เพื่อไทย 22 พ.ย-“นพ.ชลน่าน” เชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” แยกทาง “พล.อ.ประวิตร” เป็นเพียงกลยุทธ์แยกกันเดินรวมกันตี รับกระทบบางพื้นที่ ด้านเลขาฯ บอกยังไม่ได้ทาบทาม “ เศรษฐา ทวีสิน” ทางการ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามที่เป็นกระแสข่าวจริง สะท้อนว่าต้องการสืบทอดอำนาจ เพราะหากอยู่พรรคเดิมอาจจะมีอุปสรรคจากเสียงตอบรับของประชาชน จึงแยกกันอยู่ อาจจะเพื่อความอยู่รอด เพราะอย่าลืมว่า 3 ป. มีที่มาด้วยกัน จึงมองว่าถ้ารวมกันอยู่อาจตายหมู่ จึงเปลี่ยนไปแยกกันตี และมารวมกันภายหลัง ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยด้ประเมินคู่แข่ง และเตรียมพร้อมเสมอ ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นอย่างไร จะมีกลยุทธ์อย่างไร กากพรรคเข้าถึงประชาชนเชื่อว่าจะมีกระแสมากกว่าอย่างอื่น
“แต่ก็ยอมรับว่าการแยกกันเดินของพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อาจจะกระทบกับบางพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย เช่น ภาคใต้ และภาคกลางบางส่วน แต่ไม่กระทบภาพใหญ่ เพราะกระแสความต้องการของประชาชนตอนนี้ตอบชัดว่าพรรคฝ่ายรัฐบาลกระแสต่ำมาก จึงเป็นเหตุผลที่พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรแยกกันอยู่” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นพ.ชลน่าน มองว่ากลยุทธ์การแยกกันเดินของพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรเป็นการดูถูกประชาชน แต่เชื่อว่าประชาชนตัดสินใจได้เอง และเชื่อว่าสถานการณ์ของรัฐบาลขณะนี้ยังไม่พร้อมยุบสภา เนื่องจากยังมีหลายอย่างที่รัฐบาลจัดสรรไม่ลงตัว เพราะการยุบสภาจะต้องเป็นประโยชน์กับฝ่ายรัฐบาลมากที่สุด ดังนั้น การยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 พรรคฝ่ายค้านจะประเมินจากสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะประเด็นการยุบสภา ซึ่งคาดว่ารัฐบาลน่าจะยื้อไปถึงช่วงสิ้นเดือนมกราคม จึงอาจจะยื่นญัตติในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้สามารถอภิปรายได้ช่วงกลางเดือนมกราคม เพราะหากยื่นช่วงนี้จะกระทบกับวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ ที่มองแล้วอาจจะไม่เหมาะสม
ส่วนวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกส.ส. หากคำวินิจฉัยไม่เป็นไปตามมติของสภาฯ จะส่งผลต่อเป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญก็เข้าสู่กระบวนการตามปกติ แต่หากศาลชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญก็ถือว่ากฎหมายเป็นอันตกไป ไม่มีกฎหมายใช้สำหรับเลือกตั้ง
“ขณะนี้สภาฯ ยังมีเวลาอยู่ หากเห็นความสำคัญต้องเร่งเสนอร่างกฎหมายลูกขึ้นมาใหม่ เพื่อพิจารณาให้ทันก่อนครบวาระสภาฯ แต่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ต้องถามเหตุผลผู้ที่ทำให้เกิด และต้องหากฎหมายมาใช้ในการเลือกตั้งให้ได้ เว้นแต่จะใช้อำนาจตีความว่าไม่สามารถใช้กฎหมายใดในการเลือกตั้งได้ และรักษาการยาว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดวิกฤติ เพราะประชาชนจะออกมาต่อต้าน” นพ.ชลน่าน กล่าว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากลยุทธ์การแยกกันเดินระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตรเป็นเพียงเหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องใหม่ และพรรคเพื่อไทยไม่หนักใจเรื่องนี้
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค หลังนายเศรษฐา ทวีสิน รับว่าจะอยู่พรรคเพื่อไทย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้ทาบทามนายเศรษฐามาเป็นแคนดิเดตอย่างเป็นทางการ ซึ่งทุกคนที่จะมาเป็นแคนดิเดตต้องผ่านกระบวนการตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ และจะเปิดตัวในช่วงเวลาที่เหมาะสมคือใกล้จะยุบสภาหรือมีประกาศเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ.-สำนักข่าวไทย