พรรคการเมืองลุยพื้นที่เปิดหน้าชนไม่เกรงใจกันแล้ว

อสมท. 2 มี.ค. –“วันวิชิต” อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์ มองพรรคการเมืองลุยลงพื้นที่เร็ว ไม่รอยุบสภา เป็นการเปิดเกมชน หมดเวลาเกรงใจ มีโอกาสตอบโต้จุดอ่อน โชว์จุดแข็งผ่านนโยบายมากขึ้น


นายวันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงจัดเวทีปราศรัยโดยไม่รอวันยุบสภา ว่า นับจากนี้พรรคการเมืองคงไม่รอให้วันยุบสภาเป็นวันที่นับหนึ่งในการหาเสียงแล้ว เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว และต้องเปิดเกมชนอย่างตรงไปตรงมา หมดเวลาเกรงใจกันแล้ว เพราะท้ายที่สุดความได้เปรียบทางการเมืองคือตัวเลขที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ถ้าได้เกินเป้าหรือตามเป้า อำนาจต่อรองจะยิ่งมากขึ้น ที่สำคัญเป็นการทบทวนว่าตลอด4 ปีที่ผ่านมาแต่ละพรรคการเมืองมีผลงานอะไรบ้าง ติดขัดอุปสรรคปัญหาอย่างไร เพราะอาจมีบางพรรคการเมืองที่เล่นการเมืองแบบตัดแข่งตัดขาจะได้ชี้แจงกับประชาชนได้ถูก

นายวันวิชิต กล่าวว่า การทำการเมืองต่อเนื่องหลายวันจะได้แก้เกม แก้แท็คติก และยังได้ โปรโมทนโยบายใหม่ ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อแต่ละพรรคมีนโยบายออกมาก็จะเกิดการเปรียบเทียบ ระหว่างนโยบายเก่ากับนโยบายใหม่และยังมีพรรคการเมืองอื่นด้วย จากนั้นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก็จะมาเลือกว่านโยบายใดที่จูงใจและสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองได้รับประโยชน์ เพราะฉะนั้นการทำนโยบายในการหาเสียงกกต. ต้องตรวจทานว่าเป็นนโยบายที่ทำได้หรือโฆษณาเกินจริง


“แต่ที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมือง พอมาเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ จะอ้างเรื่องงบประมาณหรือปัจจัยแทรกอื่นอย่างสถานการณ์ โควิด-19 แม้ดูว่าเป็นคำแก้ตัวแต่ก็ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของพรรคการเมืองนั้น ๆ เช่น พรรคภูมิใจไทย มีนโยบายกัญชา ขับเคลื่อนโครงสร้างคมนาคมถือว่ามีความโดดเด่น แม้ว่าจะถูกจับผิดวิพากษ์วิจารณ์ แต่อย่างน้อยการบรรลุเป้า ทำตามนโยบายก็เห็นแนวคิด ความรู้สึกและกระแทกไปถึงประชาชนว่าตอบรับมากน้อยแค่ไหน หากไม่ดีก็หยุด หากดีก็ทำต่อเนื่อง” นายวันวิชิต กล่าว

นายวันวิชิต กล่าวว่า นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติประกาศออกมาก็แสดงให้เห็นว่า เรื่องนี้จะเป็นการกระตุ้นไปยังฐานเสียงของกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ส่วนพรรคเพื่อไทยก็โยนนโยบายแนวคิดเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี 25,000 บาท ตามเงื่อนไขความสามารถ และค่าแรงขึ้นต่ำตามขึ้นบันไดภายใน 4 ปี แน่นอนว่าเป็นนโยบายดึงดูดและนำไปสู่การกระตุ้นความรู้สึกว่านำไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมาแนวคิดที่แปลกใหม่หรือความมั่นใจที่พรรคเพื่อไทยคิดว่ามีโอกาสซึ่งก็เป็นทางเลือกอีกแบบนึง ขณะที่พรรคก้าวไกลมีความโดดเด่นเน้นเรื่องการปฏิรูปทั้งการเมือง กองทัพ และระบบสวัสดิการต่าง ๆ ซึ่งต้องการพุ่งเป้าไปยังฐานเสียงที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล จึงเป็นช่วงที่ต่างฝ่ายต่างเน้นจุดแข็งของตนเอง เพื่อนำไปสู่การแข่งขัน

“ในช่วงแรกของการหาเสียง แต่ละพรรคการเมืองจะเน้นไปที่นโยบายเบื้องต้นและกลุ่มฐานเสียงของแต่ละพรรค ส่วนกระบวนการต่อไปจะเป็นการเปรียบเทียบจุดแข็งและจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม เพื่อเชิญชวนว่าทำไมต้องเลือกนโยบายของพรรค จะเห็นว่าในช่วงหลังตอบโต้ลักษณะว่านโยบายเช่นนั้นทำไม่ได้จะเอาเงินงบประมาณมาจากไหน ซึ่งเป็นการลดคุณค่าหรือโจมตีไปยังจุดอ่อน พรรคที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องแก้ต่าง หรือสร้างชุดคำอธิบายมาทักท้วง ซึ่งวิธีการนี้ทำให้สังคมมีความสร้างสรรค์ เกิดการแลกเปลี่ยน และนำนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองมาศึกษา พูดคุยกันมากกว่าการโจมตีใส่ร้ายกัน เป็นการยกระดับคุณภาพการหาเสียง เมื่อก่อนจะใช้รูปแบบการกล่าวหากันโดยตรงว่าพรรคการเมืองนั้นซื้อเสียง พรรคนั้นคอรัปชั่น และอาจจะเป็นเพราะกฎหมาย การเลือกตั้งว่าหากมีการหาเสียงแบบใส่ร้ายป้ายสีก็อาจถูกฟ้องและถูกยุบพรรคได้ และทำให้เกิดอุปสรรคเท่ากับเป็นการบังคับให้ทุกภาพอยู่ในเกมที่สร้างสรรค์” นายวันวิชิต กล่าว


ส่วนรูปแบบที่พรรคการเมืองจะใช้สู้ศึกเลือกตั้งจะเปลี่ยนไป เน้นใช้นโยบายหาเสียงมากกว่าการโจมตี ซึ่งเป็นจากการเมืองแบบเดิมใช่หรือไม่ นายวันวิชิต  กล่าวว่า แน่นอนว่าการต่อสู้เชิงนโยบายจะแตกแขนงหลากหลายมากขึ้น จะเห็นได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2562 โดยเฉพาะเวทีดีเบตที่ไม่ยึดติดตัวบุคคล ว่าต้องเป็นระดับหัวหน้าพรรคหรือแกนนำระดับต้น แต่พบว่ามีผู้เชี่ยวชาญแต่ละเรื่องของแต่ละพรรค เช่น นโยบายด้านพลังงาน นโยบายด้านความมั่นคง ฯ ซึ่ง แต่ละพรรคการเมืองก็จะส่งขุนพลที่ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคมา เพื่อสร้างความหลากหลายและถือเป็นอาวุธเด็ด ว่าแต่ละพรรคมีบุคลากรที่มีความหลากหลาย มากความสามารถนำไปสู่การจูงใจ และดึงดูดใจประชาชนได้ศึกษากึ๋น และเห็นแนวทางของแต่ละพรรคการเมือง ว่านโยบายทำได้จริงหรือโฆษณาชวนเชื่อเท่ากับว่าเวทีดีเบตแบบนี้ ทำให้ประชาชน ได้เห็นและเรียนรู้ไปด้วยกันขณะเดียวกันเป็นการบังคับให้แต่ละพรรคการเมืองต้องปรับตัว หากไม่มีความพร้อมทุกมิติอย่างรอบด้าน ทุกนโยบาย พรรคนั้นอาจจะไม่ได้รับการเชิญไปร่วมเวทีดีเบตสุดท้ายก็จะเป็นตัววัดว่าพรรคไหนมีความเจนจัดรอบด้านเรื่องนโยบายมากกว่ากัน เป็นเรื่องเรียงลำดับของพรรคที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล และการออกเวทีดีเบต จะทำให้เห็นถึงการชิงไหวชิงพริบกันมากขึ้น

เมื่อถามว่าตัวบุคคลมีความสำคัญอย่างไร อย่างกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ในช่วงนี้ นายวันวิชิต กล่าวว่า เป็นการยกระดับความมั่นใจ และเป็นการทำให้เห็นถึงความหลากหลาย ซึ่งกรณีของนายเศรษฐาเป็นการโยนก้อนหินถามทางมาหลายเดือนแล้ว และยังไม่แน่ชัดว่าจะเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ แต่การเข้ามาเป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ ช่วยสะท้อนภาพให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยจริงจังกับการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นการจุดประกายความหมาย ว่าต้องการเอาชนะในพื้นที่เขตเมือง ต้องยอมรับว่าในต่างจังหวัดพรรคเพื่อไทยถือว่ามีฐานเสียง ดังนั้นการมีมือเศรษฐกิจระดับมืออาชีพ ประสบความสำเร็จ ผ่านแวดวงธุรกิจมาก่อน จะเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากขึ้น พร้อมมองว่าจากนี้คนระดับมีชื่อเสียงของแต่ละพรรคการเมือง ถ้าจะไปดีเบตแบบแข่งขันซึ่งหน้า อาจจะเลี่ยง เพราะบางพรรคการเมืองระดับแกนนำไม่เจนจัดในการพูด แต่อาจเลือกวิธีการพูดเปิดใจมากกว่า เชื่อว่าจะได้เห็นแบบนี้มากขึ้น

ส่วนการเลือกตั้งจะจะดุเด็ด เผ็ดมันส์เพียงใด เพราะตอนนี้ก็เริ่มโจมตีดิสเครดิตกันแล้ว นายวันวิชิต กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าข่าวลือ หรือเฟคนิวส์ เริ่มมีมากขึ้นรายวัน อาจมาจากความไม่พอใจ ซึ่งประชาชนต้องดูว่านี่เป็นเกมการเมือง เห็นความไม่ตรงไปตรงมาทางการเมืองก็น่าจะปล่อยของออกมานานแล้ว แต่ดันมาปล่อยช่วงการเลือกตั้งเมือง เป็นการลดคุณค่า อย่างกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับพรรคภูมิใจไทยก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องการเมืองล้วน เป็นการเมืองที่มีเรื่องเบื้องหลัง และใช้ความมีวาทะศิลป์ของนายชูวิทย์ หากมองในมุมการเมืองก็จะรู้ว่านี่คือการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ แต่จะไปกระทบกับความรู้สึกของคนที่ไม่ได้สนใจการเมืองอย่างจริงจังกับน้ำหนักที่นายชูวิทย์กล่าว นี่ไม่ใช่กรณีแรกอาจมีกรณีบุคคลที่มีชื่อเสียงออกมาร้องเรียน เปิดโปง ส่วนหลักฐานจะมีหรือไม่ไม่ทราบ แต่เพื่อให้สังคมคล้อยตาม ซึ่งการทำให้มีเฟคนิวส์ลักษณะนี้เชื่อว่าจะมีไปจนถึงวันเลือกตั้ง

“การแข่งขันนโยบายเป็นการชี้วัดว่าประชาชนต้องการ ทิศทางประเทศอย่างไรทั้งเศรษฐกิจสังคม หากนโยบายไหนถูกใจกระชากใจประชาชนก็จะเป็นทิศทางบังคับว่าประเทศไทยจะก้าวไปในทางใดซึ่งการชูนโยบายในการแข่งขันทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองมากขึ้นไม่ยึดโยงกับปัจเจกบุคคลไม่ยึดโยงกับจิตวิญญาณของพรรคแต่ยึดโยงเรื่องการต่อสู้เชิงนโยบายที่สร้างสรรค์มากขึ้น” นายวันวิชิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย