“จุรินทร์” นำทัพ ปชป.เปิดตัว 99 ผู้สมัคร ส.ส.อีสาน

กรุงเทพฯ 28 ม.ค. – ยิ่งใหญ่! “จุรินทร์” นำทัพเปิดตัว 99 ผู้สมัคร ส.ส.อีสาน ชู “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ประกาศพาคนอีสานร่ำรวยด้วย “อีสานเชื่อมโลก”


เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 เวลา 10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนนำทีมผู้บริหารของพรรค อาทิ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ร่วมงาน “รวมพลัง ประชาธิปัตย์” เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ามกลางเสียงเชียร์ “ประชาธิปัตย์ สู้ๆ” “จุรินทร์เป็นนายกฯ”

นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเปิดตัวผู้สมัครในภาคอีสานวันนี้มีความพร้อม โดยจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน จำนวนทั้งหมด 99 เขตเลือกตั้ง จาก 132 เขต ไม่รวมบัญชีรายชื่อ ที่พรรคจะประกาศในโอกาสต่อไป แต่สำหรับบัญชีรายชื่อนั้นจะมีผู้ที่มีศักยภาพในภาคอีสานเข้าร่วมด้วย ส่วนผู้สมัครเขตที่เหลืออีก 33 เขต จะรอการแบ่งเขตที่มีความชัดเจนก่อน ทั่วประเทศพรรคจะส่งครบทั้ง 400 เขต บวกบัญชีรายชื่อ 100 คน ส่งครบทั้ง 500 คน


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “อีสานเชื่อมโลก” เป็นวิสัยทัศน์ประชาธิปัตย์ ที่จะขับเคลื่อนอีสานไปสู่ความร่ำรวยต่อไปในอนาคต เพราะวันนี้ถึงเวลาที่จำเป็นต้องพาภาคอีสานทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะเชื่อมไทย แต่ต้องพาอีสานเชื่อมโลก ด้วยเส้นทางคมนาคม ด้วยการท่องเที่ยว ด้วยการค้า รวมถึงการค้าชายแดน ซึ่งมีความสำคัญกับอีสานมาก และที่สำคัญคือเชื่อมโลกด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของความเป็นอีสาน ที่สามารถขายให้คนทั้งโลกได้ เพื่อสร้างเงิน สร้างอนาคตให้คนอีสานต่อไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือวิสัยทัศน์อีสานเชื่อมโลกของประชาธิปัตย์ที่จะทำให้คนอีสานทั้งหมด นอกจากนโยบายอื่นๆ อีกอย่างน้อย 8 นโยบายที่ได้ประกาศไปแล้ว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่า ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมทุกจังหวัดในภาคอีสาน คนอีสานนั้นเป็นคนสร้างประชาธิปัตย์ เพราะผู้ก่อตั้งพรรค เมื่อปี 2489 เป็น ส.ส. จากภาคอีสาน 13 คน ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคของคนอีสาน เพียงแต่บางช่วงมีผู้แทนมากบ้าง น้อยบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ประวัติศาสตร์ได้บอกกับเราว่า คนอีสานไม่เคยทิ้งประชาธิปัตย์ เพราะตั้งแต่ปี 2500 ที่มีการเลือกตั้งมาแล้ว 16 ครั้ง ประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนในภาคอีสานตลอด ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนเขต ผู้แทนบัญชีรายชื่อ เราก็มีผู้แทนตลอด ซึ่งสะท้อนให้เป็นว่า คนอีสานสร้างประชาธิปัตย์มาแล้วก็ไม่เคยทิ้งประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์ก็พร้อมรับใช้คนอีสานต่อไป

“พรรคประชาธิปัตย์ เราสู้กับตัวเอง สู้กับความเชื่อมั่นศรัทธาที่เรายึดมั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นศรัทธาที่ประชาชนคนอีสานและคนไทยทั้งประเทศมีต่อประชาธิปัตย์ดีขึ้นเป็นลำดับ ตลอดระยะเวลาหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์มีผลงานชัดเจนเป็นรูปธรรม จับต้องได้ รวมทั้งเรามีผลงานที่ทำให้กับคนอีสาน ไม่ว่าจะเป็นประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร ซึ่งพิสูจน์ชัดเจนว่าเรา #ทำได้ไวทำได้จริง และยังมีนโยบายอื่นๆ ที่จะประกาศต่อไปว่าเราจะทำอะไรให้คนอีสานบ้าง” นายจุรินทร์ กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในพื้นที่ภาคใต้ในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นพื้นที่เป้าหมายของหลายๆ พรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคมีความมั่นใจ ซึ่งประชาธิปัตย์ส่งครบทั้ง 58 เขต และได้เตรียมผู้สมัครไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว โดยจะมีการเปิดตัวในวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2566 ทั้ง 58 เขต ที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนวันที่ 29 มกราคมนี้ จะมีการเปิดตัวผู้สมัคร จ.ภูเก็ต ทั้ง 3 เขต

“ภาพรวมในภาคใต้นั้น ผมยังมั่นใจว่าเสียงตอบรับประชาธิปัตย์ดีขึ้น วันนี้กับเมื่อวานก็มีความแตกต่างแล้ว และผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา 2-3 ครั้ง ประชาธิปัตย์ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสงขลา ชุมพร และพื้นที่อื่นๆ เพราะฉะนั้นเรามั่นใจว่าเที่ยวหน้า ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ดีขึ้น คราวที่แล้วเราได้แค่ 22 แต่เที่ยวนี้ไม่ 22 แล้ว อาจจะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวก็เป็นไปได้ จากทั้งหมด 58 เขต” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคจะเดินหน้าตามแนวทางของเราต่อไป โดยขายอุดมการณ์ ขายผลงาน และขายความตั้งใจจริงที่เรารับใช้พี่น้องคนภาคใต้มายาวนาน รวมทั้งยังมีจุดขายความเป็นสถาบันการเมืองที่ชื่อว่า “ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ” เรามีนโยบายอะไร บอกอะไรกับพี่น้องประชาชน วันข้างหน้าเราต้องมาพบกับประชาชนอีก ไม่ใช่ 2-3 ปี 4 ปี ไปตามตัวไม่เจอแล้ว สำหรับประชาธิปัตย์ไม่เป็นอย่างนั้น ประชาชนฝากผีฝากไข้ในทางการเมืองไว้กับประชาธิปัตย์ได้

“ผมยังมั่นใจว่า ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ หรือคนปักษ์ใต้ ในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า กับการเลือกตั้งเที่ยวที่แล้ว ผมคิดว่ามีความแตกต่างกัน เมื่อวานกับพรุ่งนี้ไม่เหมือนกันแล้ว คราวที่แล้วประชาชนอาจจะตัดสินใจการเลือกตั้งที่ภาคใต้ด้วยกรณีเฉพาะที่เกิดขึ้นในทางการเมือง แต่เที่ยวหน้าผมเชื่อว่าจะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้น และมีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นพรรคการเมืองที่เป็นตัวยืนอยู่สำหรับพี่น้องชาวภาคใต้ ผมยังมั่นใจอย่างนั้น และอีสานก็เหมือนกัน ผมก็มั่นใจว่า เที่ยวหน้าอีสานเราจะดีกว่าเดิม เลือกตั้งคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนเขตเพียง 2 คน แต่ก็มีบัญชีรายชื่ออีก 4 คน ถือว่าเรามีตัวแทนจากภาคอีสาน 6 คน ที่ทำหน้าที่ในปัจจุบัน เลือกตั้งเที่ยวหน้าก็น่าจะได้เสียงตอบรับที่ดีขึ้น เราทำการบ้านมา 3 ปีกว่าๆ อย่างไม่เคยหยุด และทำงานให้คนอีสานมาตลอด โดยเฉพาะประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง ถือเป็นความชัดเจนที่สุด และอนาคตก็มี ‘อีสานเชื่อมโลก’ ที่จะได้ขับเคลื่อนต่อไปให้กับคนอีสาน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจุรินทร์ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งนายจุรินทร์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนต้องพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตอนที่สมาชิกพรรคเลือกหัวหน้าพรรคนั้น เลือกด้วย 2 เหตุผล 1. เลือกคนที่พร้อม และมีศักยภาพที่จะมานำพรรคได้ มาเป็นหัวหน้าพรรคได้ 2. ต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ถ้าเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์เข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว คนจะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้ ที่ต้องพร้อมอย่างน้อย 2 เรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาธิปัตย์จะตัดสินใจร่วมรัฐบาลอีกหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดว่าจะเป็นอะไรในรัฐบาลหน้า แต่ขอนับหนึ่งจากประชาชนก่อน ให้ประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบว่า เขาจะเลือกพรรคไหนมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ขอให้ประชาชนเป็นคนแรกที่ตอบ พรรคการเมืองต้องตอบทีหลัง ถ้าตอบก่อนประชาชนก็สะท้อนให้เห็นว่า วิถีทางประชาธิปไตยมันบิดเบี้ยวไปแล้ว เพราะประชาธิปไตยนั้นต้องนับหนึ่งจากประชาชนให้คำตอบก่อน ระบบนี้ก็เหมือนกัน ใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ใครเป็นเสียงข้างน้อยก็เป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นจะทราบได้อย่างไรว่าใครรวมเสียงข้างมากได้ ก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์เคารพหลักการนี้ เพราะมันคือวิถีประชาธิปไตยระบบรัฐสภาที่เราเชื่อมั่นและยึดมั่นมาตลอด อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]