1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย  สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ

โรงเรียนโพธิสารพิทยากร 13 ม.ค.-“นายกฯ” เปิดงาน kick off โครงการ 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย  สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ ฝากครู-ผู้ปกครองสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก ปลูกฝังสิ่งที่ดี เดินหน้าสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างปลอดภัย บอกเขียนคำขวัญวันเด็กให้เข้าใจง่าย ไม่ต้องแปล แนะโรงเรียน-ชุมชนปลูกผักคอนโด ลดภาระค่าใช้จ่าย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Kick off โครงการ “หนึ่งโรงเรียนหนึ่งครูอนามัย สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ”   ที่โรงเรียนโพธิสารพิทยากร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข    พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย   นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าร่วมงาน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นวันที่นายกฯมีความสุข เพราะได้เห็นความก้าวหน้าอีกระดับ   วันนี้เราให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพจิต ถ้าสุขภาพจิตดีสุขภาพกายก็ดี ทำอะไรก็ดีหมด  งานในวันนี้คงไม่ใช่เฉพาะเรื่องสุขภาพของเด็กแต่ต้องเรียนรู้เพื่อไปดูสุขภาพคนอื่นด้วย ทั้งกับตัวเองและสังคม  สิ่งที่ฝากไว้คือทำอย่างไรจะนึกถึงตนเองและนึกถึงคนอื่นไปด้วย แบบนี้สังคมถึงจะดีขึ้น จะเป็นปึกแผ่น เดินหน้าสู่เสถียรภาพ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ได้เห็นความความร่วมมือของหน่วยงานราชการที่ตั้งใจทำสิ่งดีๆ พื่อเสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิตในโลกของเรา ตนเคยพูดมาหลายครั้งว่าโลกของเราเป็นโลกใบเดิม แต่จะไม่ใช่โลกใบเดิมอีกต่อไป ทั้งในเรื่องสุขภาพ ความมั่นคง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไปสิ้นเชิง  เราต้องเตรียมความพร้อมคนของเรา คือ เยาวชนต้องเตรียมความพร้อม เอาเวลาไปคิดเรื่องแบบนี้เพื่อให้เกิดความสร้างสรรค์ว่าจะช่วยสังคมและประเทศชาติได้อย่างไร


นายกรัฐมนตรี คำขวัญวันเด็กที่ตนฝากไปแล้ว  ว่ารู้หน้าที่ มีวินัยใฝ่ความรู้ ตนพยายามเขียนให้ง่ายที่สุด โดยไม่ต้องไปแปล คำง่ายๆแค่นี้ รู้หน้าที่ คือหน้าที่เราอยู่ตรงไหน มีวินัยได้อย่างไรและมีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง ใฝ่ความดีคือใฝ่หาความดีเพื่อไปสู่อนาคตที่มั่นคง   ทั้งนี้คาดหวังให้เด็กและเยาวชนเกิดการรับรู้ถึงบทบาทหน้าที่ความสำคัญของตนเอง   รวมถึงบทบาทของครูอาจารย์ผู้ปกครองปลูกฝังในสิ่งที่ดีและองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อสร้างเกาะคุ้มกันให้คนของเราเดินหน้าไปสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างปลอดภัย  และขอให้ชื่นชมคนอื่นบ้าง ถ้าไม่ดีก็ให้อภัยเขานั่นคือทัศนคติที่ดีของสังคม ที่จะสร้างเกราะคุ้มกันให้กับลูกหลานของเรา ที่มีทั้งวิกฤตและโอกาส อยากให้ทุกคนเรียนรู้ เราอยู่คนเดียวไม่ได้อีกแล้ว เราอยู่ประเทศเดียวไม่ได้อีกแล้ว โลกเปลี่ยนแปลงไปมากโดยเฉพาะ ด้านดิจิทัล เหมือนช่วงโควิดที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เราค้องเรียนรู้ว่าจะต้องไม่ประมาท

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า การเรียนหนังสือไม่ใช่เพื่อการสอบเพียงอย่างเดียว จะต้องเรียนรู้ในการพัฒนาสมอง เปิดกว้าง และคัดแยกว่าอะไรดีหรือไม่ดี หากเรามีภูมิคุ้มกันไม่ดีพอก็จะทำให้เสียโอกาสในอนาคต และมีปัญหาที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้เดินเข้าไปในห้องเรียนห้องหนึ่ง ซึ่งตนมีความสุขและดีใจที่ได้เห็นห้องเรียนแบบนั้น ที่เห็นบรรยากาศนักเรียนกล้าแสดงออก ไม่เหมือนสมัยเราเด็ก ที่ไม่กล้าพูดไม่กล้าแสดงออก พร้อมบอกว่าวันนี้ครูกับนักเรียนต้องเป็นคู่คิดให้เกียรติซึ่งกันและกัน  ครูจะต้องทำให้เด็กมีหัวใจแห่งความเข้มแข็ง ดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจของตนเองอย่างถูกต้อง และนำไปสู่เป้าหมายหลักของการพัฒนาเด็กตามหลัก 4 H  head hand heart และhealth สิ่งเหล่านี้คือหัวใจของเด็กทุกคนที่จะทำให้มีความเข้มแข็ง ถือเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ  และทำเพื่อคนอื่น ทำให้สังคมและประเทศเดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งสานต่ออดีตที่ผ่านมา ที่จะต้องเรียนรู้ว่าสิ่งใดดีงามต้องสืบสานต่อ สิ่งใดไม่ดีก็หยุดไว้เท่านั้นเอง  ต้องเข้าใจว่าเราไม่ได้ปลูกฝังอะไรทั้งสิ้น แต่อยากให้ทุกคนซึมซับไว้ในหัวใจความเป็นไทยว่าจะรักษาชาติบ้านเมืองในอนาคตได้อย่างไร พร้อมเป็นกำลังใจให้ครูอนามัยทุกคน ตัวครูเองก็ต้องเข้มแข็งเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้เด็ก


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเมื่อสักครู่ได้เห็นแปลงผักพร้อมแนะนำให้ปลูกผักคอนโด เพราะหลายประเทศทำแบบนี้ เมืองไทยก็เป็นแบบนี้ พื้นที่น้อยลง ที่แพงขึ้น ปลูกพืชคอนโดจะได้มีอาหารเสริมกลางวัน รัฐบาลสนับสนุนมื้อกลางวันได้ไม่มากนัก ทุกสถานที่โรงเรียน และพื้นที่ชุมชนก็สามารถทำได้เช่นกัน ว่างๆก็มาช่วยกันทำ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่าวันนี้มีแค่นี้ แต่ถ้าให้พูดก็พูดได้ทุกวัน เวลาพูดแล้วพูดยาวเพราะว่าทำมาหลายอย่าง หลายด้าน 20 กว่ากระทรวง ทั้งการเมืองและข้าราชการประจำ ท้องถิ่นภูมิภาคก็ทำงานไปด้วยกัน  บนนโยบายของรัฐบาล คือขับเคลื่อนไปด้วยกัน ดังนั้นต้องเข้าใจตรงนี้ ถ้าไม่ช่วยกันทุกอย่างก็จะติดขัด ดังนั้นนายกรัฐมนตรีก็จะพยามที่จะบริหารตรงนี้ให้ได้ ข้ามหน่วยงานข้ามกระทรวง เพราะนายกฯก็มีอำนาจในการบริหารงาน แต่คงต้องติดตามหากมีข้อร้องเรียน หรือมีปัญหาก็ต้องสืบสวนสอบสวนต่อ นายกฯ มีอำนาจที่ไม่ได้เหมือนกับหลายคนอยากให้เป็น เราอยู่ด้วยกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ จึงเชื่อมั่นว่าเราทุกคนจะช่วยกันได้ ทั้งนี้หลังเปิดงานนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการ 4 ฐาน คือ 1.นาทีชีวิต ทำCPR ซึ่งนายกฯได้ทดลองทำ CPR  พร้อมบอกว่าเห็นประโยชน์อย่างอื่นด้วยคือ ได้ออกกำลังกาย และขอให้นักเรียนทำด้วยความมั่นใจแล้วเราจะได้กุศล ฐานที่2.คือฐานคัดกรองสุขภาพจิตและสารเสพติด ซึ่งนายกฯร่วมกิจกรรมคีบตุ๊กตา ได้ตุ๊กตาหมีสีขาว ส่วนฐาน 3.ผลิตภัณฑ์สุขภาพ  และฐาน4. ตรวจเต้านม โดยนายกฯ ได้เดิมชมการสาธิตการตรวจเต้านม .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย