“ธนกร” ชู “พล.อ.ประยุทธ์” นายกฯ ทำเพื่อประชาชนแท้จริง

กทม. 4 ก.พ.-“ธนกร” ชู “พล.อ.ประยุทธ์” นายกฯ ที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เหมาะนำรัฐนาวาไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกอีกสมัย ย้ำประเทศไทยต้องมีความต่อเนื่องเชิงนโยบาย

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำเนินนโยบายบนผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ทุกมาตรการเพื่อยกระดับความกินดีอยู่ดีของประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง อาทิ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากแล้วว่า “บัตรลุงตู่” ที่มุ่งช่วยผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศแบบพุ่งเป้า ซึ่งโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ปี 2565 มียอดสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์ทั้งสิ้น 19.64 ล้านรายซึ่งรอตรวจสอบสิทธ์ ส่วนโครงการคนละครึ่งเฟส 1-5 โดยรัฐช่วยจ่ายให้ครึ่งหนึ่งนั้น เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนที่มีกำลังซื้อ ช่วยรักษาระดับการบริโภคในประเทศ เพิ่มสภาพคล่องให้กับร้านค้ารายย่อย ครอบคลุมประชาชนผู้ใช้สิทธิกว่า 26.38 ล้านคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจรวม 424,879.5 ล้านบาท ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยคนละครึ่งเฟส 5 ช่วยเพิ่มการเติบโตของ GDP ร้อยละ 0.1 ขณะที่คนละครึ่งเฟส 4 เพิ่ม GDP ร้อยละ 0.17


นายธนกร กล่าวอีกว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยต่อเนื่อง วงเงินรวม 2,016 ล้านบาท เริ่มใช้สิทธิ์ ก.พ.-ก.ย. 66 คาดว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 12,539 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ปี 66 เป็นปีทองของการฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ปรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยตลอดทั้งปีนี้เป็น 27.5 ล้านคน คาดว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนเข้าประเทศทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยกว่า 2.38 ล้านล้านบาท สำหรับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นการสนับสนุนการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ผลักดันการลงทุนนวัตกรรมใหม่ สร้างรายได้ที่ยั่งยืน ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน โดยปี 2565 ได้ออกบัตรส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อEEC มูลค่า 262,982 ล้านบาท เป็นมูลค่าที่กลับเข้าสู่ระดับเทียบเท่าก่อนจะเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2561 – 2565 มีการอนุมัติงบลงทุนสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท และเป้าหมายในช่วง 5 ปีต่อไป (2566-70) ตั้งเป้าหมายการลงทุนไว้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท โดยจะมีเงินลงทุนในพื้นที่ EEC ขยายตัวได้ร้อยละ 7-9 ต่อปี

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งกายภาพและดิจิทัล ได้แก่ ทางราง มีแผนสร้างเพิ่มรวมเป็นระยะทาง 8,900 กิโลเมตร ครอบคลุม 62 จังหวัด เป็นทางคู่-ทางสาม ความยาว 5,640 กิโลเมตร มีสถานีกลางบางซื่อเป็นชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ ทันสมัยที่สุดในอาเซียน มีรถไฟฟ้า (กทม.และปริมณฑล) สร้างเพิ่ม 10 สาย ระยะทางรวม 204.9 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 2 สาย นอกจากนี้ ยังมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนทางถนน ในปี 2564 มีระยะทางรวม 11,583 กิโลเมตร และได้สร้างมอเตอร์เวย์เพิ่ม 3 เส้นทางสำคัญ (บางปะอิน-โคราช / บางใหญ่-กาญจนบุรี / และพัทยา-มาบตาพุด) สำหรับทางน้ำ พัฒนาท่าเรือมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบัง ขณะที่ ทางอากาศ ปรับปรุงสนามบินทั่วประเทศ เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร ด้าน “เศรษฐกิจดิจิทัล” (Digital Economy) ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “พร้อมเพย์” (Prompt pay) และ QR Payment การใช้ G-Wallet ถุงเงิน application แอป “เป๋าตัง” เป็นต้น


นายธนกร กล่าวว่า ส่วนการเพิ่มความมั่นคงในอาชีพสำหรับเกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสม คุ้มต้นทุนนั้น ผ่านโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยปี 2565/66 มีเป้าหมายเกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงิน รวม 18,700.13 ล้านบาท โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปีการผลิต 2564/65 วงเงิน 7,660 ล้านบาท โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปีการผลิต 2564/65 วงเงิน 6,811.28 ล้านบาท รวมทั้งโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางทั้ง 3 ระยะ รวมวงเงิน 46,789 ล้านบาท และยังมีโครงการคู่ขนานช่วยเหลือเกษตรกรอีกด้วย เพื่อส่งเสริมการเพิ่มผลิตภาพในการผลิต ควบคู่กับการพัฒนาการผลิตและพันธุ์พืช

“ในปี 63-64 ที่ทั่วโลกประสบวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก นายกฯ สามารถนำพาประเทศผ่านวิกฤติไปได้ จนไทยได้รับการจัดอยู่ในอันดับ 1 ของโลกจาก 184 ประเทศทั่วโลก ที่ฟื้นตัวและรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ได้ดีที่สุด จากการจัดอันดับดัชนี Global COVID-19 Index (GCI) ด้วยการแก้ปัญหาได้ยอดเยี่ยม รวดเร็ว และเด็ดขาด ทั้งนี้ ผลการทำงานอย่างหนักของรัฐบาลที่มีท่านนายกฯ เป็นเรือธง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเป็นขาขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2566 และคาดว่าจะเป็นปีแรกที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยสามารถกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ เศรษฐกิจโลกยังผันผวน และการเมืองระหว่างประเทศยังตึงเครียด รวมถึงความท้าทายใหม่ๆ ในอนาคต ทั้งปัจจัยสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบระหว่างประเทศใหม่ๆ ดังนั้น จะเห็นได้ว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีความต่อเนื่องเชิงนโยบาย มีผู้บริหารที่เก่ง เป็นคนดี มีวิสัยทัศน์ และซื่อสัตย์ เพื่อนำรัฐนาวาไทยฝ่าคลื่นลมเศรษฐกิจโลกไปให้ได้ เหมือนที่ท่านนายกฯ ได้คิดและทำมาแล้ว โดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.