อสมท 3 มี.ค. – ผอ.ศูนย์นิด้าโพล ชี้นาทีนี้ ”พล.อ.ประวิตร” ยังมีโอกาสสูงได้นั่งเก้าอี้นายกฯ สมัยหน้า เหตุโพลระบุเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ จึงต้องอาศัยเสียง ส.ว. ในมือ แนะจับตาหลังเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตชัดๆ ว่าคะแนนสวิงหรือไม่ หลังมีแกปคนเลือกเพื่อไทยไม่เลือก “อุ๊งอิ๊ง”
ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” วิเคราะห์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนาทีนี้ใครมีภาษีดีกว่ากัน ว่า หากดูจากคะแนนโพลในขณะนี้แม้ว่าแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำก็จริงแต่ไม่ถึงขั้นแลนด์สไลด์ หรือหากจะแลนด์สไลด์ก็คงไม่มากถึงขั้น 300 กว่าเสียง ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คาดหวังไว้ ซึ่งหากได้ ส.ส. ไม่ถึง 200 เสียง การที่พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลได้ จะต้องอาศัยเสียงจาก ส.ว. และพรรคที่เป็นไปได้ คือพรรคพลังประชารัฐ
อย่างไรก็ตามโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อก็มี แต่เป็นไปได้ยากมาก เพราะต้องอยู่บนเงื่อนไขที่จะต้องรวมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้เกินกึ่งหนึ่ง และควรต้องได้เสียง ส.ส. มากกว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่เช่นนั้นเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร คงไม่ยอม เนื่องจากอยู่เบื้องหลังมาหลายปีแล้ว และต้องได้เสียงมากกว่าพรรคภูมิใจไทยไม่น้อยกว่า 10 เสียง ดังนั้นคนที่มีโอกาสเป็นไปได้สูงสุดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
“ถ้าไม่แลนด์สไลด์ การที่พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่อาศัยเสียง ส.ว. สนับสนุนจึงเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด ดังนั้นคนที่มีโอกาสเป็นไปได้สูงสุดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคือบิ๊กป้อม เพราะได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะเป็น “โซ่ข้อกลาง”หรือนายกรัฐมนตรีปรองดอง พร้อมร่วมกับทุกพรรค จึงมีโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐมากกว่าพรรคอื่นๆ“ ผศ.ดร.สุวิชา กล่าว
ส่วนหากพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่พอใจหรือไม่ ผอ.ศูนย์นิด้าโพล กล่าวว่า ในขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่กล้าประกาศว่าจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือจับมือกับพรรคใดก็ตาม เพราะเกรงจะเสียคะแนน และหากได้ ส.ส. ต่ำกว่า 200 คน ก็จะถือว่าจบเกมส์ ดังนั้นไม่มีการพูดถึง “ดิวส์” นี้ แม้ว่าพล.อ.ประวิตร จะพยายามส่งสัญญาณว่าพร้อมร่วมกับใครก็ได้ และความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลเอง โดยพยายามรวมเสียงให้ได้เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา แต่กรณีนี้มีความเป็นไปได้ยาก เพราะเชื่อว่าบางพรรค เช่น พรรคประชาธิปัตย์ อาจจะไม่ยอมมาร่วมด้วย แต่ก็ไม่แน่ ดังนั้นหากรวมเสียงไม่ได้จริงๆ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะยอมถอยให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน 1-2 ปี รอให้ ส.ว. หมดอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีก่อน
เมื่อวิเคราะห์ตัวบุคคลแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยที่ขณะนี้เห็นมี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยกับนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนั้น ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวว่า ขณะนี้มี 2 ชื่อ ไม่แน่ใจว่าจะมีชื่อที่ 3 หรือไม่ และไม่แน่ใจว่าเปิดชื่อมาแล้วจะ “ปัง”แค่ไหน และความจริงมีชื่อนายเศรษฐามาพักหนึ่งแล้ว แต่พรรคและตัวนายเศรษฐายังไม่ชัดเจนว่าจะลงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ จึงส่งผลให้ตอนเก็บข้อมูลทำโพล คะแนนของนายเศรษฐาจึงยังน้อยอยู่ ดังนั้นต้องรอดูว่าหากเปิดตัวแล้วคะแนนนิยมจะมาหรือไม่ และมาจากไหน เพราะขณะนี้คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยนำคะแนนนิยมของน.ส.แพรทองธาร แสดงว่ามีช่องว่างอยู่ และแสดงให้เห็นว่าคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยกลุ่มหนึ่งไม่เอาน.ส.แพรทองธาร จึงต้องดูว่าเทคะแนนนี้ไปให้ใคร หากเทไปที่นายเศรษฐา ก็เท่ากับตะกร้าเดียวกัน ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไป เพราะบางคนอย่างเช่น พล.อ.ประวิตร ที่เปิดตัวแรกๆ ยังไม่มีคะแนน แต่พอลงพื้นที่พบปะประชาชน เดินตลาด ยิ้มหวานๆ คะแนนก็เริ่มมา
ส่วนความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยาของนายทักษิณนั้น ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวว่า ยังไม่ได้ยินข่าวชัดเจน ขณะนี้เหมือนเป็นแค่การ “โยนหินถามทาง” ว่าจะเอาหรือไม่ ซึ่งตนไม่คิดว่าคุณหญิงพจมานจะลงสมัครเอง เพราะที่ผ่านมาเป็นผู้ที่บอกให้นายทักษิณเลิกเล่นการเมืองด้วยซ้ำ. สำนักข่าวไทย