จับตาศึกอภิปรายทั่วไป ม.152 ฝ่ายค้านลุยถล่มรัฐบาลนัดสุดท้าย

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – ประเด็นการเมืองวันนี้ต้องจับตาการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายในสมัยสภานี้ แต่สิ่งที่จะต้องจับตามากกว่าเนื้อหา คือ การอภิปรายจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ องค์ประชุมจะครบหรือไม่ หรือจะมีปัญหาสภาล่มกลางคัน


การอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 จะคล้ายกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่จะไม่มีการลงมติ ตามกำหนดการจะเริ่มขึ้นวันนี้ในเวลา 09.30 น. เป็นการอภิปรายเพื่อเสนอแนะและซักถามปัญหาต่างๆจากรัฐบาล ซึ่งเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายในสมัยสภานี้ โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านใช้ชื่อยุทธการครั้งนี้ว่า กระชากหน้ากากคนดี ล้อจากฉายารัฐบาล พุ่งเป้าไปที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และขยายผลไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เห็นถึงความล้มเหลวด้านต่างๆ ในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เช่น ธุรกิจสีเทา ยาเสพติด และการทุจริตคอร์รัปชัน โดยจะใช้เวลาในการอภิปราย 2 วัน คือวันนี้กับวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.)

ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวความพยายามทำให้สภาล่มเพื่อไม่ให้มีการอภิปราย ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เชื่อมั่นว่า การอภิปรายตามมาตรา 152 จะไม่ล่ม เพราะรัฐบาลกำหนดวันเอง และขณะนี้ ส.ส. ในสภา มีทั้งหมด 419 คน เป็นฝ่ายรัฐบาล 233 คน ฝ่ายค้าน 186 คน ซึ่งรัฐบาลยังมีเสียงมากพอสมควร แต่มีปัญหาที่รัฐบาลคุมองค์ประชุมไม่ได้ อีกทั้งการอภิปราย 152 เป็นการสอบถามข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะใช้ชี้แจง ถ้ารัฐมนตรีมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด


ทั้งนี้หากมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ประธานชวนบอกว่า คู่แข่งของ ส.ส. ที่จะลงเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด สามารถมาขอดูข้อมูลการประชุมของคู่แข่งได้ ว่าเข้าประชุมสภากี่ครั้ง มีความรับผิดชอบหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย