โพล ชี้ ประชาชน เชื่อพรรคการเมืองขวางกัญชาเหตุเสียประโยชน์

กทม.19 พ.ย.- โพล ชี้ ประชาชน เชื่อกลุ่มทุน-พรรคการเมือง เตะตัดขาขวางนโยบายกัญชาเหตุเสียประโยชน์ ระบุคนเข้าใจดีว่า “ภท.”เจ้าของนโยบายกัญขา ต้องการข่วยคนตัวเล็กตัวน้อย เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่จัดในข่ายยาเสพติด


ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) รเปิดเผยว่า ตนได้ร่วมกับ นางจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล นักวิชาการอิสระด้านการเกษตรและการพัฒนาชนบท ดำเนินการสำรวจ เรื่อง กัญชา กับ การเตะตัดขา กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศดำเนินโครงการจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,226 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดนพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 55.6 มีความรู้มากถึงมากที่สุดว่า กัญชาเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่จัดอยู่ในพวกยาเสพติดอื่น ๆ ในขณะที่ ร้อยละ29.8 มีความรู้ระดับปานกลาง และร้อยละ 14.6 ระบุมีความรู้น้อยถึงไม่รู้เลย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.8 เชื่อว่ามีขบวนการกลุ่มทุน กลุ่มการเมืองทั้งคนไทยและต่างชาติ เสียผลประโยชน์จากนโยบายกัญชาเพื่อสุขภาพของพรรคภูมิใจไทย ในขณะที่ ร้อยละ 22.2 ไม่เชื่อ

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.6 รับรู้ว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองเดียวที่กล้าเปลี่ยนแปลง ทำเพื่อชาวบ้านประชาชน คนตัวเล็กตัวน้อยให้มีและใช้กัญชาได้อย่างปลอดภัย และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.3 รับรู้ว่า การขัดขวางนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยเป็น เกมการเมือง เตะตัดขา โดยพรรคการเมืองที่ไม่ต้องการให้พรรคภูมิใจไทยได้เปรียบจากนโยบายเพื่อชาวบ้านประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยได้ประโยชน์


อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.9 เห็นด้วยมากถึงมากที่สุดกับ พรรคภูมิใจไทย กำลังทำเรื่องกัญชาเพื่อ ประโยชน์ของชาวบ้านประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยระดับฐานรากของสังคมได้รับประโยชน์ ร้อยละ 20.5 เห็นด้วยปานกลางและร้อยละ 19.6 เห็นด้วยน้อย ถึง ไม่เห็นด้วยเลย

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.3 เห็นด้วยมากถึงมากที่สุดกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่กล้าได้ กล้าเสีย ทำเรื่องกัญชาเพื่อชาวบ้านประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยได้ประโยชน์มีและใช้กัญชาอย่างปลอดภัย ในขณะที่ ร้อยละ 20.0 เห็นด้วยปานกลาง และร้อยละ 20.7 เห็นด้วยน้อย ถึง ไม่เห็นด้วยเลย

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.6 ระบุเป็นไปได้มากถึงมากที่สุดที่จะเข้าร่วม ส่งเสริมการปลูกกัญชา เพื่อเหตุผลทางการแพทย์และการวิจัย เพื่อคนไทย ชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อยเข้าถึงยารักษาโรคจากพืชกัญชาด้วยความปลอดภัย ในขณะที่ ร้อยละ 19.7 ระบุเป็นไปได้ระดับปานกลาง และร้อยละ 18.7 เป็นไปได้น้อย ถึง เป็นไปไม่ได้เลย ที่สำคัญคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ57.8 ระบุเป็นไปได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุดที่จะเลือกพรรคภูมิใจไทย ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้งในขณะที่ ร้อยละ 17.3 ระบุเป็นไปได้ระดับปานกลาง และร้อยละ 24.9 ระบุเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยถึงเป็นไปไม่ได้เลย


ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มประชาชนทั่วไปกับกลุ่มกระแสในสังคมข้อมูลข่าวสารมีความแตกต่างกันเพราะประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจว่า กัญชาเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแยกออกจากยาเสพติดและการเสพติดอยู่ที่ตัวคนแต่ละคนมากกว่าว่าจะเสพติดอะไรได้ทั้งนั้นไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องกัญชาเพียงอย่างเดียวและเมื่อพิจารณาเรื่องกัญชาเพื่อสุขภาพจะพบว่ามีขบวนการกลุ่มทุนและกลุ่มการเมืองหลายกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยแต่ชาวบ้านประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยต่างได้ประโยชน์เป็นส่วนใหญ่ในการมีและใช้กัญชาอย่างปลอดภัย ผลที่ตามมาคือการยกระดับความเป็นไปได้ในการมีส่วนร่วมส่งเสริมสนับสนุนการมีและใช้กัญชาอย่างปลอดภัยและตัดสินใจจะเลือกพรรคภูมิใจไทยถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ประชาชนมองเห็นถึงความกล้าได้กล้าเสียของนายอนุทิน ชาญวีรกูลที่แสดงความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของชาวบ้านประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยให้มีและใช้กัญชาอย่างปลอดภัย หลุดออกจากวงจรอุบาทว์เดิม ๆ ที่มีการเอาข้อกฎหมายต่าง ๆ ในอดีตมาแสวงหาผลประโยชน์และหากินกับชาวบ้านและประชาชนโดยอ้างถึงความผิดให้ประชาชนทั่วไปหวาดกลัว เสียงจากประชาชนคือ  “ใช้ใต้ดินก็ตามจับ ขอขึ้นบนดินก็ขัดขวาง ตกลงประเทศนี้ต้องการให้พวกเราลงใต้ดินต่อไปใช่ไหม” การนำกัญชาให้กลับมาอยู่ในมือประชาชน คือ ปฏิบัติการจริง ของ นโยบายเศรษฐกิจใหม่หรือ BCG ระดับชุมชน” เพราะ กัญชา คือ พืชเศรษฐกิจใหม่ หนึ่งในความหลากหลายทางชีวภาพของไทยที่หาได้ยากจากที่ใดในโลก การให้ชาวบ้านได้กินใช้กัญชาอย่างถูกต้องและปลอดภัย คือ เศรษฐกิจชีวภาพระดับฐานรากและยังเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวไปพร้อมกันตามโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (Bio-Circular-Green Economy, BCG Economy) ลดความเหลื่อมล้ำชุมชนเข้มแข็ง แข่งขันระดับโลกได้ในขณะที่ นักวิชาการอิสระด้านการเกษตรและการพัฒนาชนบท

นางจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล กล่าวว่า ประเด็น “การใช้ประโยชน์จากกัญชา” ที่กำลังเป็นข้อถกเถียงอยู่ในขณะนี้ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการต่อสู้ทางการเมือง ระหว่างการเมืองเพื่อประชาชนกับการเมืองเพื่อกลุ่มทุน แม้ทราบกันมาโดยตลอดว่า กัญชา คือยาประจำบ้านของคนไทยมานับแต่อดีต และเป็นหนึ่งในความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของแผ่นดิน โดยมีหลักฐานการใช้กัญชาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณทั้งในการแพทย์แผนไทยและยาสมุนไพร แต่ปัจจุบันการใช้กัญชาในประเทศไทยกลับเป็นสิ่งต้องห้าม ความพยายามให้ “กัญชาให้กลับมาอยู่ในมือประชาชน เพื่อการกินใช้และรักษาตนเอง” กลับยังถูกขัดขวาง โดยมีการนำประเด็นเรื่อง“กัญชาเป็นยาเสพติด” มาสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อสังคม ทั้งที่ กัญชาติดยากกว่าเหล้าและบุหรี่ ข้อเสนอคือเร่งรัดออกแนวทางการใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ให้ลงไปถึงระดับชาวบ้านโดยเร็ว “ให้กัญชาอยู่ในมือชาวบ้านอย่างปลอดภัย” และนำประเด็น “กัญชา” กลับไปพิจารณาในสภา เพื่อให้เกิดข้อถกเถียงสาธารณะ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับรู้ข้อเท็จจริงและเห็นธาตุแท้ของนักการเมือง เพื่อการตัดสินใจเลือกตั้งในเวลาอันใกล้นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย