รัฐสภา 28 ก.พ.- “นิโรธ” แจงวิปรัฐบาลยื่นศาล รธน.ตีความ พ.ร.ก.ขยายเวลา พ.ร.บ.อุ้มหาย เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ไม่ใช่ปล่อยให้ลงมติไปแล้วยื่นภายหลัง เสียหายต่อสภาฯ ยันไม่ได้ยื้อให้ล่าช้า แต่การออกพ.ร.ก.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายว่า ร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าวไม่น่าจะชอบหรือน่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญที่กำหนดเงื่อนไขความเร่งด่วนจำเป็น ว่า รัฐบาลไม่ได้มีเจตนาจะหน่วงให้ล่าช้า แต่เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่ต้องดูแลความเรียบร้อยของหน่วยงานกับประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด จึงขอขยายระยะเวลา
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมวิปรัฐบาลได้เชิญตำรวจเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงเหตุผลการขยายระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนตัวผมเห็นว่า หากจะลงมติคว่ำไปเลย ก็จะเดินหน้าลำบาก เพราะผลกระทบส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในชนบทด้วย ทั้งนี้ หากฝ่ายค้านเรียกร้องให้ลงมติ ผมก็มองว่าแม้สภาฯจะมีอำนาจก็จริง แต่หลายครั้งโหวตแล้วก็ยังส่งเรื่องไปตีความในศาลรัฐธรรมนูญภายหลังจนสภาฯเกิดความเสียหาย เพื่อให้รอบคอบและไม่ให้สภา ฯ เสียหาย จึงคิดว่าควรยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าออก พ.ร.ก.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
“การเข้าชื่อในคำร้องที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยพ.ร.ก. ฉบับนี้น่าจะครบเรียบร้อย และอาจยื่นก่อนหรือระหว่างการประชุมสภาฯ ก็ได้ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 173 ซึ่งคำร้องของวิปรัฐบาลไม่ถือเป็นการยื้อการบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉบับนี้ออกไป แต่เพื่อให้หน่วยงานตามพ.ร.บ.อุ้มหายเดินหน้าได้ ซึ่งถ้ามองในแง่ร้ายก็บอกว่าเรายื้อ แต่ถ้ามองเป็นกลางและตรงไปตรงมา เราก็เห็นว่าการออกพ.ร.ก. น่าจะไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ” นายนิโรธ กล่าว
เมื่อถามว่า ความชะงักงันที่เกิดขึ้น ใครต้องรับผิดชอบ นายนิโรธ กล่าวว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เพราะหากคว่ำพ.ร.ก. รัฐบาลต้องลาออกหรือยุบสภาฯ หรือไม่ รัฐบาลไม่ทำอะไรเลยก็ได้ แต่คิดว่า รัฐบาลต้องเลือกยุบสภาฯ เพราะถึงอย่างไร ก็เลือกจะยุบสภาฯ อยู่แล้ว ดังนั้น เพื่อให้ประเทศและหน่วยงานเดินหน้าได้ เราจึงควรเลือกทางที่ดีที่สุดให้ประชาชน.-สำนักข่าวไทย