นายกฯ ย้ำไม่ปล่อยทุจริต ลงโทษทุกคน ขออย่ายุแยงให้ขัดแย้ง

รัฐสภา 16 ก.พ. – นายกฯ ร่ายยาว ย้ำไม่ปล่อยทุจริต ลงโทษทุกคน แต่ขออย่าอยู่เบื้องหลังยุแยงให้ขัดแย้ง ยันจำเป็นต้องจัดหายุทโธปกรณ์ใหม่ บอกทหารอยู่กับความเสี่ยงทุกวัน เหตุยุทโธปกรณ์มีอายุมากกว่า 40 ปี ท้าฝ่ายค้านลองนั่ง C-130 พร้อมขอบคุณข้อมูลฝ่ายค้านนำไปปรับปรุง แนะรัฐบาลหน้าทำให้ดีกว่าก็แล้วกัน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงต่อการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เรื่องการแก้ปัญหาด้านที่ดิน ว่า รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นไปตามกฎหมายที่ได้กำหนดไว้ ตนคิดว่าคงเป็นไปได้ยาก แต่ทำอย่างไรให้ถูกต้อง ให้ทุกคนได้มีที่อยู่ที่อาศัยที่ทำกิน และสามารถที่จะส่งต่อไปให้ทายาทได้ แต่ถ้าหากเป็นโฉนดไปทั้งหมดก็จะหมดไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้มีที่ดินเพียงพอให้กับใครทั้งสิ้น ในอดีตก็เร่งรัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับภาครัฐ ซึ่งเราต้องมีนโยบายการบริหารที่ดินอย่างบูรณาการ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ดินของประเทศ ปี 2566 จนถึงปี 2580 จัดทำแนวเขตที่ดินของรัฐให้มีความชัดเจนเพิ่ม และรักษาพื้นที่ป่าธรรมชาติและป่าเศรษฐกิจไปด้วย รวมทั้งนำที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กระจายการถือครองที่ดินของประเทศให้มีการกระจายตัวมากขึ้น โดยเป้าหมาย 5 ปีนั้น คือการปรับปรุงแผนที่แนวเขตของรัฐ ซึ่งทำเสร็จแล้ว ส่วนเป้าหมายระยะ 10 ปี คือการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ และเป้าหมายระยะ 15 ปี คือเพิ่มพื้นที่ป่า โดยยอมรับว่า มีปัญหาอยู่พอสมควร หลายคนอยู่มาก่อน หลายคนอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน วันนี้ก็ต้องเคลียร์ตรงนี้ให้ได้ เราก็ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการทำงาน


“ผมรักประชาชนอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีกฎหมายกฎกติกากันบ้าง ทั้งนี้ มีการอนุมัติหลักการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนไปแล้ว โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ เพราะเกรงว่าให้ไปแล้ว ที่ดินมีจำกัด หลายคนอาจจะเดือดร้อน เอาไปขาย เอาไปจำนองอีก ก็ไม่มีที่อยู่เช่นกัน วันนี้ทำประโยชน์ให้มีที่อยู่อาศัยได้ และส่งต่อให้ลูกหลานได้ ขณะนี้ทำไปแล้ว 1.3 ล้านไร่ ท่านบอกว่าไม่มีผลงานเลย ผมว่าไม่ใช่ละมั้ง การทำงานใดๆ ก็ตามต้องมีหลักการ ไม่ใช่ว่าทำอย่างไรก็ได้ การที่ผู้อภิปรายพูดมา ลองทำดูว่าจะวุ่นวายขนาดไหน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า ตนไม่เคารพพระ การที่ผู้อภิปรายเอารูปมาแสดงในห้องนี้ ตนมองว่าไม่สมควร การที่ตนกำกับดูแลในเรื่องศาสนา ก็มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อยู่กับตนด้วย และก็มีสำนักพุทธฯ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่สามารถสั่งการอะไรได้เอง เพราะทั้งหมดต้องปรึกษาอยู่ในการอนุมัติอนุญาตของกรรมการมหาเถรสมาคม และในส่วนสำนักพุทธฯ ก็เป็นเลขาของมหาเถรสมาคม ฉะนั้นต้องมีการปรึกษาหารือความเห็นชอบอะไรต่างๆ

“ส่วนที่กล่าวหาว่าผมไปโอบคอพระนั้น ผมจำได้ว่าผมเดินอยู่กับพระ และท่านก็มาเกาะเหมือนเดินไปด้วยกัน ท่านก็มาแตะหลังผม ผมก็ประคองท่านไป แสดงถึงความไม่เคารพพระตรงไหน อีกรูปนั้น ฉวยโอกาสรูปที่ผมพนมมือแล้วพระท่านนั่งอยู่ ผมก็ยกมือไหว้เพื่อเดินผ่าน เพื่อทำอย่างอื่น ทำไมผมถึงไม่เคารพพระ ขอให้เข้าใจด้วย ผมคนไทยพุทธอยู่แล้ว ดูแลทุกศาสนาให้เกิดความสุข อยู่ร่วมกันในพหุสังคมทุกศาสนา 5 ศาสนาในประเทศไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวขอบคุณข้อมูลต่างๆ อันเป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ หลายอย่างเป็นข้อมูลที่ดี เพื่อปรับปรุงการทำงานต่อไป และทุกคนต้องเข้าใจว่า รัฐบาลต้องดูแลคนทั้งประเทศ และเราก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ก็คงไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันดูแลให้สังคมปลอดภัย คนดี คนไม่ดี ใครก็แล้วแต่ ก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ในฐานะรัฐบาลก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันเป็นสังคมที่มีคุณธรรม ไม่ขัดแย้งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ด้วยการยุแยงตะแคงรั่ว หรืออยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเหล่านี้คืออันตรายของประเทศไทย ตนเองขอยืนยันในความสุจริตว่า ทุกคนนั้นอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หากมีการกระทำความผิดก็จะไม่มีการยกเว้น เราต้องทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ต้องเคารพในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ หลายคนบอกว่า ตนทำความผิด ไม่มีการตรวจสอบ ทั้งที่ตนถูกตรวจสอบมาตลอด มีเรื่องมาทุกครั้ง ฟ้องมาเป็นร้อยคดีแล้ว ตนก็ชี้แจงไป จัดผู้แทนไปแก้คดี 300-400 คดีแล้ว ตนไม่ถูกตรวจสอบตรงไหน ตนไม่เข้าใจ ป.ป.ช. ตนก็แจ้งบัญชีทรัพย์สินไปแล้ว ครั้งที่แล้วที่บอกว่าตนไม่ได้แจ้ง ตนก็แจ้งไปแล้ว แม้กฎหมายบอกว่าไม่ต้องแจ้ง แต่ไม่เปิดเผยก็เรื่องของ ป.ป.ช. เข้าใจหรือยัง พูดอยู่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องเข้าใจก่อนว่า การปฏิรูปประเทศนั้นต้องอาศัยเวลาและความร่วมมือ ถึงจะไปได้ ความเห็นของท่านอันที่ดีกลับมาพิจารณา ถ้าได้ผลก็ทำให้ แต่ถ้ามีผลกระทบต่อคนอื่นก็จำเป็นต้องหารือกันให้ได้ข้อสรุปออกมา การปฏิรูปเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำวันเดียวเสร็จ เพราะปัญหาทับซ้อนมายาวนาน เราต้องมีแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำแผนระยะสั้น ระยะยาว การพูดอย่างเดียวและไม่ได้ทำ พูดยังไงก็พูดได้ ถ้าทำก็จะเจอปัญหาอย่างที่ว่า แล้วจะแก้ยังไง ถ้าไม่ใช้หลักการที่ยอมรับได้ บางอย่างก็เห็นผลแล้ว บางอย่างก็กำลังจะสัมฤทธิ์ผลเมื่อถึงเวลาของมัน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ พวกเราต้องอดทนยอมรับความเปลี่ยนแปลง เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องของกฎหมาย 6 กฎหมายที่ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้แก่ประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ได้แก่ 1. พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ ทำทุกอย่างให้โปร่งใส 2. พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ 3. พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 4. พ.ร.ก.แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 5. พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย ช่วยสังคมแทนการรับโทษทางอาญา 6. พ.ร.บ.กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา อย่างไรก็ขอให้ผู้กู้รายเก่าชำระคืนด้วย เมื่อตนพูดตอนนี้ไปแล้วก็ไปติดตามว่าจะได้ประโยชน์ตรงนี้อย่างไร หากไม่ฟังกันเลยก็ไม่ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น ก็จะมีแต่ปัญหา และหน้าที่ตรงนี้ เราต้องร่วมมือกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อแก้กฎหมายที่ล้าสมัยเหล่านี้ให้ได้ดีที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเรื่องของการปฏิรูปกองทัพ ได้มีการปรับลดกำลังพลกระทรวงกลาโหมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กองทัพมีความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นำระบบข้าราชการพลเรือนกลาโหมมาใช้ เพื่อลดจำนวนข้าราชการระดับสูง

“ทหารเกณฑ์ก็มีในส่วนของคนสมัครใจด้วย ผมเห็นว่าทุกอย่างกำลังเคลื่อนที่ไปได้ด้วยดี หลายคนบอกว่า ไม่ต้องมีหรอก ทหารเอาไว้ไปเป็นแล้วกัน มีเรื่องมาก็ไปอยู่ชายแดนกับเขาด้วยแล้วกัน มีเหตุการณ์ต่างๆ ก็ไปช่วยเขาด้วยแล้วกัน ไปช่วยกันแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งกับเขาด้วยแล้วกัน อย่าพูดปากเปล่าเฉยๆ วันนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าโลกเป็นอย่างไร จะบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย ความขัดแย้งพร้อมที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา เรื่องการปรับปรุงสวัสดิการกองทัพ เน้นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของกำลังพล รวมถึงครอบครัว เรื่องที่กล่าวมา ผมจะสอบสวนทุกอันในเรื่องผลประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ ถึงบอกว่าคนดีคนชั่วก็มี ถ้ามีเรื่องขึ้นมาก็ต้องดำเนินคดี ตรวจสอบลงโทษไม่มีข้อยกเว้น เรื่องยุทโธปกรณ์จำเป็นต้องมีความพร้อม วันนี้ถ้าบอกว่าไม่พร้อมไม่ต้องมีก็ได้ ซื้อแล้วจะมีการทุจริตการโกง ผมว่าคิดแบบนี้ไม่ได้ ตรรกะไม่ได้ ถ้าโกงก็เล่นงานไป ก็ลงโทษไป ก็ติดคุกไป ถ้าพูดอย่างนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรเลยหรือไง วันหน้าผมขอเชิญคนที่พูดไปขึ้นเครื่องบิน C-130 สักลำจะกล้าขึ้นไหม เพราะซ่อมมาอายุ 40 ปีแล้ว แต่ละลำเขาเสี่ยงกันเท่าไหร่ กล้าขึ้นหรือไม่ การจัดหายุทโธปกรณ์ก็ต้องคำนึงถึงภัยคุกคามใน 5-10 ปีข้างหน้าไปด้วย ผิดก็คือผิด ไม่ใช่อันนี้ก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่จำเป็น เอาไว้ถึงเวลาท่านมาเป็นให้ผมก็แล้วกัน เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็ไม่มีเวลาไปเกณฑ์ใครมาได้อยู่แล้ว ท่านบอกว่าเรียกมาฝึกสักเดือนแล้วค่อยไปรบ ผมถามว่าจะรบได้ไหม กล้าไปอยู่ชายแดนไหม เช้า กลางวัน เย็น กลางคืน เป็นเดือนๆ มืดๆ มีใครกล้ามาเลย สมัครมาเลย มุ่งเน้นการซ่อมปรับปรุง วันนี้ซ่อมแล้วซ่อมอีก มีอยู่ 10 คัน ซ่อมไปซ่อมมา เหลือคันเดียวแล้ว จะพร้อมรบได้อย่างไร ในยามไม่มีการรบ เขาเรียกว่าการเตรียมกำลัง เตรียมยุทโธปกรณ์ให้พร้อม ให้พอเพียง ให้เป็นศักยภาพของเรา เพื่อที่จะระงับความขัดแย้งต่างๆ ไม่ใช่เพื่อไปสู้รบกับเขา ไม่มีอะไรที่สำคัญหรือไม่สำคัญ แต่ต้องมองในภาพรวม การเป็นรัฐบาลไม่ใช่จะหาเสียงให้ๆ แจกๆ ต้องดูทุกคนทุกส่วนให้ได้รับความยุติธรรม ให้มีการเจริญเติบโตก้าวหน้า ให้เติบโตเข้มแข็ง นั่นคือศักยภาพของประเทศไทย ยืนยันว่าดำเนินการทั้งหมดในส่วนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทุกวันนี้ก็พยายามซ่อมให้รบได้ ให้วิ่งได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ไม่รู้ ต้องเตรียมความพร้อมไหม อันนี้ตัดทิ้งหมด อันนั้นก็ไม่ซื้อ อันนี้ก็ไม่ให้ใช้ เพราะกลัวว่าจะซื้อแล้วโกง ก็ไปหาหลักฐานมาว่าโกงตรงไหน โกงเท่าไหร่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีเรือหลวงสุโขทัย คณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงมีอยู่หลายคณะด้วยกัน คณะทำงานตรวจสอบสาเหตุที่อับปางทั้ง 2 คณะ กำลังเร่งดำเนินการสอบผู้เกี่ยวข้องหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดตามระเบียบที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปกับคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง มีสมาชิกท่านหนึ่งรอบรู้มากในการสร้างเรือ ตนขอคำแนะนำด้วยแล้วกัน เพราะรู้หมดทุกชิ้นส่วนเลย อันนี้เป็นเรื่องของทางเทคนิค ก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขาบ้าง คนเสียชีวิตทุกคนไม่อยากให้มีใครเสียชีวิตอยู่แล้ว กำลังพลที่เสียชีวิตก็ช่วยเหลือทุกอย่าง สิทธิที่พึงได้รับขั้นต้น และการเสนอเลื่อนชั้นเงินเดือน การเสนอขอพระราชทานยศ เลื่อนยศสูงขึ้น พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ บำเหน็จตกทอด บำนาญพิเศษ บรรจุทายาททดแทน ท่านต้องคิดอะไรให้เป็นรูป ถ้าคิด 1 ต้องได้ 2, 2 ต้องได้ 3 ตนคิดว่าไม่ใช่ต้องเอา 1 2 3 4 5 มารวมกันแล้วคิดออกมาถึงจะทำงานได้

ส่วนการปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำทันที ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ใช่การสร้างปัญหาใหม่ ถ้าใครคิดว่าเสียเงินแต่งตั้งตำรวจ มาหาตน เพราะตนไม่เคยมีนโยบายให้ใครไปเรียกรับผลประโยชน์ ถ้าใครปล่อยปละละเลย ขอให้มีหลักฐานมา ตนสอบสวนให้ ดำเนินการให้ วันนี้ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญอย่าไปให้เขา

“ถ้าเขาเรียก แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ถ้าผิดยอมรับผิด ถ้าผิดแล้วไปเสนอเงินให้เขา ก็เป็นอยู่แบบนี้ ถ้าไม่ผิดเรียกเงินก็เล่นงานให้เต็มเครื่องเต็มที่ ผมสนับสนุนท่านอยู่แล้ว ปัญหาเหล่านี้ทับซ้อนมานาน ท่านคิดหรือว่า ผมจะไม่ให้ความสนใจ ผมทำทุกเรื่องทุกกระทรวงทุกกิจกรรม แต่ปัญหามันต้องมี ผมยืนยันหลักการว่า ผมจะทำอย่างเต็มที่ และอย่างน้อยที่ทำมาทั้งหมด ทำได้ดีกว่าก่อนหน้านั้นหลายเรื่องด้วยกัน มากมายหลายเรื่อง มากกว่าที่ผ่านมาเยอะแยะ มองดูส่วนดีบ้าง ส่วนไม่ดีก็ต้องมี ก็ต้องแก้ไขกันต่อไป ใครจะเป็นนายกฯ ก็แล้วแต่ ก็แก้ให้ดีกว่าที่ผมแก้ก็แล้วกัน บางพรรคผมยังไม่รู้เลยว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค ใครจะเป็นนายกฯ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ถามสมาชิกที่ยกมือว่า “คนที่ยกมือ ใครเป็นนายกฯ พรรคท่านครับ” ก่อนจะนั่งลง จบการชี้แจง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]