ทำเนียบรัฐบาล 27 ธ.ค.-“อนุทิน” มองนายกฯ ลงพื้นที่ ไม่ใช่การห้ำหั่นกัน แต่ถือต่างคนต่างทำความดีเพื่อประชาชน รับดีลรัฐบาลเดิม แต่สุดท้ายอยู่ที่ผลเลือกตั้ง พร้อมเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ขอเป็นผู้กำหนดเกมบ้าง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนตั้งฉายาในส่วนของพรรคภูมิใจไทย “ภูมิใจดูด พูดแล้วดอย” ว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่แรงจะเป็นข่าวหรือไม่ ส่วนตัวมองเป็นสีสัน มั่นใจผู้สื่อข่าวไม่ได้จริงจังอะไร
เมื่อถามว่าให้คะแนนฉายา “ภูมิใจดูด พูดแล้วดอย” นายอนุทิน หัวเราะ ก่อนตอบว่า “ไม่ได้เรท”
ส่วนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงพื้นที่เป็นนักการเมืองเต็มตัว ทำให้กระแสพรรครวมไทยสร้างชาติดีขึ้น พรรคภูมิใจกังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต่างคนต่างแข่งขันกัน ต่างทำความดี ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ซึ่งพรรคภูมิใจก็มีทิศทาง มียุทธศาสตร์ของพรรค อย่าไปมองว่าเป็นการห้ำหั่นกัน
“ท่านนายกก็เป็นนายกรัฐมนตรีเข้าปีที่ 8 แล้ว ถือเป็นนักการเมืองตั้งแต่ที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
ส่วนหลังจากนี้จะเปิดตัวบิ๊กเนมเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยอีกหรือไม่ เพราะมีดีลกันไว้หลายคน นายอนุทิน กล่าวว่า คงเป็นไปตามขั้นตอน เราไม่ได้ปิดกั้นอะไร พรรคพร้อมเสมอสำหรับผู้ที่จะมาร่วมงานกับพรรค ด้วยนโยบาย ประสบการณ์ และความสำเร็จของพรรค เราเปิดกว้างไม่ได้ปิดประตูใส่ใครแม้แต่คนเดียว
เมื่อถามว่า ช่วงนี้หลายพรรคการเมืองเริ่มขยับเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง และการเมืองในปีหน้าจะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ปีหน้าก็มีการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ตั้งใจจะมาเป็นตัวแทนของประชาชนต้องทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการนำนโยบายไปสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งการเตรียมตัวเลือกตั้ง
“มันเป็นเรื่องใหญ่นะ แผ่นป้าย แผ่นพับ ต้องทำ รูปแบบการปราศรัยแตกต่างกันไป บางพรรคปราศรัยใหญ่ บางพรรคปราศรัยย่อย บางพรรคใช้วิธีการเคาะประตู คิดว่าช่วงเวลา 5-5 เดือน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีเปิดตัวเป็นนักการเมือง โอกาสที่จะได้คะแนน หรือเข้าสู่รัฐบาลเดิมมีมากน้อยเพียงใด หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ทุกอย่างต้องดูที่ผลการเลือกตั้ง เราคุยกันไว้ว่าจะจับมือกันเป็นขั้วนี้ แต่หากประชาชนเลือกมาแล้วคะแนนไม่พอจะทำอย่างไร จึงต้องย้ำว่า ประชาชนคือผู้ตัดสินวิถีทางและอนาคตของพรรคการเมือง
“ ถ้าประชาชนเลือกขั้วรัฐบาลปัจจุบันเกินกึ่งหนึ่งคงเดินหน้าต่อ แต่ต้องให้ผ่านพ้นหลังการเลือกตั้งไปก่อน ถ้าถามพรรคภูมิใจไทย พรรคก็มีแนวทางอยู่แล้ว คือ ต้องการขยับเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ แต่การจะเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้ ก็ต้องมีทิศทางเป็นของตัวเอง เราก็ต้องเป็นผู้กำหนดเกมบ้าง ไม่ใช่เป็นพรรคที่คอยไปดูว่าพรรคอื่นเขาทำอย่างไร และเราจะขอไปร่วมก็คงไม่ได้” นายอนุทิน กล่าว
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วันที่เปิดพรรคภูมิใจไทย พรรคก็มีความพร้อมให้เห็น มีสมาชิกมาสมัครมากมาย ส่วนใหญ่เป็น ส.ส. ที่ลาออกมาร่วมงานกับพรรค ยืนยันพร้อมเป็นแกนนำ
ส่วนการเลือกตั้งรอบหน้าจะจองเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคมีความพร้อมที่จะทำงานให้บ้านเมือง หากประชาชนพิจารณาแล้วว่าพรรคภูมิใจไทยทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้เขา เขาก็เลือกเรา ไม่มีอะไรซับซ้อน-สำนักข่าวไทย