ขอบคุณนายกฯ หนุนถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย

ทำเนียบฯ 23 ก.พ. – คณะผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย เข้าขอบคุณนายกฯ ที่สนับสนุน ส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำคณะผู้บริหารจากสมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ และสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอบคุณที่สนับสนุนมาตรการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารจากกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยงและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีที่มาตรการของรัฐบาลเห็นผลสำเร็จและเป็นรูปธรรม ซึ่งมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Incentive Measure) เป็นมาตรการที่รัฐบาลให้ความสำคัญและผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ทั้งในด้านสถานที่ถ่ายทำที่มีความหลากหลาย รวมถึงบุคลากรในประเทศที่มีคุณภาพ โดยเชื่อมั่นว่ามาตรการที่รัฐบาลสนับสนุนจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน รวมถึงช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และ Soft Power ของประเทศ


นายกุลเทพ นฤหล้า นายกสมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ เป็นผู้แทนกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่สนับสนุนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กองถ่ายต่างประเทศ การอนุมัติงบประมาณกลาง การปรับอัตราการคืนเงินเป็นร้อยละ 20-30 เป็นระยะเวลา 2 ปี และการปรับเพดานการคืนเงิน ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจการประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย เชื่อมั่นว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดและจูงใจให้เกิดการลงทุนสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยมากขึ้น รวมถึงจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยซึ่งเชื่อมโยงกันอยู่ด้วย

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าไทยถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ของต่างประเทศที่มีศักยภาพ มีภาพยนตร์ดังที่มาถ่ายทำในไทยหลายเรื่อง สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมหาศาล เป็นต้นแบบให้กับหลายๆ ประเทศ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์การแข่งขันในตลาดโลกสูงขึ้น ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ขอให้รัฐบาลพิจารณาสนับสนุนมาตรการต่างๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากร และการปรับปรุงกฎหมายลูกต่างๆ เพื่อส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยให้เติบโตสู่ตลาดสากล

โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมให้การสนับสนุนในส่วนที่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ โดยมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการไปแล้วนั้น ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ และจะช่วยสร้างรายได้กลับคืนสู่ประเทศ ชุมชน และประชาชนท้องถิ่น พร้อมกันนี้ขอให้ผู้ประกอบการฯ ช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมของไทยไม่ให้เสียหาย ฟื้นฟูภายหลังถ่ายทำ รวมถึงดูแลเรื่องภาพลักษณ์ที่ดี และชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งจะช่วยประชาสัมพันธ์ต่อยอดสู่ภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน