รัฐบาลเอาจริงร่วมมือประเทศเพื่อบ้าน ส่ง ผบ.ตร.ร่วมปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กรุงเทพฯ 3 ธ.ค.- พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ความสำเร็จอันเกิดจากความเอาจริงเอาจังของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้ดูแลนโยบายด้านความความมั่นคงของประเทศ สืบเนื่องจากความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการหลอกลวงของแก๊งคอลเซนเตอร์ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทำให้ประชาชนเดือดร้อนและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก พลเอกประวิตรฯ จึงได้สั่งเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกรูปแบบ อาทิ แก๊งคอลเซนเตอร์ สแกมเมอร์ การหลอกให้รัก หลอกให้ลงทุน รวมไปถึงการใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่อประชาชน การเผยแพร่ข่าวปลอม (Fake news) การเผยแพร่ภาพวาดการ์ตูนล้อเลียนบุคคลสำคัญ หรือสถาบันหลักของชาติ การแสวงหาประโยชน์ทางเพศบนสื่อสังคมออนไลน์ จนกล่าวได้ว่า พลเอกประวิตรได้แสดงบทบาทการนำนโยบายปราบปรามอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามในทุกมิติ


หนึ่งในผลงานทีโดดเด่นของพลเอกประวิตรฯ ได้แก่ การผลักดันศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอม (Anti Fake News Center : AFNC) เพื่อเป็นศูนย์รวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะข้อมูลและข่าวสารต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายสังคม อันอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อสังคม เศรษฐกิจและความมั่นคงของประชาชน ตลอดจนมีเครื่องมือในการจัดการแก้ไขและเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกต้องต่อสาธารณะเพื่อรับแจ้งข่าวและเบาะแสของข้อมูลเท็จที่เผยแพร่อยู่ในสังคม โดยตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ย. 62 – 31 ต.ค. 65 จากการรับแจ้งเบาะแส และติดตามการสนทนาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับข่าวปลอม มีข้อความข่าวที่ต้องคัดกรองทั้งหมด 942,821,174 ข้อความ ข้อความข่าวที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบทั้งหมด 39,346 ข้อความ โดยหลังจากคัดกรองพบข้อความจำนวนเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 19,065 เรื่อง สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุดอันดับ 1 คือ Social Listening Tools 99.89% รองลงมาคือ Line Official 0.10%, Twitter 0.01%, Facebook 0.00% และ Official Website 0.00% ตามลำดับ

สำหรับด้านการปราบปรามก็ได้สั่งการเร่งรัดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ Police Cyber Taskforce (PCT) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่รับแจ้งคดีอาชญากรรมออนไลน์ โดยผลงานล่าสุด พลเอกประวิตรฯ ได้สั่งกวาดล้างอาชญากรรมแก๊งต้มตุ๋นออนไลน์ โดยเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 65 ผู้สื่อข่าว เปิดเผยว่า ระหว่างการเยือนประเทศกัมพูชาเมื่อวันที่ 22-24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เจรจาขอความร่วมมือรัฐบาลกัมพูชาให้ช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เข้าร่วมปฏิบัติการปราบปรามเพื่อยุติปัญหาให้หมดสิ้นไปเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อประชาชน โดยมี ตร.เป็นหน่วยแกนหลักที่ต้องบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้มอบหมาย พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาฉ้อโกงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กสทช. สำนักงาน ปปง. สำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานเกี่ยวข้อง หารือกำหนดมาตรการและขั้นตอนปฏิบัติในการบูรณาการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายให้เสร็จใน 3 เดือน โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งความคดีออนไลน์ จำนวน 132,747 เรื่อง แยกเป็น คดีออนไลน์ 22 ประเภท กรณีหลอกลวงซื้อขายสินค้าสูงสุด จำนวน 43,323 คดี การโอนเงินเพื่อหารายได้จากกิจกรรม จำนวน 18,143 คดี และการหลอกลวงให้กู้เงินแต่ไม่ได้รับเงิน จำนวน 15,887 คดี สามารถจับกุมอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในปี 2565 แยกเป็น พนันออนไลน์สูงสุด 697 คดี ผู้ต้องหา 1,198 คน และการหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน 686 คดี ผู้ต้องหา 782 คน


นอกจากการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พลเอกประวิตรฯ แสดงวิสัยทัศน์ที่สนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยนวัตกรรม โดยเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานเปิดงานสัมมนาและนิทรรศการเศรษฐกิจดิจิทัล“THAILAND 4.0 ประเทศไทยไปไกลกว่าที่คิด : THAILAND 4.0 THE FUTURE AND BEYOND” โดยได้ประกาศนโยบายผลักดันการส่งเสริม เศรษฐกิจดิจิตัลซึ่งจะ เพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน ของประเทศ และทำให้เกิดพฤติกรรมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนสังคมอันเป็นการตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศ เป็น“ประเทศไทย 4.0” และ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่พูดถึงย่อมมาพร้อมกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงได้มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับรู้เทคโนโลยี สมัยใหม่ และ ความรู้เกี่ยวกับภัยอันตรายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ถือได้ว่า ผลการดำเนินงานด้านป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีความก้าวหน้าเป็นที่น่าพึงพอใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ขับเคลื่อนให้ก้าวหน้า นับว่าเป็นงานท้าทายของรัฐบาลที่จะต้องเร่งปรับระบบงาน สนับสนุนงบประมาณที่เพียงพอเพื่อให้ประชาชนปลอดภัยจากภัยคุมคามทางไซเบอร์

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]