“จุรินทร์” นำทัพ ปชป.เปิดตัว 99 ผู้สมัคร ส.ส.อีสาน

กรุงเทพฯ 28 ม.ค. – ยิ่งใหญ่! “จุรินทร์” นำทัพเปิดตัว 99 ผู้สมัคร ส.ส.อีสาน ชู “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ประกาศพาคนอีสานร่ำรวยด้วย “อีสานเชื่อมโลก”


เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 เวลา 10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนนำทีมผู้บริหารของพรรค อาทิ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ร่วมงาน “รวมพลัง ประชาธิปัตย์” เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ามกลางเสียงเชียร์ “ประชาธิปัตย์ สู้ๆ” “จุรินทร์เป็นนายกฯ”

นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเปิดตัวผู้สมัครในภาคอีสานวันนี้มีความพร้อม โดยจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน จำนวนทั้งหมด 99 เขตเลือกตั้ง จาก 132 เขต ไม่รวมบัญชีรายชื่อ ที่พรรคจะประกาศในโอกาสต่อไป แต่สำหรับบัญชีรายชื่อนั้นจะมีผู้ที่มีศักยภาพในภาคอีสานเข้าร่วมด้วย ส่วนผู้สมัครเขตที่เหลืออีก 33 เขต จะรอการแบ่งเขตที่มีความชัดเจนก่อน ทั่วประเทศพรรคจะส่งครบทั้ง 400 เขต บวกบัญชีรายชื่อ 100 คน ส่งครบทั้ง 500 คน


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “อีสานเชื่อมโลก” เป็นวิสัยทัศน์ประชาธิปัตย์ ที่จะขับเคลื่อนอีสานไปสู่ความร่ำรวยต่อไปในอนาคต เพราะวันนี้ถึงเวลาที่จำเป็นต้องพาภาคอีสานทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะเชื่อมไทย แต่ต้องพาอีสานเชื่อมโลก ด้วยเส้นทางคมนาคม ด้วยการท่องเที่ยว ด้วยการค้า รวมถึงการค้าชายแดน ซึ่งมีความสำคัญกับอีสานมาก และที่สำคัญคือเชื่อมโลกด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของความเป็นอีสาน ที่สามารถขายให้คนทั้งโลกได้ เพื่อสร้างเงิน สร้างอนาคตให้คนอีสานต่อไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือวิสัยทัศน์อีสานเชื่อมโลกของประชาธิปัตย์ที่จะทำให้คนอีสานทั้งหมด นอกจากนโยบายอื่นๆ อีกอย่างน้อย 8 นโยบายที่ได้ประกาศไปแล้ว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่า ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมทุกจังหวัดในภาคอีสาน คนอีสานนั้นเป็นคนสร้างประชาธิปัตย์ เพราะผู้ก่อตั้งพรรค เมื่อปี 2489 เป็น ส.ส. จากภาคอีสาน 13 คน ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคของคนอีสาน เพียงแต่บางช่วงมีผู้แทนมากบ้าง น้อยบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ประวัติศาสตร์ได้บอกกับเราว่า คนอีสานไม่เคยทิ้งประชาธิปัตย์ เพราะตั้งแต่ปี 2500 ที่มีการเลือกตั้งมาแล้ว 16 ครั้ง ประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนในภาคอีสานตลอด ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนเขต ผู้แทนบัญชีรายชื่อ เราก็มีผู้แทนตลอด ซึ่งสะท้อนให้เป็นว่า คนอีสานสร้างประชาธิปัตย์มาแล้วก็ไม่เคยทิ้งประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์ก็พร้อมรับใช้คนอีสานต่อไป

“พรรคประชาธิปัตย์ เราสู้กับตัวเอง สู้กับความเชื่อมั่นศรัทธาที่เรายึดมั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นศรัทธาที่ประชาชนคนอีสานและคนไทยทั้งประเทศมีต่อประชาธิปัตย์ดีขึ้นเป็นลำดับ ตลอดระยะเวลาหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์มีผลงานชัดเจนเป็นรูปธรรม จับต้องได้ รวมทั้งเรามีผลงานที่ทำให้กับคนอีสาน ไม่ว่าจะเป็นประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร ซึ่งพิสูจน์ชัดเจนว่าเรา #ทำได้ไวทำได้จริง และยังมีนโยบายอื่นๆ ที่จะประกาศต่อไปว่าเราจะทำอะไรให้คนอีสานบ้าง” นายจุรินทร์ กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในพื้นที่ภาคใต้ในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นพื้นที่เป้าหมายของหลายๆ พรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคมีความมั่นใจ ซึ่งประชาธิปัตย์ส่งครบทั้ง 58 เขต และได้เตรียมผู้สมัครไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว โดยจะมีการเปิดตัวในวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2566 ทั้ง 58 เขต ที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนวันที่ 29 มกราคมนี้ จะมีการเปิดตัวผู้สมัคร จ.ภูเก็ต ทั้ง 3 เขต

“ภาพรวมในภาคใต้นั้น ผมยังมั่นใจว่าเสียงตอบรับประชาธิปัตย์ดีขึ้น วันนี้กับเมื่อวานก็มีความแตกต่างแล้ว และผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา 2-3 ครั้ง ประชาธิปัตย์ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสงขลา ชุมพร และพื้นที่อื่นๆ เพราะฉะนั้นเรามั่นใจว่าเที่ยวหน้า ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ดีขึ้น คราวที่แล้วเราได้แค่ 22 แต่เที่ยวนี้ไม่ 22 แล้ว อาจจะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวก็เป็นไปได้ จากทั้งหมด 58 เขต” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคจะเดินหน้าตามแนวทางของเราต่อไป โดยขายอุดมการณ์ ขายผลงาน และขายความตั้งใจจริงที่เรารับใช้พี่น้องคนภาคใต้มายาวนาน รวมทั้งยังมีจุดขายความเป็นสถาบันการเมืองที่ชื่อว่า “ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ” เรามีนโยบายอะไร บอกอะไรกับพี่น้องประชาชน วันข้างหน้าเราต้องมาพบกับประชาชนอีก ไม่ใช่ 2-3 ปี 4 ปี ไปตามตัวไม่เจอแล้ว สำหรับประชาธิปัตย์ไม่เป็นอย่างนั้น ประชาชนฝากผีฝากไข้ในทางการเมืองไว้กับประชาธิปัตย์ได้

“ผมยังมั่นใจว่า ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ หรือคนปักษ์ใต้ ในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า กับการเลือกตั้งเที่ยวที่แล้ว ผมคิดว่ามีความแตกต่างกัน เมื่อวานกับพรุ่งนี้ไม่เหมือนกันแล้ว คราวที่แล้วประชาชนอาจจะตัดสินใจการเลือกตั้งที่ภาคใต้ด้วยกรณีเฉพาะที่เกิดขึ้นในทางการเมือง แต่เที่ยวหน้าผมเชื่อว่าจะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้น และมีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นพรรคการเมืองที่เป็นตัวยืนอยู่สำหรับพี่น้องชาวภาคใต้ ผมยังมั่นใจอย่างนั้น และอีสานก็เหมือนกัน ผมก็มั่นใจว่า เที่ยวหน้าอีสานเราจะดีกว่าเดิม เลือกตั้งคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนเขตเพียง 2 คน แต่ก็มีบัญชีรายชื่ออีก 4 คน ถือว่าเรามีตัวแทนจากภาคอีสาน 6 คน ที่ทำหน้าที่ในปัจจุบัน เลือกตั้งเที่ยวหน้าก็น่าจะได้เสียงตอบรับที่ดีขึ้น เราทำการบ้านมา 3 ปีกว่าๆ อย่างไม่เคยหยุด และทำงานให้คนอีสานมาตลอด โดยเฉพาะประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง ถือเป็นความชัดเจนที่สุด และอนาคตก็มี ‘อีสานเชื่อมโลก’ ที่จะได้ขับเคลื่อนต่อไปให้กับคนอีสาน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจุรินทร์ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งนายจุรินทร์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนต้องพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตอนที่สมาชิกพรรคเลือกหัวหน้าพรรคนั้น เลือกด้วย 2 เหตุผล 1. เลือกคนที่พร้อม และมีศักยภาพที่จะมานำพรรคได้ มาเป็นหัวหน้าพรรคได้ 2. ต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ถ้าเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์เข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว คนจะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้ ที่ต้องพร้อมอย่างน้อย 2 เรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาธิปัตย์จะตัดสินใจร่วมรัฐบาลอีกหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดว่าจะเป็นอะไรในรัฐบาลหน้า แต่ขอนับหนึ่งจากประชาชนก่อน ให้ประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบว่า เขาจะเลือกพรรคไหนมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ขอให้ประชาชนเป็นคนแรกที่ตอบ พรรคการเมืองต้องตอบทีหลัง ถ้าตอบก่อนประชาชนก็สะท้อนให้เห็นว่า วิถีทางประชาธิปไตยมันบิดเบี้ยวไปแล้ว เพราะประชาธิปไตยนั้นต้องนับหนึ่งจากประชาชนให้คำตอบก่อน ระบบนี้ก็เหมือนกัน ใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ใครเป็นเสียงข้างน้อยก็เป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นจะทราบได้อย่างไรว่าใครรวมเสียงข้างมากได้ ก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์เคารพหลักการนี้ เพราะมันคือวิถีประชาธิปไตยระบบรัฐสภาที่เราเชื่อมั่นและยึดมั่นมาตลอด อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]