งชี้แจงให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทุกสังกัดได้รับทราบและเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลของหน่วยงานนั้น ๆ กับ DOPA-Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวกและทำให้การบริการประชาชนในทุกมิติสอดรับกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งพร้อมที่จะเปิดตัวในชื่อแอปพลิเคชัน “ThaID”” มท.1 กล่าวเพิ่มเติม


พลเอก อนุพงษ์ฯ ยังได้กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะถึงนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้นำท้องที่ เตรียมการสนับสนุนทั้งด้านสถานที่และบุคลากร การสนธิกำลังพลในการอำนวยความสะดวกในพื้นที่เลือกตั้ง รวมไปถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ โดยเน้นย้ำว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ข้าราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านทุกคนเป็นข้าราชการและเป็นคนของทางราชการที่ต้องรับใช้พี่น้องประชาชน ดังนั้น ต้องวางตัวที่เป็นกลางทางการเมือง ตั้งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างสุจริต พร้อมทั้งกล่าวถึงการดำเนินงานในฐานะนายทะเบียนการจัดตั้งมูลนิธิ หรือการประกอบกิจการใด ๆ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามลงพื้นที่ตรวจสอบใบอนุญาตจัดตั้งมูลนิธิที่ผิดกฎหมายหรือมูลนิธิที่ไม่ดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับ หากพบเจอสามารถขอคำสั่งศาลเพื่อยกเลิกมูลนิธินั้นในทันที และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบวีซ่า (VISA) การทำงานของผู้ประกอบการชาวต่างชาติว่ามีใบอนุญาตและเอกสารที่เกี่ยวข้องถูกต้องหรือไม่ เพื่อป้องกันการแอบแฝงของนายทุนต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือกระทำการโดยมิชอบภายในประเทศ อย่างเคร่งครัด

พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้ายว่า ในเรื่องการแก้ไขปัญหาขยะที่เป็นปัญหาหมักหมมและส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะโลกร้อน เพราะทุกวันนี้มีการทิ้งขยะไม่ถูกที่และไม่ทิ้งในที่ทิ้งขยะ ทำให้เรามักพบขยะได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สาธารณะ ท่อระบายน้ำ แม่น้ำลำคลอง รวมไปถึงทะเล ซึ่งถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีกระบวนการจัดการขยะที่ดี แต่ถ้าคนทิ้งขยะไม่นำขยะไปทิ้งให้ถูกที่ แม้จะมีมาตรการดีแค่ไหน ก็ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนถึงคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ต้องช่วยกันควบคุมดูแล รณรงค์ส่งเสริมให้ชาวบ้านทิ้งขยะในที่ทิ้ง ตลอดจนสร้างเสริมนิสัยการเก็บขยะ เป็นมนุษย์ 3ช (3Rs) ใช้น้อย Reduce ใช้ซ้ำ Reuse นำกลับมาใช้ใหม่ Recycle และกำหนดให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมรับผิดชอบพื้นที่บริเวณโดยรอบ รวมถึงการจัดการน้ำเสีย ซึ่งที่กล่าวมาเป็น ความท้าทาย (Challenge) ของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะทำให้พื้นที่ของเราเป็น “จังหวัดสะอาด” สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ครอบคลุมไปถึงเรื่องการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน และการส่งเสริมต่อยอดคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยน้อมนำพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มุ่งสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัว และการพึ่งพาตนเอง เฉกเช่นที่พระองค์ให้ความสำคัญกับ “ดิน”และ “น้ำ” ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของมนุษย์โลก โดยเน้นย้ำว่า “ทำอย่างไรให้มีกินก่อน” ทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีความสุขในการดำเนินชีวิต นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ด้านนายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโลกเราเข้าสู่โลกของเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต้องมีการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดและดำเนินต่อไปได้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีนโยบายผลักดันให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานเพื่ออำนวยความสะดวกและสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนให้เกิดเป็นรูปธรรม อีกประการหนึ่ง คือ เรื่องการอุปโภคบริโภคของพี่น้องประชาชน ประเทศไทยกำลังเข้าสู่หน้าแล้ง จึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการน้ำด้วย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คือ องค์การจัดการน้ำเสีย ที่สามารถเป็นผู้ช่วยและที่ปรึกษาด้านวิชาการในการดำเนินงานของผู้ว่าราชการจังหวัดได้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาค ท้องถิ่น และประชาชน และขอฝากให้เน้นย้ำข้าราชการทุกคนต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง เพราะเราจะมีผู้นำที่ดีได้ต้องมาจากการเลือกตั้งที่ดี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]