นายกฯ ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช พบปะชาวบ้านเป็นกันเอง

จ.นครศรีธรรมราช 20 ก.พ. – นายกฯ ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช พบปะชาวบ้านถ่ายรูปเป็นกันเอง ย้ำรัฐบาลมุ่งต่อยอดพัฒนาสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน ขอทุกภาคส่วนทำงานเพื่อพัฒนาประเทศ-โชว์ฝีมือปรุงคั่วกลิ้ง สินค้าเด่นของกลุ่มแม่บ้าน หนุนสร้างรายสู่ชุมชน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี พร้อมรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่

เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปการจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ภายใต้แผนพัฒนาท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการให้บริการและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารสูงสุดในชั่วโมงเร่งด่วน จากเดิม 600 คนต่อชั่วโมง เป็น 1,600 คนต่อชั่วโมง มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นรวม 30,600 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่รันเวย์ ลานจอดเครื่องบิน ลานจอดรถ และส่วนอื่นๆ โดยความก้าวหน้าโครงการฯ ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 98.08


จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังอำเภอจุฬาภรณ์ เพื่อติดตามแนวทางการพัฒนาอำเภอจุฬาภรณ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งอำเภอจุฬาภรณ์เป็นอำเภอที่ประสบปัญหาการบริหารจัดการน้ำ อุทกภัยในฤดูน้ำหลาก และการขาดแคลนพื้นที่กักเก็บน้ำ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในฤดูแล้ง รวมทั้งขาดการส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยอำเภอจุฬาภรณ์มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่ในเส้นทางผ่านของถนนสายเอเชีย อาทิ ศิลาจารึกหุบเขาช่องคอย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 และอนุสรณ์สถานค่ายบางระจัน 2 ที่ชาวบ้านรวมตัวกันต่อสู้กับกลุ่มคอมมิวนิสต์ เป็นต้น

นายกรัฐมนตรียังได้พบปะทักทายเด็กนักเรียนและประชาชนที่มาให้การต้อนรับ โดยมีกลุ่มแม่บ้านอำเภอจุฬาภรณ์ ฟ้อนต้อนรับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง พร้อมสอบถามปัญหาและความเป็นอยู่ของประชาชนด้วยความห่วงใย ประชาชนต่างให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี บอกรักและให้นายกฯ สู้ๆ พร้อมขอเซลฟี่ถ่ายรูปคู่ท่ามกลางบรรยากาศที่มีแต่รอยยิ้มอย่างอบอุ่น

นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาพบกันอีกครั้ง จริงๆ เตรียมภาษาใต้มาหลายคำ แต่ลืมหมดแล้ว เพราะอยู่ท่ามกลางคนใต้ ก็เลยไม่ค่อยกล้าพูด ทำให้ลืมคำพูดที่เตรียมไว้หมดแล้ว แต่รู้ว่าคิดถึงจังฮู้ วันนี้มาตรวจราชการ ต้องการมาดูความคืบหน้าโครงการต่างๆ งบประมาณที่ใช้ไปจำนวนมากพอสมควร เกิดผลงานปรากฏขึ้นมา แต่ก็ยังไม่พอ ต้องทำอีกใช่หรือไม่ และทำในสิ่งที่ยังทำไม่ครบยังไม่สมบูรณ์ ส่วนที่ทำไปแล้วต้องทำต่อ และทำสิ่งใหม่ๆ จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่เป็นเอกลักษณ์หลายอย่างทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนปัญหามีเรื่องของการคมนาคม และปัญหาสำคัญคือสินค้าราคาเกษตร ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องหาวิธีการที่ดีและถูกต้องให้เกิดผลประโยชน์กับประชาชน เพื่อที่จะเจริญเติบโตไปด้วยกัน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งส่งเสริมแนวทางในการนำจุดเด่นของจังหวัดที่มีอยู่มาใช้ในการต่อยอด เพื่อสร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยว โดยพัฒนาการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการให้มีคุณภาพ ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืนและกระจายประโยชน์อย่างทั่วถึง ทั้งการต่อยอดการผลิตสินค้าและบริการด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรมจากการทำสินค้าที่ระลึก รวมทั้งการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยว ได้แก่ กลุ่มประเพณีศิลปวัฒนธรรม กลุ่มมรดกทางประวัติศาสตร์ กลุ่มท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชน โดยใช้โอกาสจากการบูรณาการการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัด หรือภายในจังหวัดนครศรีธรรมราชให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ เพื่อให้มีรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมผลักดันแนวทางการส่งเสริมเมืองรอง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สนใจมาสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น สนับสนุนการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว โดยทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือในการให้บริการทางการท่องเที่ยวและร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพื่อให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนต่อไป

นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศ พัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เจริญและมั่นคงในทุกด้าน ทั้งการบริหารจัดการน้ำ การท่องเที่ยว การต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะช่วยยกระดับชุมชนให้มีความโดดเด่น แตกต่าง ด้วยการดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพในท้องถิ่นให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง พร้อมทั้งช่วยกันสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับชุมชน สังคมของตนเองให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ปรุงคั่วกลิ้งเนื้อ ของดีอำเภอจุฬาภรณ์ ซึ่งมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ใช้เตาไม้ฟืนประกอบอาหาร หลังจากปรุงเสร็จนายกรัฐมนตรีได้ชิมแล้วพูดว่า “หรอยจังฮู้-หรอยแรง” พร้อมชูนิ้วหัวแม่มือให้แม่ครัว และให้คำแนะนำเรื่องการทำบรรจุภัณฑ์ในการจำหน่าย ก่อนจะเดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่อาคารอำนวยการและผู้ป่วยนอก ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]