“อนุทิน” ไม่ให้ราคา “ชูวิทย์” สกัดภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.พ.- “อนุทิน” ไม่ให้ราคา “ชูวิทย์” สกัดภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล ชี้ เป็นกลเกมการเมืองช่วงใกล้เลือกตั้ง ปัดออกนโยบายเกทับพรรคอื่น ยันเป็นนายกฯ เอง หากคะแนนเสียงมากพอ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์กมลวิศิษฎ์ เตรียมจะเดินทางไปกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคัดค้านนโยบายกัญชา ว่า ทุกคนมีสิทธิ์ เพราะเป็นประชาชน เราต้องรับฟัง ทั้งนี้ไม่ได้ประเมินว่านายชูวิทย์ต้องพุ่งเป้าไปยังพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคก็ทำงาน และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรตามกฏหมายและรัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนมองว่าเรื่องนี้มีการเมืองอยู่เบื้องหลังนายชูวิทย์หรือไม่นั้น ตนเคยบอกแล้วว่า มีอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง และถือเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งเหมือนกัน เชื่อว่าจะไม่ทำให้คะแนนเสียงภูมิใจไทยลดลง เพราะพรรคภูมิใจไทยมีนโยบายและผลงานที่ชัดเจน ไม่เคยไปลอกเลียนผลงานคนอื่น เมื่อทำอะไรเราและประชาชนก็รู้ และ มีเส้นทาง หนทางของตัวเองอยู่แล้ว

ส่วนกลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลังนายชูวิทย์นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า รู้ว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทำไมจะต้องมาพูด เราก็ทำงานของเราไป ถ้าถามว่าเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นหรือไม่ ก็ไม่ใช่ เพียงแต่เราไม่ทำแบบนี้ ส่วนจะต้องคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะคุยไปก็ไม่มีประโยชน์


“เลือกตั้งเสร็จ ใครมีจำนวนส.ส.เท่าไหร่ ตรงนั้นจะเป็นตัวที่ว่าใครจะต้องคุยอย่างไร ใครจะมีเงื่อนไขอะไร ตอนนี้ก็เหมือนว่าทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ ทุกคนควรไปทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่ ให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด ภูมิใจไทยคิดอยู่แค่นี้ ถึงเดินทางร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ใครจะทำอะไรก็แล้วแต่ เราก็ทำงานของเราใกล้ชิดประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า เป็นแบบนี้ในคณะรัฐมนตรีจะมองหน้ากันได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มองกันอีกไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคณะรัฐมนตรีต้องแยกจากกัน ยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกอึดอัด เพราะมาทำงาน ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ส่วนจะส่งผลต่อการร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละพรรค ซึ่งก็ดี เพราะทุกคนจะได้ไปทำหน้าที่อย่างเต็มที่ บางครั้งต้องคิดถึงตัวเองบ้าง การที่จะไปคิดถึงคนอื่นมากเกินไปก็ไม่ดีกับตัวเอง

ส่วนที่นายชูวิทย์จะสกัดไม่ให้เป็นรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่รู้จะพูดอย่างไร ไม่ให้ราคา ส่วนความสัมพันธ์กับนายชูวิทย์นั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ได้โทรศัพท์มาพูดคุยและนัดรับประทานอาหารกัน


“ยังไม่ได้ทันได้นัดเลย มาว่ากันซะแล้ว ธรรมดาการเมืองรู้กันอยู่แล้ว คุณชูวิทย์กับผมหลายปี ลูกก็เป็นเพื่อนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องกลเกมทางการเมือง ก็ว่าไป ต่างคนต่างมีหน้าที่ เราก็ทำหน้าที่ ของเรา ใครอย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน” นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ จะต้องโทรคุยเพื่อเคลียร์ใจกับนายชูวิทย์หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนเคยโทรไปพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้เตรียมจะนัดรับประทานอาหาร แต่เมื่อโทรไปอีกครั้งนายชูวิทย์ ก็ไม่ได้รับสาย และเมื่อเกิดประเด็นต่างๆ ขึ้นมาก็ไม่ควรจะโทรหาแล้ว

“จริงๆเป็นคนรู้จักกัน และให้กำลังใจกันมาโดยตลอดเคยคิดจะทำการเมืองในกรุงเทพด้วยกัน แต่ พรรคภูมิใจไทยในขณะนั้น รู้สึกว่ากรุงเทพมันยาก ไม่เหมือนตอนนี้ ที่ได้ทีมของพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มาพอดี แกอาจจะโกรธมั้งที่ไม่ได้ไปชวน ส่วนเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นท่าทีของกระทรวงสาธารณสุขมาหลายปีแล้ว พูดกันมาตั้ง4ปีแล้ว เรื่องนี้อย่างที่บอกเป็นเรื่องเกมการเมือง เป็นการว่ากล่าวให้ร้าย เพื่อหวังผลประโยชน์หวังผลอะไรบางอย่าง” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาว่า ยังไม่ได้ติดตาม เพราะตนเองก็ลงพื้นที่พัทลุงและนครศรีธรรมราชเช่นกัน ไม่มีเวลาไปนั่งดูคนอื่น ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ทัังนี้ พรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายที่จะไปเกทับนโยบายพรรคอื่น เหมือนกับที่พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ ประกาศนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พอพรรคภูมิใจไทยไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่นและมั่นใจว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทย ถูกเรื่องเกี่ยวกับปากท้องประชาชนและเป็นสิ่งที่ทำได้รวดเร็วทันใจ ดังนั้นจึงมั่นใจในนโยบายของตนเอง

“เราอย่าไปบลัฟกัน พอบลัฟกัน ก็ทำให้เกิดความขัดแย้ง เสร็จแล้วข้อสุดท้ายก็บอกว่าจะเร่งสร้างความสามัคคีของคนในชาติ แต่ขึ้นเวทีทีไร ก็ใส่กันไม่มียั้ง ภูมิใจไทยไม่เลือกวิถีทางนี้ มันขัดแย้งย้อนแย้งกับเจตนารมณ์ ทุกพรรคไปดูสิธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ สร้างความสามัคคีเป็นปึกแผ่น ปรองดอง สร้างความมั่นคงในประเทศแล้วขึ้นเวทีก็ใส่กันเลย คนนี้เลว คนนี้ชั่ว คนนี้ไม่ดียังไง แล้วจะสามัคคีกัน เราต้องแน่ใจว่าเรามีสติตลอดเวลา” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน ยืนยันว่า หากผลการเลือกตั้งออกมาคะแนนของพรรคภูมิใจไทย มากกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติของพลเอกประยุทธ์นั้น ตนเองจะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง เพราะพรรคภูมิใจไทย ประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนแรกและคนเดียว ซึ่งประกาศมาร่วมสองเดือนแล้ว ดังนั้นหากจะมาบอกว่าไม่พร้อม ก็ถือเป็นการโกหกประชาชน จะมาประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯเล่นๆ นั้นไม่ได้ต้องทำให้ประชาชนเห็น ว่า พรรคประกาศนโยบายและแคนดิเดตนายกฯ คนนี้ จะทำสิ่งที่อยู่ในนโยบายให้เกิดผลสัมฤทธิ์ให้ได้ สมาชิกพรรคถึงเลือกแคนดิเดตคนนี้มาเป็นนายกฯ

ถ้าได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมากที่สุด ไม่เป็นก็หักหลักแล้วนะ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่พรรคภูมิใจไทยจะหักหลังประชาชน ต้องยึดถือพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ส่วนระหว่างเสียงของ ส.ว. กับเสียงประชาชนนั้น มั่นใจว่าเสียงประชาชน สำคัญกว่า ใหญ่กว่า มีความหมายมากกว่าเสียงใดๆอยู่แล้ว

ส่วนที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดนครราชสีมา ที่มีการกล่าวถึงสถาบัน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตามรับฟัง เพราะถ้ามัวแต่รับฟังพรรคอื่นจะเอาสมาธิที่ไหนไปปราศรัยของพรรคตัวเอง แต่ภูมิใจไทยก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เราจะไม่แตะเรื่อง มาตรา 112 เชื่อว่าตรงนั้นมีความเหมาะสม ชอบธรรมอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย