โฆษก ทร. แจงปมร้องเรียนกำลังพลยุ่งเกี่ยวยาเสพติด

กรุงเทพ 28 ต.ค.- โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นหนังสือร้องเรียน ผบ.ทร. ว่า มีกำลังพลกองทัพเรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด


พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้บัญชาการทหารเรือ กรณีมีกำลังพลของกองทัพเรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ ขบวนการค้ายาเสพติด โดย ผู้บัญชาการทหารเรือได้มอบหมายให้ผู้แทน รับมอบหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า การที่นายอัจฉริยะ ออกมาร้องทุกข์กล่าวโทษข้าราชการกองทัพเรือ โดยกล่าวหาว่าร่วมกันปล้นยาเสพติดของกลางที่ฝ่ายปกครองยึดไว้ ทำหลักฐานบันทึกจับกุมอันเป็นเท็จ และปล่อยให้ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดหลบหนีนั้น กองทัพเรือขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้


จากผลสรุปของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้สอบบุคคลผู้เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 เวลา 02.30 น. ที่บ้านปากมาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย (นรข.เขตหนองคาย) ได้รับรายงานจากสายข่าวว่า ในช่วงนี้จะมีการลำเลียงยาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามแม่น้ำโขง ผ่านเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จึงวางแผนและวางกำลังในพื้นที่ จนเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 10 มกราคม 2564 จนท.นรข.ได้ตรวจพบเรือ 2 ลำแล่นมาจากฝั่งลาว เข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุ และลำเลียงกล่องพัสดุขึ้นฝั่ง จนท.นรข. พบเห็นการกระทำดังกล่าว จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์เพื่อรอจับกุมพร้อมผู้ที่จะมารับยาเสพติดเพื่อส่งต่อภายในประเทศ แต่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน ได้แสดงตนเพื่อทำการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้ลักลอบขนยาเสพติด หนีกลับทางฝั่งลาว เจ้าหน้าที่ นรข. จึงเข้าแสดงตนกับชุด ชรบ. และเข้าควบคุมของกลาง พร้อมกับรายงานให้หัวหน้าสถานีเรือศรีเชียงใหม่ (หน.สน.เรือศรีเชียงใหม่) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชารับทราบและเดินทางมายังที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้น ได้มีรถกระบะ ซึ่งมี นายกิตติศักดิ์ แจ่มใส เป็นคนขับและ นายออมทรัพย์ หรือ เบียร์ เอี่ยมแพ่ง โดยสารมาด้วย เมื่อเห็นว่ามี จนท.นรข. อยู่ในพื้นที่ นายออมทรัพย์ ได้วิ่งหนีไป ส่วนนายกิตติศักดิ์ ได้พยายามหลบหนี แต่ จนท.นรข.สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เมื่อ หน.สน.เรือศรีเชียงใหม่ เดินทางมาถึง ได้มีการเจรจากับ ชุด ชรบ. จากนั้น หน.สน.เรือศรีเชียงใหม่ ได้ให้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยพร้อมของกลาง เพื่อนำกลับมายัง สน.เรือศรีเชียงใหม่ แต่มีความพยายามขัดขวางจากชุด ชรบ. ภายหลังจึงได้ให้ชุด ชรบ. 2 นาย นั่งกระบะหลัง เพื่อร่วมเดินทางมา สน.เรือศรีเชียงใหม่ ด้วย เมื่อมาถึง สน.เรือศรีเชียงใหม่ หน.สน.เรือศรีเชียงใหม่ ได้สั่งให้มีการถ่ายรูปยาเสพติดและทำบันทึกการจับกุม โดยให้ ชุด ชรบ.ลงลายมือชื่อเป็น เจ้าหน้าที่ผู้ร่วมจับกุมด้วย แต่ถูกปฏิเสธจาก ชุด ชรบ. คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงลงความเห็นว่า การปฏิบัติของ จนท.นรข. เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตตามอำนาจและหน้าที่ แต่เหตุการณ์ดังกล่าว มีความขัดแย้งและเกิดความไม่เข้าใจ ระหว่าง นรข.กับ ชรบ. เนื่องจากขาดการชี้แจงหรืออธิบายของผู้มีอำนาจหน้าที่ในขณะนั้น และการกระทำไม่เป็นไปด้วยความประนีประนอม ซึ่งกองทัพเรือก็ได้มีการลงทัณฑ์ หน.สน.เรือศรีเชียงใหม่ พร้อมทั้งสั่งย้ายออกจากพื้นที่ตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว ทั้งนี้จากผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดของ นรข. ดังกล่าว ได้นำไปสู่คำพิพากษาของศาลจังหวัดหนองคายตัดสินจำคุกนายกิตติศักดิ์ ในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ในระหว่างการสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการฯ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเข้าร่วมฟังการสอบข้อเท็จจริงของ จ่าเอกอนุชิต มะลิหอม หรือจ่ากุ้ง เนื่องจาก มีชื่อของ จ่าเอกอนุชิต ปรากฏในโทรศัพท์ ของนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จึงได้เรียกตัว จ่าเอกอนุชิต ซึ่งขณะนั้นสังกัด กองข่าว กองเรือยุทธการ เข้ามาให้ข้อเท็จจริงที่ กองบังคับการ นรข.เขตหนองคาย โดยในระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง จ่าเอกอนุชิต ได้ยินยอมที่จะให้ความจริงทุกประการ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้ขอให้ จ่าเอก อนุชิต เข้ามาให้ข้อเท็จจริง โดยนำหลักฐานที่มีพร้อมโทรศัพท์มือถือ มามอบให้คณะกรรมการสอบสวน ในระหว่างที่ จ่าเอกอนุชิต ไปนำหลักฐานมาให้นั้น คณะกรรมการ ได้สอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเข้าร่วมฟังการสอบข้อเท็จจริงว่าสามารถควบคุมตัว จ่าเอก อนุชิตได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเข้าร่วมฟังการสอบข้อเท็จจริงแจ้งว่าไม่สามารถควบคุมตัวได้ เนื่องจากไม่มีอำนาจตามกฎหมาย เพราะว่าไม่มีหมายจับ จ่าเอกอนุชิต ในขณะนี้ ระหว่างนั้น จ่าเอกอนุชิต ได้ใช้กลอุบายหลอกลวงว่าจะไปนำหลักฐานซึ่งได้เก็บไว้ที่โรงแรมที่พักมาให้ แล้วจึงขับรถหนีไป คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงประสานกับ เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.ท่าบ่อ เพื่อขอให้สกัดจับ แต่ในที่สุดจ่าเอกอนุชิตสามารถหลบหนีไปได้ จากนั้นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้ประสานกับเจ้าพนักงานตำรวจขอให้ศาลออกหมายจับ เนื่องจากเชื่อว่า จ่าเอกอนุชิต มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้ และศาลจังหวัดหนองคายได้อนุมัติออกหมายจับ จ่าเอกอนุชิตแล้ว โดยกองทัพเรือได้ดำเนินการปลดออกจากราชการเรียบร้อยแล้ว และในส่วนคดีของ หน.สน.เรือศรีเชียงใหม่ เรื่องการทำหลักฐานจับกุมอันเป็นเท็จตามที่ถูกกล่าวหานั้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าพนักงาน ป.ป.ท. และ ป.ป.ช.

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เจตนารมณ์ของ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มีนโยบายที่จะให้กำลังพล มีระเบียบวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม พร้อมทั้งมีนโยบายอย่างเคร่งครัดที่จะไม่ให้กำลังพลยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากพบว่ามีกำลังพลรายใดฝ่าฝืน กองทัพเรือจะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง พร้อมทั้ง ขอให้เชื่อมั่นว่ากองทัพเรือจะไม่มีการปกป้องคนผิดไม่ว่าจะเป็นในระดับใดก็ตาม .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]