โรงแรมรามาการ์เดนส์ 25 ต.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ย้ำตลอด 5 ปีสทนช.มีบทบาทสำคัญในการบูรณาการน้ำทั้งระบบ เร่งระบายน้ำท่วมขังขณะนี้ เผย ครม.อนุมัติงบฯ –แผนช่วยปชช. ย้ำช่วยทุกครอบครัว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดเสวนาวิชาการ “5 ปีที่ผ่าน ก้าวย่างสู่ปีที่ 6 ของ สทนช.” กับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้ำ เข้าร่วมงานเสวนา โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับทรัพยากรน้ำและกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ จึงจัดตั้งสทนช.ขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 เพื่อเป็นองค์กรกลางด้านน้ำ มีภารกิจครอบคลุมการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบและขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ภายใต้พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และแผนแม่บททรัพยากรน้ำ 20 ปี ด้วยเทคโนโลยีสาระสนเทศที่ทันสมัย ยกระดับองค์ความรู้ผ่านทางความร่วมมือระหว่างประเทศ
“5 ปีที่ผ่านมา สทนช.ขับเคลื่อนบูรณาการการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ โดยมีความก้าวหน้าอย่างมาก และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ อย่างไรก็ตาม จากความไม่แน่นอนของสภาพอากาศและความคาดหวังของทุกภาคส่วน จึงทำให้การบริหารจัดการน้ำถือเป็นความท้าทายอย่างมาก ดังนั้น สนทช.ต้องเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบายด้านน้ำ ขับเคลื่อนแผนงานโครงการและบูรณาการการทำงานอย่างมีเอกภาพ ให้เกิดความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำ เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เนื่องจากน้ำเป็นปัจจัยเริ่มต้นในการขับเคลื่อนทุกภาคการผลิต การจัดงานเสวนาก้าวสู่ปีที่ 6 ของสนทช. วันนี้ มุ่งหวังให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และมีความยิ่งใหญ่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการระบายน้ำให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วพร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ รวมทั้งดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน เพื่อเตรียมการเข้าสู่ฤดูฝนของพื้นที่ภาคใต้ด้วย และแม้ว่าปีนี้จะมีปริมาณน้ำต้นทุนมากในทุกพื้นที่และมีโอกาสเสี่ยงขาดแคลนน้ำน้อย แต่ก็ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ตามที่กนช.ได้ให้ความเห็นชอบอย่างเคร่งครัด
“ขอบคุณสทนช.และทุกหน่วยงานที่ได้ปฏิบัติงานด้วยดีมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา สทนช.ต้องเป็นหน่วยงานหลักในการนำนโยบายด้านน้ำ และผลจากการเสวนาในครั้งนี้ ไปสู่การปรับปรุงแผนและขับเคลื่อน โดยบูรณาการการทำงานจากทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคประชาชน ให้มีเอกภาพเพื่อยกระดับความมั่นคงด้านน้ำของประเทศ และสามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน พร้อมทั้งให้สร้างการรับรู้ ความเข้าใจควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดความร่วมมือของประชาชนด้วยดี ประชาชน 405,000 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขณะนี้ รัฐบาลเป็นห่วงและจะช่วยทุกครัวเรือน ปีนี้ฝนตกมีน้ำมากเท่าปี 54 และยังมีน้ำท่วมขัง วันนี้ที่ประชุมครม.อนุมัติแผนและเงินเยียวยาแล้ว ” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า สนทช. เน้นเรื่องการมีส่วนร่วมเป็นสำคัญ เช่น การปรับปรุงแผนแม่บทน้ำการขับเคลื่อนโครงการสำคัญระดับประเทศโดยผลักดันสู่ กนช.ถึง 44 โครงการ การกำหนดมาตรการรองรับฤดูฝน ฤดูแล้ง การจัดทำกฎหมายลำดับรอง การจัดตั้งคณะกรรมการลุ่มน้ำการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ การจัดทำผังน้ำเสร็จไป 8 ลุ่มน้ำ รวมถึงเป็นการป้องกันเชิงรุก ซึ่งการขับเคลื่อนมาตรการฤดูแล้ง ปี 64/65 ส่งผลให้การเพาะปลูกเกินแผนเพียง 1.69 ล้านไร่ เมื่อเทียบกับฤดูแล้งปี 63/64 ที่มีการเพาะปลูกเกินแผนมากกว่า 4.3 ล้านไร่ มูลค่าความเสียหายน้อยลง รวมถึงการป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปี 64/65 ไม่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง นอกจากนี้เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนปี 2565 ได้มีการกำหนดศึกษามาตรการรองรับฤดูฝนและได้มีการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าเพื่อการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่วิกฤติ.-สำนักข่าวไทย