กรุงเทพฯ 28 ต.ค.-“นิพนธ์” แย้มรัฐบาลทาบทาม “ไตรรงค์” นั่งที่ปรึกษา ยอมรับเสียดาย ส่วนเจ้าตัวขึ้นเหนือ ปิดโทรศัพท์ ทบทวนก่อนตัดสินใจร่วมงานใครดี หลังถูกหลายพรรคจีบ
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองหัวหน้าพรรคและอดีตส.ส.หลายสมัยลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ต้องเคารพการตัดสินใจ เพราะก่อนหน้านี้นายไตรรงค์เคยบอกตนว่าจะไม่ลาออก แต่เมื่อตัดสินใจเช่นนี้ก็ต้องเคารพกัน แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งใด ๆกับพรรค เพียงแต่นายไตรรงค์เคยบอกว่ามีผู้ใหญ่ในรัฐบาลทาบทามให้ไปเป็นที่ปรึกษา จึงเกรงใจว่ายังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนั้นจึงรับตำแหน่งได้อย่างไม่เป็นทางการ จึงคิดว่าอาจจะทำได้ไม่เต็มที่
ส่วนกรณีที่นายไตรรงค์ระบุในเฟซบุ๊กเสมือนน้อยใจ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ไม่มีอะไร โดยเฉพาะกับตน ยังมีความใกล้ชิด และเมื่อวาน(27 ต.ค.) นายไตรรงค์ยังมาร่วมงานศพมารดาของตนที่จ.สงขลา ก็คุยกันตลอด
เมื่อถามย้ำว่าเสียดายหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีคนออกก็เสียดายทุกคน แต่ต้องเคารพการตัดสินใจทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้นายจุรินทร์เคยไปคุยกับนายไตรรงค์ที่บ้านมาแล้ว แต่เมื่อตัดสินใจเช่นนี้ก็ต้องเคารพและเข้าใจว่าที่เขียนในเฟซบุ๊กก็คงคิดว่าอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์บางเรื่องที่อาจจะต่างกัน เช่น เรื่องทหาร ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยอยู่กับทหาร
“แต่วันนี้ทหารไม่เหมือนในอดีต ซึ่งถือเป็นความเห็นที่ต่างกันได้ เพราะพรรคเคยมีอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการ และอุดมการณ์หลายข้อของพรรคก็ต้องยอมรับว่าอาจไม่ทันกับกาลเวลาที่เปลี่ยนไป และคงต้องมาดูว่าถึงเวลาต้องทบทวนหรือไม่ เพราะไม่มีอะไรที่จะเห็นพ้องกัน100 เปอร์เซนต์” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงไม่ยื้อ นายนิพนธ์ กล่าวว่า นายไตรรงค์เป็นผู้ใหญ่ ต้องเคารพการตัดสินใจ แต่ทุกครั้งที่เสียคนออกไป เราก็เสียดาย
“ผมอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ครั้งหนึ่งพี่วีระ (มุสิกะพงศ์ )เดินออกไป เราก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะผมเป็นเด็กที่อยู่กับท่านมาก่อน พี่ประดิษฐ์ (ภัทรประสิทธิ์) ก็ออก หลังสุดพี่สุเทพ (เทือกสุบรรณ) ก็ออก แต่ละคนที่ไป ล้วนเป็นเลขาธิการพรรคทั้งนั้น แต่ละครั้งที่แต่ละท่านออกไปผมก็เสียใจและเสียดาย แต่เมื่อท่านตัดสินใจทางการเมืองแล้วเราก็ต้องเคารพ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ส่วนจะมีผลกระทบกับพรรคหรือไม่ เพราะเหลือเวลาไม่นานจะเลือกตั้ง นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว หากไปพะวักพะวงก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ต้องเดินหน้าและพรรคต้องอยู่ได้ ที่ผ่านมาเปลี่ยนหัวหน้าพรรคไป 8 คนแล้วก็ยังอยู่ได้ คนที่อยู่ต้องขับเคลื่อนพรรคต่อไป เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ขับเคลื่อน
“ผมไม่กังวลว่าจะมีเลือดไหลออก แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และนำบทเรียนในอดีตมาทบทวน เพราะเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ส่วนใครที่เห็นต่างก็ต้องเคารพ จะไปบังคับให้คิดเห็นเหมือนกันก็คงไม่ได้ แต่เชื่อว่าวันหนึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมา” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศพร้อมร่วมรัฐบาลกับทุกพรรคแต่ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายนิพนธ์กล่าวว่า เรื่องทางการเมืองต้องคุยกัน เรื่องใหญ่ พรรคเพื่อไทยต้องตอบคำถามมากว่านั้นว่าใครเป็นแกนนำ ใครเป็นพรรคร่วม ซึ่งทางการเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับคนรวบรวมเสียงข้างมาก เพราะครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
“เงื่อนไขทางการเมืองจะมาบอกตอนนี้ไม่ได้ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องดูสถานการณ์ ณ เวทีที่พูดคุยกันว่าสถานการณ์การเมืองเป็นอย่างไร ต้องรู้ก่อนว่ามีกำลังคนอยู่เท่าไหร่ หากพูดตอนนี้ก็เหมือนไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่ผูกมัดอะไรกับใครล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับฮั้ว ไม่แข่งกันเป็นบางเขต เหมือนกับหลอกลวงชาวบ้าน” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากที่นายไตรรงค์ได้มอบหมายให้เลขานุการไปยื่นหนังสือลาออกที่พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมโพสต์ความรู้สึกส่วนตัวผ่านเฟซบุ๊ก โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ล่าสุดแหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่า นายไตรรงค์ได้ปิดโทรศัพท์และเดินทางไปพักผ่อนที่ภาคเหนือ เพื่อใช้เวลาตัดสินใจระยะหนึ่ง เนื่องจากมีหลายพรรคการเมืองทาบทามให้ไปร่วมงานทางการเมืองด้วย โดยเฉพาะอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ย้ายไปยังกัดพรรคอื่น.-สำนักข่าวไทย