กรุงเทพฯ10 พ.ย.-“นิพนธ์” ชี้ ปชป.ดำรงอยู่มาถึงปีที่77 ด้วยอุดมการณ์ที่สืบทอดกันมา คนอาจปรับเปลี่ยนได้ แต่อุดมการณ์เปลี่ยนไม่ได้ ยอมรับเสียใจที่มีคนออกแต่ไม่เสียดาย เชื่อผู้บริหารนำพาพรรคไปสู่เป้าหมายได้แน่นอน
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมย้ายพรรค ว่า ไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องความคิดของแต่ละคนว่าใครคิดจะอยู่กับพรรคหรือไปจากพรรค ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ดูแลทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคนที่อยู่ในพรรค การที่จะไปอยู่พรรคอื่น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่ตัดสินใจ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าวันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว ยืนยันได้ว่าพรรคให้โอกาสกับคนทุกคน
“เหตุการณ์นี้เราเคยประสบมาแล้ว แม้ว่าจะมีพรรคบางพรรคที่จ้องพยายามจะนำคนในพรรคประชาธิปัตย์ไป เพื่อทำให้พรรคดูไม่มีความมั่นคงและอ่อนแอ คิดว่าเขาจ้องจะทำลายพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว แต่เชื่อว่าเราจะผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้แน่นอน เรื่องนี้เป็นบทพิสูจน์ของพรรคประชาธิปัตย์ในวันข้างหน้า และเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งที่ให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่ย่างเข้าสู่ปีที่77 พรรคไม่ได้ฝากอนาคตไว้กับคนใดคนหนึ่ง เมื่อคนรุ่นนี้จากไปคนรุ่นใหม่ก็เกิดขึ้น ถ้าเกิดขึ้นตามที่เป็นข่าว พรรคจะมีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่มากขึ้น ถือเป็นการถ่ายเลือดครั้งใหญ่อีกครั้งของพรรค” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนไม่ประสงค์ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในเวลาอย่างนี้ พรรคต้องการให้ทุกคนช่วยกันสร้าง กอบกู้พรรคจากวิกฤตินี้ ใครที่คิดไม่ดีกับพรรคจะเป็นบทพิสูจน์ในวันข้างหน้า อยากเห็นทุกคนมีความมั่นคงกับพรรค วันนี้พรรคเดินไปข้างหน้าถูกทิศถูกทางแล้ว เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามานำพรรคให้มีบทบาทมากขึ้น พรรคจะไม่กังวลกับเรื่องนี้ เราเตรียมคนพร้อมสำหรับเข้าสู่การเลือกตั้งแน่นอน ไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขวางการเดินไปข้างหน้า แผนที่วางไว้ก็เดินไปถึงให้ได้ คิดว่าเวลาอย่างนี้ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน หวังว่ากรณีน.ส.รังสิมาจะไม่เป็นจริง ทุกคนยังเป็นกำลังของพรรคที่เน้นเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ส่วนกรณีน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีกระแสข่าวว่า จะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบจากข่าว เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาน.ส.พิมพ์ภัทรา-น.ส.รังสิมา ได้มีการพูดคุยกับตนอยู่ ซึ่งทั้ง 2 ท่านก็เป็นผู้อาวุโสแล้วในการเป็น ส.ส.4-5 สมัย ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว และพรรคเองเห็นว่า การคงอยู่ของพรรคเป็นเรื่องใหญ่กว่าการคงอยู่ของตัวบุคคล บุคคลจากไปได้ แต่พรรคต้องรักษาไว้ ตนเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ๆเข้ามาแบกรับภารกิจนี้ได้ พรรคเคยผ่านวิกฤติแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว มองว่าคนที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปตั้งพรรคใหม่ไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จแม้แต่คนเดียว
เมื่อถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบภายในพื้นที่ของภาคใต้ อาทิ จังหวัดนครศรีธรรมราชหรือไม่ นายนิพน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ผู้บริหารพรรคต้องเตรียมบุคคลที่จะมาลงทดแทนในพื้นที่ เชื่อว่าจะมีคนทดแทน ถ้าข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องจริง และทุกครั้งที่มีคนออกจากพรรคเมื่อถึงเวลาประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินทุกครั้ง ส่วนกระแสเลือดไหลออกไม่หยุดนั้น เราจับตาเรื่องนี้มาตลอด ยอมรับไม่อยากให้เกิดขึ้น และเสียใจที่มีคนออกไป แต่ไม่เสียดาย ซึ่งเราต้องมีแผนเตรียมรองรับสถานการณ์ไว้ ที่สำคัญที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงไม่มาติดกับดักอยู่กับคนนั้นคนนี้ลาออก ท่ามกลางกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างนี้ เมื่อคนอยู่ล้มลงต้องมีคนใหม่มาแทนที่แบกภาระกิจของพรรคต่อไป.-สำนักข่าวไทย