“อนุทิน” เมินกระแส “ลุงตู่” บอกมีกระแส “ลุงหนู” เหมือนกัน

ทำเนียบรัฐบาล 23 ม.ค. -“อนุทิน” ลั่นภูมิใจไทยเตรียมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้วหากยุบสภาฯ ประเมินปักหมุดพื้นที่ กทม.ได้แน่ เมินกระแส “ลุงตู่” บอก “กระแสลุงหนูก็มีเหมือนกัน” ระบุทำดีไม่มีความขัดแย้งก็เป็นรัฐบาล เสียงไม่พอก็ไปอยู่ฝ่ายค้าน ชี้ทำการเมืองไม่ควรด้อยค่าตีนโยบายพรรคอื่น ยันไม่ขัดแย้งกับใคร


นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ย่านห้วยขวางวานนี้ (22 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่กรุงเทพมหานครครั้งแรกของพรรคภูมิใจไทย ว่า รู้สึกตื่นเต้น แต่ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ จากการลงพื้นที่และปราศรัยนโยบายของพรรคภูมิใจไทยก็ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี จากปฏิกิริยาปรบมือ สิ่งที่พูดไปถูกใจประชาชน และหลังจากนี้จะมีการทยอยลงพื้นที่จุดต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากตั้งใจจะส่งผู้สมัครในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนคาดหวังเขตใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คาดหวังทุกเขต แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเรื่องนโยบายพรรคและการทำงานของผู้สมัครภายในพื้นที่ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และมั่นใจว่าสามารถปักธงในพื้นที่กรุงเทพฯได้อย่างแน่นอน เพราะ กทม.เป็นเมืองที่สำคัญ พร้อมกับยังระบุอีกว่า พื้นที่อื่นๆ ภูมิใจไทยก็ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับพื้นที่จังหวัดอื่นแล้ว เหลือเพียงแต่กรุงเทพมหานครเท่านั้น เพราะกรุงเทพมหานคร เป็นเขตบริหารพิเศษ หากมีผู้แทนของเราเอง จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาหลายๆ อย่างได้ ในรูปแบบการร่วมมือการทำงานให้มากที่สุด เพื่อเสริมการทำงานของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร


ส่วนนโยบายใดจะเป็นจุดขายของพื้นที่กรุงเทพฯ นายอนุทิน กล่าวว่า จะใช้ผลงานในช่วงที่เป็นรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพรรคภูมิใจไทยสามารถนำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาให้ออกมาเป็นรูปธรรมแทบทุกนโยบาย พร้อมยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ขัดแย้งกับใครและไม่ชอบเรื่องความขัดแย้ง เพราะไม่เชื่อว่าความขัดแย้งจะนำประเทศไปสู่ความก้าวหน้าได้ แต่เชื่อว่าการทำงานที่เป็นประโยชน์ และทำนโยบายให้บ้านเมืองนั้น เกิดประโยชน์สูงสุด จะเห็นได้ว่าแนวทางการหาเสียง จะไม่ได้พูดถึงพรรคอื่นหรือด้อยค่านโยบายของพรรคใด ซึ่งนโยบายของพรรคอื่นหากเป็นประโยชน์ก็ควรสนับสนุน ซึ่งการขัดแย้งกันด้อยค่า พูดจาเสียดสีกัน อย่าท้อกัน คนที่จะมาบริหารบ้านเมือง หรือเป็นตัวแทนประชาชน ไม่ควรที่จะทำ เพราะหากบ้านเมืองทะเลาะกันแล้วจะหาความร่วมมือได้จากที่ใด

ส่วนที่มีการนำเสนอนโยบายค่ารถไฟฟ้า จะสามารถซื้อใจคน กรุงเทพมหานครได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มั่นใจ เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม การที่พูดว่าค่าโดยสารจะไม่เกิน 40 บาท มีการศึกษามาแล้ว ว่าคุ้มค่ากับการลงทุนและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่พูดให้ประชาชนรู้สึกดีแล้วเลือกเรา เพราะคนที่บริหารบ้านเมืองมา 4 ปีแล้ว จะทำอะไรชุ่ย ๆไม่ได้

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมหรือไม่ หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาฯ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ต้องพร้อม เพราะหากนายกฯไม่ประกาศยุบสภาฯก็จะเหลือเวลาเต็มที่อีก 2 เดือน ฉะนั้นการที่นายกรัฐมนตรี เป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว เราก็คาดเดาได้ว่าการยุบสภาฯก็จะเกิดขึ้น จะทำให้ระยะเวลาเหลือไม่ถึง 2 เดือน ย้ำพรรคภูมิใจไทยพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ตอนนี้ยุบสภาฯเมื่อไหร่ก็ต้องพร้อมพร้อมมาก


ส่วนกระแสการลงพื้นที่เยาวราชของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในนามสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ วานนี้(22 ม.ค.) นั้น นายอนุทิน อุทานว่า หู้ย! ไม่ใช่นายกลงพื้นที่เพียงคนเดียว ใครๆก็ลง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ลง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ลง รวมถึงตนก็ลงในพื้นที่ห้วยขวาง ไม่ต่างกันหรอก สับไปสับมา เมื่อถึงเวลาตนก็ต้องลงเยาวราช การลงพื้นที่ก็เป็นเรื่องปกติ เป็นการเดินเข้าหาประชาชน ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดี พร้อมกับมองว่า จากการที่ตนลงพื้นที่ห้วยขวาง คนกรุงเทพฯไม่ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือดีมากกว่าคนต่างจังหวัด เผลอๆ คนต่างจังหวัดมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าด้วยซ้ำ ฉะนั้นเราจะต้องเอารูปแบบการแก้ไขปัญหาให้คนต่างจังหวัดมาดูว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาให้คนกรุงเทพฯได้อย่างไร โดยเฉพาะคนในพื้นที่ชุมชนแออัด

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทย ดูกระแสของพลเอกประยุทธ์ แล้วน่ากลัวหรือน่ากังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องให้กำลังใจท่าน และให้กำลังใจทุกพรรค ช่วงเทศกาลตรุษจีนก็ได้ส่งข้อความ “ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดไช้” ให้หัวหน้าทุกพรรค ให้กำลังใจกันเพราะเชื่อว่าทุกคนก็มี ความปรารถนาที่จะรับใช้ประชาชน ซึ่งเราก็ต้องให้กำลังใจกัน ส่วนคนตัดสินใจก็คือประชาชน

เมื่อถามว่า หากมองมุมการเมือง พรรคภูมิใจไทยกังวลกระแสผลตอบรับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายอนุทิน ถามกลับว่า เหรอ ก่อนที่จะระบุว่า กระแสลุงหนูก็มี ไปลงพื้นที่ต่างๆไปไหนมาไหนก็ได้รับการตอบรับ ที่ดีต่อประชาชน พร้อมย้ำว่ากระแสตอบรับดีมาก เพราะหลายคนก็มาให้กำลังใจ ในฐานะหัวหน้าพรรค และความเป็นนักการเมืองเราถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีค่า และการเข้ามาตัดสินใจทำการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเราเห็นว่าประชาชนก็เริ่มรู้จักพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น ส่วนจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ก็อยู่ที่ประชาชน กทม. ได้ ส.ส.ก็ทำงานไม่ได้ ส.ส.ก็ทำงานอยู่ดี หากได้ ส.ส.กทม. ก็ถือว่าเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง แต่โดยพื้นฐานก็แข็งแกร่งอยู่แล้วในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ

ส่วนหลังการเลือกตั้งจะสามารถจับมือกับพรรคอื่นได้หรือไม่ แม้ว่าขณะนี้จะยังแข่งกันอยู่ นายอนุทิน ย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่ผลของการเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยก็ชัดเจนอยู่แล้ว พร้อมกับระบุว่าเลิกพูดได้แล้วว่าใครอยู่พรรคนี้เป็นประชาธิปไตย ใครไม่อยู่พรรคนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย พรรคภูมิใจไทยพรรคดูด แต่ภูมิใจไทยเองก็ถูกดูดเหมือนกัน ซึ่งครบองค์ประกอบการเป็นพรรคการเมืองทั้งหมดแล้ว พรรคภูมิใจไทยก็เหมือนพรรคการเมืองอื่นที่มีทั้งคนเข้ามาและคนออกไป พร้อมกับมองว่า หากทำได้ดีไม่มีความขัดแย้งก็เป็นรัฐบาล หากทำได้ดีเสียงไม่พอ ไม่เป็นที่ต้องการของคนอื่น ก็ไปอยู่ฝ่ายค้าน ซึ่งมีแค่นี้

เมื่อถามว่าลุงหนูกับลุงตู่ใครจะกระแสดีกว่ากันในขณะนี้ นายอนุทินถึงกับหัวเราะ ก่อนระบุว่า เราให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]