อาคารหอการค้าไทย-จีน สาทร 3 มี.ค.- “เศรษฐา” ประเดิมงานแรกนำทีมเพื่อไทยพบหอการค้าไทย-จีน ชี้ประเทศต้องการผู้นำออกไปเจรจาการค้ากับต่างประเทศได้ ลั่นหากได้เป็นรัฐบาลจะเปิดตลาดการค้าในจีนทุกมิติ
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กทม. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. และนายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการค้า การลงทุนระหว่างประเทศกับนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการและกรรมการ หอการค้าไทย-จีน ที่อาคารหอการค้าไทย-จีน
นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นงานแรกที่ตนมาทำงานในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาคมไทย-จีน ซึ่งไทยกับจีน มีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน และมีความผูกพันในเชิงพาณิชย์ โดยปริมาณการค้านำเข้า ส่งออกกับประเทศจีน ถือเป็นเบอร์ต้นของประเทศไทย อีกทั้งคนไทยส่วนมากมีเชื้อสายจีน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศจีนเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย และถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ได้มาพบกับสมาคมไทย-จีน เพราะอีก 60-70 วัน จะเลือกตั้ง เรื่องการค้าต่างประเทศ ภูมิรัฐศาสตร์เป็นเรื่องที่สำคัญและบอบบาง ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเกิดขึ้นมากมายในโลก
“การเลือกตั้งครั้งต่อไปถือเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันที่ผูกพันกับสมาคมไทย-จีน มาอย่างยาวนาน และนโยบายที่เคยออกมาในอดีตตั้งแต่สมัยไทยรักไทย พลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทย เป็นนโยบายที่โดนใจประชาชนมาตลอด โดยให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศสูงสุด และไม่อยากจะลงรายละเอียดมากมายกับอดีต 5-6 ปี หรือ 8 ปี ที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าเราสามารถทำได้ดี ทำได้มากขึ้นไปอีก ในแง่ของการต้องการมีผู้นำที่ออกไปเปิดตลาดการค้าให้กับประเทศไทย พบปะเจรจากับนักธุรกิจ ผู้นำของประเทศจีน” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราขาดดุลการค้ากับประเทศจีนค่อนข้างมาก ในฐานะคนไทยคนหนึ่งอยากเห็นภาคธุรกิจไทยส่งออกสินค้าไปประเทศจีนให้มากขึ้น ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และได้เข้าไปบริหารประเทศ ประเทศจีนจะเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญมากในการเปิดตลาดเพิ่มขึ้นทุกมิติ พร้อมหวังว่า ในการมาพบปะกันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายระหว่างพรรคเพื่อไทยและสมาคมไทย-จีน โดยหวังว่าจะได้พบปะกันบ่อยขึ้น
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรมีมาตรการเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อฟื้นฟู กระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการแก้ไขเรื่องแรงงาน ดึงคนไทยกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน รวมถึงมีมาตรการส่งเสริมธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี มาตรการควบคุมราคาสินค้า เพื่อดูแลค่าครองชีพ อีกทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุนนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ไทยควรเร่งดำเนินการเรื่องรถไฟความเร็วสูงจากไทยไปลาวเชื่อมต่อจีน เพราะจะช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-จีนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ ไม่เช่นนั้นนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศจะเดินทางลำบาก อีกทั้งขณะนี้ยังติดปัญหาวีซ่า ที่ทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งไทยและจีนนั้นยังติดขัด ส่วนนโยบายของพรรคเพื่อไทยจากการพูดคุยกัน
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า มีหลายนโยบายที่น่าสนใจ และมีอีกหลายเรื่องที่ได้เสนอแนะกลับไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ขอออกความเห็นว่าเชื่อมั่นในพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ แต่หากพรรคไหนที่ทำเพื่อพัฒนาประเทศก็พร้อมสนับสนุน
.-สำนักข่าวไทย