“จุรินทร์” นำทัพ ปชป.เปิดตัว 99 ผู้สมัคร ส.ส.อีสาน

กรุงเทพฯ 28 ม.ค. – ยิ่งใหญ่! “จุรินทร์” นำทัพเปิดตัว 99 ผู้สมัคร ส.ส.อีสาน ชู “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ประกาศพาคนอีสานร่ำรวยด้วย “อีสานเชื่อมโลก”


เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 เวลา 10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนนำทีมผู้บริหารของพรรค อาทิ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ร่วมงาน “รวมพลัง ประชาธิปัตย์” เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ามกลางเสียงเชียร์ “ประชาธิปัตย์ สู้ๆ” “จุรินทร์เป็นนายกฯ”

นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเปิดตัวผู้สมัครในภาคอีสานวันนี้มีความพร้อม โดยจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน จำนวนทั้งหมด 99 เขตเลือกตั้ง จาก 132 เขต ไม่รวมบัญชีรายชื่อ ที่พรรคจะประกาศในโอกาสต่อไป แต่สำหรับบัญชีรายชื่อนั้นจะมีผู้ที่มีศักยภาพในภาคอีสานเข้าร่วมด้วย ส่วนผู้สมัครเขตที่เหลืออีก 33 เขต จะรอการแบ่งเขตที่มีความชัดเจนก่อน ทั่วประเทศพรรคจะส่งครบทั้ง 400 เขต บวกบัญชีรายชื่อ 100 คน ส่งครบทั้ง 500 คน


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “อีสานเชื่อมโลก” เป็นวิสัยทัศน์ประชาธิปัตย์ ที่จะขับเคลื่อนอีสานไปสู่ความร่ำรวยต่อไปในอนาคต เพราะวันนี้ถึงเวลาที่จำเป็นต้องพาภาคอีสานทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะเชื่อมไทย แต่ต้องพาอีสานเชื่อมโลก ด้วยเส้นทางคมนาคม ด้วยการท่องเที่ยว ด้วยการค้า รวมถึงการค้าชายแดน ซึ่งมีความสำคัญกับอีสานมาก และที่สำคัญคือเชื่อมโลกด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของความเป็นอีสาน ที่สามารถขายให้คนทั้งโลกได้ เพื่อสร้างเงิน สร้างอนาคตให้คนอีสานต่อไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือวิสัยทัศน์อีสานเชื่อมโลกของประชาธิปัตย์ที่จะทำให้คนอีสานทั้งหมด นอกจากนโยบายอื่นๆ อีกอย่างน้อย 8 นโยบายที่ได้ประกาศไปแล้ว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่า ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมทุกจังหวัดในภาคอีสาน คนอีสานนั้นเป็นคนสร้างประชาธิปัตย์ เพราะผู้ก่อตั้งพรรค เมื่อปี 2489 เป็น ส.ส. จากภาคอีสาน 13 คน ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคของคนอีสาน เพียงแต่บางช่วงมีผู้แทนมากบ้าง น้อยบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ประวัติศาสตร์ได้บอกกับเราว่า คนอีสานไม่เคยทิ้งประชาธิปัตย์ เพราะตั้งแต่ปี 2500 ที่มีการเลือกตั้งมาแล้ว 16 ครั้ง ประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนในภาคอีสานตลอด ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนเขต ผู้แทนบัญชีรายชื่อ เราก็มีผู้แทนตลอด ซึ่งสะท้อนให้เป็นว่า คนอีสานสร้างประชาธิปัตย์มาแล้วก็ไม่เคยทิ้งประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์ก็พร้อมรับใช้คนอีสานต่อไป

“พรรคประชาธิปัตย์ เราสู้กับตัวเอง สู้กับความเชื่อมั่นศรัทธาที่เรายึดมั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นศรัทธาที่ประชาชนคนอีสานและคนไทยทั้งประเทศมีต่อประชาธิปัตย์ดีขึ้นเป็นลำดับ ตลอดระยะเวลาหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์มีผลงานชัดเจนเป็นรูปธรรม จับต้องได้ รวมทั้งเรามีผลงานที่ทำให้กับคนอีสาน ไม่ว่าจะเป็นประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร ซึ่งพิสูจน์ชัดเจนว่าเรา #ทำได้ไวทำได้จริง และยังมีนโยบายอื่นๆ ที่จะประกาศต่อไปว่าเราจะทำอะไรให้คนอีสานบ้าง” นายจุรินทร์ กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในพื้นที่ภาคใต้ในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นพื้นที่เป้าหมายของหลายๆ พรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคมีความมั่นใจ ซึ่งประชาธิปัตย์ส่งครบทั้ง 58 เขต และได้เตรียมผู้สมัครไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว โดยจะมีการเปิดตัวในวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2566 ทั้ง 58 เขต ที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนวันที่ 29 มกราคมนี้ จะมีการเปิดตัวผู้สมัคร จ.ภูเก็ต ทั้ง 3 เขต

“ภาพรวมในภาคใต้นั้น ผมยังมั่นใจว่าเสียงตอบรับประชาธิปัตย์ดีขึ้น วันนี้กับเมื่อวานก็มีความแตกต่างแล้ว และผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา 2-3 ครั้ง ประชาธิปัตย์ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสงขลา ชุมพร และพื้นที่อื่นๆ เพราะฉะนั้นเรามั่นใจว่าเที่ยวหน้า ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ดีขึ้น คราวที่แล้วเราได้แค่ 22 แต่เที่ยวนี้ไม่ 22 แล้ว อาจจะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวก็เป็นไปได้ จากทั้งหมด 58 เขต” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคจะเดินหน้าตามแนวทางของเราต่อไป โดยขายอุดมการณ์ ขายผลงาน และขายความตั้งใจจริงที่เรารับใช้พี่น้องคนภาคใต้มายาวนาน รวมทั้งยังมีจุดขายความเป็นสถาบันการเมืองที่ชื่อว่า “ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ” เรามีนโยบายอะไร บอกอะไรกับพี่น้องประชาชน วันข้างหน้าเราต้องมาพบกับประชาชนอีก ไม่ใช่ 2-3 ปี 4 ปี ไปตามตัวไม่เจอแล้ว สำหรับประชาธิปัตย์ไม่เป็นอย่างนั้น ประชาชนฝากผีฝากไข้ในทางการเมืองไว้กับประชาธิปัตย์ได้

“ผมยังมั่นใจว่า ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ หรือคนปักษ์ใต้ ในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า กับการเลือกตั้งเที่ยวที่แล้ว ผมคิดว่ามีความแตกต่างกัน เมื่อวานกับพรุ่งนี้ไม่เหมือนกันแล้ว คราวที่แล้วประชาชนอาจจะตัดสินใจการเลือกตั้งที่ภาคใต้ด้วยกรณีเฉพาะที่เกิดขึ้นในทางการเมือง แต่เที่ยวหน้าผมเชื่อว่าจะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้น และมีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นพรรคการเมืองที่เป็นตัวยืนอยู่สำหรับพี่น้องชาวภาคใต้ ผมยังมั่นใจอย่างนั้น และอีสานก็เหมือนกัน ผมก็มั่นใจว่า เที่ยวหน้าอีสานเราจะดีกว่าเดิม เลือกตั้งคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนเขตเพียง 2 คน แต่ก็มีบัญชีรายชื่ออีก 4 คน ถือว่าเรามีตัวแทนจากภาคอีสาน 6 คน ที่ทำหน้าที่ในปัจจุบัน เลือกตั้งเที่ยวหน้าก็น่าจะได้เสียงตอบรับที่ดีขึ้น เราทำการบ้านมา 3 ปีกว่าๆ อย่างไม่เคยหยุด และทำงานให้คนอีสานมาตลอด โดยเฉพาะประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง ถือเป็นความชัดเจนที่สุด และอนาคตก็มี ‘อีสานเชื่อมโลก’ ที่จะได้ขับเคลื่อนต่อไปให้กับคนอีสาน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจุรินทร์ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งนายจุรินทร์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนต้องพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตอนที่สมาชิกพรรคเลือกหัวหน้าพรรคนั้น เลือกด้วย 2 เหตุผล 1. เลือกคนที่พร้อม และมีศักยภาพที่จะมานำพรรคได้ มาเป็นหัวหน้าพรรคได้ 2. ต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ถ้าเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์เข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว คนจะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้ ที่ต้องพร้อมอย่างน้อย 2 เรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาธิปัตย์จะตัดสินใจร่วมรัฐบาลอีกหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดว่าจะเป็นอะไรในรัฐบาลหน้า แต่ขอนับหนึ่งจากประชาชนก่อน ให้ประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบว่า เขาจะเลือกพรรคไหนมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ขอให้ประชาชนเป็นคนแรกที่ตอบ พรรคการเมืองต้องตอบทีหลัง ถ้าตอบก่อนประชาชนก็สะท้อนให้เห็นว่า วิถีทางประชาธิปไตยมันบิดเบี้ยวไปแล้ว เพราะประชาธิปไตยนั้นต้องนับหนึ่งจากประชาชนให้คำตอบก่อน ระบบนี้ก็เหมือนกัน ใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ใครเป็นเสียงข้างน้อยก็เป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นจะทราบได้อย่างไรว่าใครรวมเสียงข้างมากได้ ก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์เคารพหลักการนี้ เพราะมันคือวิถีประชาธิปไตยระบบรัฐสภาที่เราเชื่อมั่นและยึดมั่นมาตลอด อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย