ตลาดคลองจั่น 7 ม.ค.-“พิธา” ควง “หมิว สิริลภัส” ลงพื้นที่ตลาดคลองจั่น เขตบางกะปิ เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร มั่นใจ กทม. เกินครึ่ง จะเป็นพื้นที่สีส้ม ชูนโยบายแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะในพื้นที่ กทม.
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมนายพิจารณ์ เชาวพัฒวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ตลาดคลองจั่น เขตบางกะปิ นำทีมแนะนำว่าที่ผู้สมัคร เขตบางกะปิ “หมิว” สิริลภัส กองตระการ ดารานักแสดง กับพี่น้องประชาชนรวมถึงว่าที่ผู้สมัครกรุงเทพฯ โซนตะวันออก อีก 4 คน คือ นายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ เขตสะพานสูง-ประเวศ ,นายแพทย์เฉลิมชัย กุลาเลิศ เขตห้วงขวาง ,เรืออากาศโทธนเดช เพ็งสุข เขตลาดพร้าว แลถนายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ เขตสวนหลวง-ประเวศ
นายพิธา กล่าวว่า เขตบางกะปิถือเป็นยุทธศาสตร์ส่วนหนึ่ง ของพรรคก้าวไกลในการรักษาเขตเดิมเพิ่มเติมเขตใหม่กับพื้นที่ กทม. ที่ต้องการให้ กทม. เกินครึ่งเป็นพื้นที่สีส้ม โดยเขตบางกะปิเดิมเป็นเขตของ “ไอติม” พริษฐ์ วัชระสินธุ สมัยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ และในการเลือกตั้งปี 62 พรรคก้าวไกลได้อันดับที่ 3 แต่แพ้แค่หลักร้อย ขณะที่การเลือกตั้ง ส.ก. ได้คะแนนอันดับสอง
ในส่วนของหมิว ถือเป็นคนที่มีศักยภาพ อยู่ในความสนใจของประชาชน ในการเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาให้ประชาชนสมัยโควิดระบาด ดังนั้น ในเขตนี้นอกจากจะเป็นเขตยุทธศาสตร์ ยังมีผู้สมัครที่สดใหม่ ซึ่งพรรคก้าวไกลจะรวบรวม บุคลากรลงมาช่วยหาเสียงให้กับหมิวในเขตนี้ รวมถึงไอติมในฐานะที่คุ้นเคยกับประชาชนในพื้นที่
ส่วนนโยบายสำหรับพื้นที่เขตบางกะปิ และกรุงเทพโซนตะวันออก มีผู้สมัครที่มีประสบการณ์หลากหลาย ในการที่จะเข้ามาแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาใหญ่ของเมืองหลวงทั่วโลก ที่หลายพรรคละเลยในการแก้ปัญหา ดังนั้นพรรคก้าวไกลจะเน้นปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ คมนาคม การศึกษา และปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่คน กทม. เรียกร้อง ซึ่งพรรคทีมนโยบาย ส.ส. ที่จะลงสมัครบัญชีรายชื่อ และ ส.ส. เขตที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องสิ่งแวดล้อม และมีความพร้อมในเรื่องการวางผังเมือง และโรงงานขยะ เป็นเรื่องของขยะควรเป็นการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่กลับกลายว่าเรื่องขยะจากการแก้ปัญหาวิกฤติ กลายเป็นหายนะ แทนที่จะแก้วิกฤตให้เป็นโอกาส
ขณะเดียวกัน นายพิธา ยืนยัน กทม. จะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นเกินครึ่งอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ได้พูดลอยๆ แต่มีการทำข้อมูล ซึ่งคนรุ่นใหม่จะใช้ระบบดาต้ามาดูเรื่องตัวเลข ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่จนถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.- ส.ก. และทำโพลอย่างต่อเนื่อง แล้ววางแผน นโยบาย ซึ่งขณะนี้ มีการวางตัวผู้สมัคร แล้ว 30 เขต จาก กทม. 33 เขต.-สำนักข่าวไทย