กทม. 15 ม.ค.- “พิธา” นำทีมผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลฝั่งธนฯ ประกาศความพร้อมสะบัดธงส้มทั้งธนบุรี มั่นใจประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง ส่ง ส.ส.เข้าสภา กวาดที่นั่งครบทุกเขต
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมนำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร ร่วมเดินสายพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวผู้สมัคร ทั้ง 9 คนใน 10 เขต และแสดงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ มั่นใจว่าชาวฝั่งธนบุรีมีความต้องการเปลี่ยนแปลง และพร้อมสนับสนุนว่าที่ผู้สมัครทั้ง 9 คนของพรรคก้าวไกลให้เข้าไปเป็นผู้แทนของทุกคน
นายพิธา ให้สัมภาษณ์ระบุว่าพรรคก้าวไกลมีความมั่นใจต่อผลการเลือกตั้งในฝั่งธนบุรีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อดูจากผลการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมา คือในปี 2562 เมื่อครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ ที่พรรคก้าวไกลได้ ส.ส. 6 จาก 9 เขต ส่วนในการเลือกตั้ง สก. พรรคก้าวไกลก็ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ก็อันดับสองอยู่หลายเขต ซึ่งทำให้เห็นว่าธนบุรีเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีความต้องการเปลี่ยนแปลงสูง
ขณะนี้พรรคก้าวไกลได้ตัวว่าที่ ส.ส. ครบทั้ง 10 เขตแล้ว และเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม มีทั้งอดีต ส.ส. ที่ทำงานได้ดีทั้งในพื้นที่และในประเด็นระดับชาติ และยังมีผู้สมัครหน้าใหม่จากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ ภาคสังคม การเมืองภาคประชาชน อดีตผู้บริหาร ผู้ประกอบธุรกิจส่งออก ผู้จัดการธนาคาร อดีตพนักงานสายการบิน และอดีตบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งพรรคก้าวไกลมีความมั่นใจว่าจะผู้สมัครทั้ง 10 คนนี้ จะเป็นผู้แทนที่มีคุณภาพและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ฝั่งธนบุรีในอนาคตได้
นายพิธา กล่าวว่า ด้วยศักยภาพและความหลากหลายของทั้งตัวผู้สมัคร วิสัยทัศน์ในการพัฒนา และความต้องการเปลี่ยนแปลงของประชาชนชาวฝั่งธนบุรี ทำให้พรรคก้าวไกลมีความมั่นใจว่าจะสามารถสะบัดธงสีส้มให้ครบในทุกพื้นที่ฝั่งธนบุรี และกรุงเทพมหานครในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานครของพรรคก้าวไกลส่วนใหญ่จะเป็นคนหน้าใหม่ก็จริง แต่พรรคก้าวไกลก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถแข่งกับ ส.ส. เก่าได้ เพราะในสมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ เราก็ได้ ส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมาหลายคน
“ในสภาวะที่ประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ การใช้ประสบการณ์แบบเดิมๆ ไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาให้ประชาชนได้อีกแล้ว สิ่งที่ประเทศต้องการคือความรู้ความสามารถในการนำข้อมูลสมัยใหม่มาใช้ในการบริหารพื้นที่ รวมถึงอุดมการณ์ และประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ชาวฝั่งธนบุรี และชาวไทยต้องการได้แน่นอน” นายพิธากล่าว
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามนายพิธาถึงประเด็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองในปัจจุบัน โดยมีการถามถึงข้อวิเคราะห์สูตรการจัดตั้งรัฐบาลและการเปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งกระแสข่าวความพยายามของ ส.ว. บางกลุ่มในการแก้ไขเกณฑ์การดำรงตำแหน่งไม่เกิน 8 ปีติดต่อกันของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายพิธาระบุว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ในเวลาที่ประชาชนเดือดร้อนที่สุด กลุ่มการเมืองหลายกลุ่มกลับเอาแต่คิดเรื่องการดึงตัวนักการเมืองมาให้ได้ถึงเกณฑ์ 25 ที่นั่งเพื่อให้สามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ การเปิดตัวย้ายพรรคย้ายขั้วต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ หากสังเกตก็จะเห็นได้ว่าล้วนแต่เป็นคนของอดีตทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย