ทำเนียบ 8 ธ.ค.- “อนุทิน” ลั่นไม่เป็นทายาทการเมือง หลัง “พล.อ.ประยุทธ์” บอกอยู่ต่ออีก 2 ปี บอก คนเป็นทายาทมักตายก่อน ขอทำด้วยตัวเอง ไม่ให้ใครมาตั้ง ระบุ “อุ๊งอิ๊ง-ตู่-หนู-ป้อม-ตุ๋ย-มิ่ง-ท๊อป” รอหลังเลือกตั้ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการร่วมรัฐบาลหลังการเลือกตั้งกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มีแนวโน้มว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเข้าร่วม ว่า จะพูดอะไรต้องรู้ว่าเรามีความพร้อมแค่ไหน ถ้าไม่มีความพร้อม ไปพูดอะไรใหญ่โต ก็เห็นๆ กันอยู่
ส่วนได้เห็นเจตจำนงค์ของพล.อ.ประยุทธ์ ที่อยากจะทำภารกิจต่อแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนที่ทุ่มเททำงานให้กับบ้านเมือง ทั้งการบริหารประเทศ และในระบบรัฐสภา แต่จะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ขณะนี้ใกล้ครบเทอมแล้ว ถือว่าความสามารถในการบริหารบ้านเมืองของนายกรัฐมีประสิทธิภาพ
ส่วนโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ เรื่องทายาททางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ คือ นายอนุทิน หากรัฐบาลหน้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ 2 ปี แล้วอีก 2 ปีหลัง นายอนุทิน เป็นนายกฯ นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากดูประวัติศาสตร์การเมืองในประเทศไทยคนที่เป็นทายาททางการเมืองจะตายก่อน ซึ่งตนเองหากจำเป็นอะไรจะต้องทำตัวเองให้มีความพร้อม และทำความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ไม่ใช่ให้ใครมาตั้ง
เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ มีเวลา 2 ปีเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นที่มีเวลา 4 ปี มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์คนอื่นดีกว่า เพราะช่วงนี้เข้าใกล้การเลือกตั้งมาทุกที ตนคิดว่าสิ่งที่ต้องกังวลคือจะทำอย่างไรให้นโยบายพรรคภูมิใจไทยตรงใจประชาชนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากที่สุด
ส่วนหากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ ส.ส.น้อยกว่าพรรคภูมิใจไทย จะยอมให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ หรือยึดตามหลักว่าพรรคที่ได้คะแนนเสียงมากจะต้องเป็นนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูผลของการเลือกตั้ง สุดท้ายแล้วจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากแค่ไหน
“หากจะพูดไปตอนนี้และเมื่อถึงเวลาไม่ได้ขึ้นมา ตนจะกลายเป็นเสียคำพูด ดังนั้นเวลาจะพูดอะไรต้องดูสถานการณ์ และดูความพร้อมว่าเราอยู่ในจุดไหน และความจริงจะต้องมาถามตอนที่รู้ผลเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว
ส่วนเรื่องจุดยืนจะต้องให้พรรคที่ได้อันดับหนึ่งหรือพรรคที่รวบรวมเสียงได้เป็นนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตยมีกติกาและมีมารยาทอยู่ ตนไม่กังวล ต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อน
เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นพรรคที่ไม่ได้อันดับหนึ่งแต่รวบรวมเสียงได้จะยอมรับได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนว่าต้องเป็นพรรคอันดับหนึ่งถึงจะเป็นนายกฯ หากเขียนอย่างนั้นก็จะมีความชัดเจน แต่รัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตยฝ่ายไหนได้เสียงข้างมากก็จะชนะ และไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเลือกนายกฯ เรื่องเดียว เรื่องการออกกฏหมายต่างๆ หรือการไม่ไว้วางใจด้วย
“ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอุ๊งอิ๊ง ตู่ หนู ป้อม ตุ๋ย มิ่ง และท๊อป ก็ต้องหลังเลือกตั้งหมด” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย