“สมศักดิ์-สุริยะ” ยังอยู่ พปชร.ไม่มีปัญหา

ทำเนียบ 14 ก.พ.- “สมศักดิ์” ย้ำ “สุริยะ” ไปไหนไปด้วยกัน บอก “พล.อ.ประวิตร” แล้ว รับไม่รู้มาก่อน ส.ส.ในค่ายสามมิตรสุโขทัยย้ายไปเพื่อไทย แต่มั่นใจสร้างคนใหม่แทนได้ ยันไม่มีปัญหา ”ธรรมนัส” ทำงานตามนโยบายพรรคสั่ง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงแนวทางการเมืองว่า ตนเองตามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนายสุริยะประกาศไปแล้วว่าอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น จึงขอยืนยันว่า ไปไหนไปด้วยกับนายสุริยะ 

ส่วนทีมงานที่เป็น ส.สในจังหวัดสุโขทัยได้ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย และก่อนหน้านั้นสมาชิกของสามมิตรก็ย้ายไปพรรคอื่นและพาคนไปด้วย 7-8 คน ก็เป็นเรื่องของคนที่จะต้องเติบโต ไปหาแนวทางทางการเมือง ประกอบกับเส้นแบ่งให้ย้ายก่อน 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หากจะเป็น ส.ส.ก็ต้องหาสังกัดพรรค หากทนไม่ไหวก็ไปหาที่อยู่ใหม่ และในกรณีพื้นที่มีความยากของการเลือกตั้ง จึงต้องหาคนใหม่มาเสริม ตนจึงมั่นใจว่าสามารถหาคนใหม่ได้ ไม่มีปัญหา เพราะยังมีเวลา

เมื่อถามว่าได้ยืนยันกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้วหรือไม่ว่าจะไม่ไปไหน นายสมศักดิ์ ย้ำว่านายสุริยะได้พูดคุยกับพลเอกประวิตรทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนขณะนี้เรายังทำงานและถือเป็นหัวหน้ากลุ่มของเรา มีสิทธิ์มีเสียงที่จะเสนอตัวขึ้นมาเป็นผู้บริหารในอนาคตได้ ย้ำว่าตนกับนายสุริยะไปด้วยกัน   ทั้งนี้ยอมรับว่า ไม่ทราบมาก่อนที่สมาชิกกลุ่มสามมิตรของจังหวัดสุโขทัยจะย้ายไปพรรคเพื่อไทย ตอนแรกก็บอกว่าอยู่ด้วยกัน พอถึงเส้นแบ่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์กลับหายไป ซึ่งมั่นใจจะสร้างคนใหม่ลงในนามของพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนล่าสุดที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เข้ามามีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐ โดยได้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ   นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีปัญหากับร้อยเอกธรรมนัส และการทำงานไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง หรือชอบไม่ชอบใคร  เราเน้นการทำงานทำตามสั่งผู้บังคับบัญชาแนวนโยบายของพรรคเป็นอย่างไร

“เราต้องทำตัวให้เหมือนน้ำที่อยู่ในแก้วน้ำแข็งเปล่า เราเป็นน้ำต้องสามารถเชื่อมประสานให้เป็นเนื้อเดียวกันและทำงานไปด้วยกันได้ หากท่านมาจริง แต่ก็ยังไม่เห็นว่าเป็นการสมัครสมาชิกหรืออย่างไร แนวทางของเขาเป็นอย่างนั้น  ส่วนตัวก็ไม่มีปัญหา” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ยังบอกอีกว่า การจะวางตัวลงบัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ซึ่งภายใน 2 สัปดาห์นี้ยังต้องทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรี ตรงนี้ก็ต้องรับผิดชอบ รวมถึงในสภามีการอภิปราย ตนก็ต้องรับผิดชอบ หากเราอยากเป็นผู้แทนราษฎรต่อก็ต้องมีที่ยืนเป็นมั่นเป็นเหมาะ เมื่อถามย้ำว่า เมื่อเปรียบเป็นน้ำแยกคนละแก้วหากชนะการเลือกตั้ง จะกลับมารวมกันใหม่ได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า ยังอีกไกล .-สำนักข่าวไทย