นายกฯ ห่วงน้ำท่วมสิงห์บุรี วอนอย่าโทษกันไปมา

สิงห์บุรี 24 ส.ค. – นายกฯ บอกดีใจลงพื้นที่สิงห์บุรีอีกครั้ง อยากลงมาดูด้วยตาตัวเอง เพราะเป็นห่วง ชี้ลดระบายน้ำเหนือลงเจ้าพระยา เร่งปล่อยสู่ทะเลลดผลกระทบ ปชช. วอนไม่ใช่เวลาจะมาโทษกันไปกันมา ยันให้ความสำคัญการบริหาร-การเมือง ต้องทำคู่กัน อย่าโจมตียิ่งสร้างความไม่เข้าใจ


เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 24 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทิ้งจังหวัดสิงห์บุรี ถึงภาพรวมการลงพื้นที่ว่า เป็นห่วง และต้องการลงพื้นที่มาเพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ให้เห็นด้วยตาจริงๆ เพราะทุกวันนายกฯ ได้ติดตามผ่านทางเจ้าหน้าที่รายงานมาอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเกิดพายุโนรูและร่องความกดอากาศ ทำให้ฝนตกเพิ่มมากขึ้น ฝนตกตลอด รวมถึงน้ำที่สะสมในพื้นที่ และส่วนหนึ่งน้ำต้องระบายมาจากทางเหนือไหลผ่านแม่น้ำแต่ละสาย ลงมาสู่แม่น้ำสายล่าง ซึ่งเมื่อระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักล้น บวกกับน้ำในพื้นที่ที่มีอยู่แล้ว ฉะนั้นมันก็จะต้องเอาออกมาอย่างนี้ เราต้องมาดูว่าจะพยายามลดตรงนี้ให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ดังนั้นวันนี้เราจะต้องทำอย่างไรให้การระบายน้ำลดลง เพราะช่วงหลายวันที่ผ่านมาฝนตกน้อยลง ปริมาณน้ำที่ขังท่วมลดลง แต่อย่างไรก็ตามตลอดเส้นทางตั้งแต่เหนือมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยา จนถึงกรุงเทพฯ ต้องแก้ปัญหาให้ปั๊มน้ำออกไปลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้มากขึ้น เพราะเดิมแม่น้ำเจ้าพระยาสูง วันนี้ปรับลดการระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลง เราจะต้องมองภาพใหญ่ว่าภาพใหญ่ คืออะไร มันเหมือนเส้นเลือดในตัวมนุษย์จากหัวไปถึงเท้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าน้ำข้างบนไม่เติม น้ำในพื้นที่ไม่มี ระบบระบายน้ำทำงานได้และน้ำไม่ท่วมอย่างทุกปีที่ผ่านมา ปี้นี้เราเจอทั้งพายุเจอทั้งร่องความกดอากาศ มันเติมเข้ามาระบายออกก็ไม่ได้ เว้นแต่มันล้น เราจะทำอย่างไรให้ตอนนี้เดือดร้อนน้อยที่สุด และวันนี้ก็ทราบว่ามีการปรับลดการระบายน้ำจากเหนือลดลงมาเป็นระยะแล้ว


“ผมคิดว่าวันนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาโทษใครกันไปกันมา ผมให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่เขาทำงานเป็นเดือนแล้ว เรื่องน้ำท่วม ย้ำว่าพื้นที่ไม่ใช่พื้นที่ราบเรียบทั้งหมด พื้นที่บางพื้นที่เป็นพื้นที่ต่ำ อยากให้ทุกคนมองภาพเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทั้งหมดช่วยกันทำงานเต็มที่ วันนี้ผมอยากทำความเข้าใจว่า สาเหตุน้ำท่วม คือ น้ำมันมาก และร่องมรสุมมากกว่า 7 ร่อง บวกกับพายุโนรู ฉะนั้นน้ำสะสมเต็มไปหมด เราจึงต้องพยายามดึงน้ำที่ล้น กลับไปลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้ได้ และแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะต้องดูว่าการระบายน้ำลงสู่ทะเลจะทำอย่างไร ไม่ให้ได้รับผลกระทบ ดังนั้นวันนี้ไม่ใช่ให้คนนี้รับไป เพราะคนนั้นเดือดร้อนมาก ไม่ใช่ เราต้องบริหารอย่างสมดุล เพราะแน่นอนคนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเดือดร้อนมากที่สุด และวันนี้การระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาดีขึ้น น้ำเหนือไม่ลงมาเติมมากนักทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงมาตรการการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาล วันนี้อยู่ในเงินทดลองจ่ายและงบประมาณที่รองรับไว้แล้ว วันนี้ตนบอกว่าอะไรที่ดำเนินการได้ก็เร่งดำเนินการ ในส่วนที่เหลือถ้ามีความจำเป็นจะต้องเพิ่ม รัฐบาลจะดูแลเตรียมงบประมาณตรงนี้ไว้ให้ แต่ต้องเร่งสำรวจ “วันนี้ดีใจเห็นชาวสิงห์บุรี ผมชื่นใจ ถึงแม้ว่าเขาจะมีน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ เขาก็ยังให้กำลังใจผม ซึ่งผมก็ให้กำลังใจเขาเป็นร้อยเท่า พันทวี ผมคิดอย่างนี้ ถ้าเราทำงาน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน มันแก้ได้ปัญหา ผมรู้น้ำท่วมมันทรมาน ไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ เดือดร้อน สร้างความเสียหาย แต่เดี๋ยวเราจะช่วยด้วยกันเยียวยา ผมย้ำไปแล้วอาทิตย์หน้าเรื่องทั้งหมดจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) อะไรที่อยู่ในระเบียบ กติกาและกฎหมาย จะเร่งดำเนินการให้ก่อน และอันไหนที่จะต้องเพิ่มเติมก็จะพิจารณาจากงบประมาณกลางเพิ่มเติมให้ วันนี้ดีใจที่ได้มาเยี่ยมชาวสิงห์บุรีอีกครั้งหนึ่ง และเห็นถึงความลำบากแต่วันนี้ทุกคนก็ยังสู้ เราต้องสู้”

นายกฯ กล่าวย้ำว่าเข้าใจหรือยังนายกฯ ไม่ได้อารมณ์เสีย เพียงแต่ว่ามาดูเพื่อที่รัฐบาลจะทำตรงไหนได้บ้าง หน้าที่มันคนละหน้าที่กัน แต่นายกฯก็ต้องบริหารให้ได้ผ่านกลไกที่มีอยู่แล้ว หลายหลายอย่างวันนี้รัฐบาลก็มีปัญหาในเรื่อง เศรษฐกิจสงครามต่างประเทศและภูมิภาคพันกันไปหมดและเราเพิ่งจะหลุดผลจากโควิด-19 มาการท่องเที่ยวจะกลับมา ถ้าเรารักสามัคคีและเข้าใจกันทุกอย่างมันต้องดีขึ้น เราต้องเชื่อมั่นตรงนี้ นายกฯให้ความสำคัญกับการบริหารเรื่องการเมือง เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะมันต้องไปด้วยกันให้ได้ มันเน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้ และสิ่งที่พูดออกมา มันต้องทำได้จริงนั่นคือหน้าที่ของนายกฯ


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ที่มาวันนี้อยากให้จับมือไปด้วยกัน และเป็นห่วงเป็นใย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่มีความเดือดร้อน เอาปัญหาประชาชนมาพูดก่อนว่าจะช่วยแก้อย่างไร ถ้าโจมตีกันไปกันมามันก็ยิ่งสร้างความไม่เข้าใจ ขณะเดียวกันการทำงานก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะระบบมันมีอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนบอกว่าทุกอย่างครั้งนี้เป็นบทเรียนทางด้านชลประทาน และการแก้ปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมต้องมาทบทวนแผนที่มีอยู่ตั้งแต่เราพูดย้อนไปตั้งแต่ปี 2561 และปี 2564 งบประมาณมหาศาลลงมา ก็ยังไม่เพียงพอและในปี 2565 ก็มีการตั้งงบประมาณไว้แล้วและปี 2566 และ ปี 2567 ก็เตรียมโครงการไว้แล้ว เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ทั้งเรื่องประตูน้ำเรื่องทำนบกั้น และวันนี้ก็ได้สั่งการให้รีบระบายน้ำและทำนบกั้นเพียงพอหรือไม่ มันขาดอีกเท่าไหร่ นายกฯ ลงพื้นที่มาเพื่ออย่างนี้ ถ้านายกฯ ไม่ได้ลงพื้นที่ ก็ไม่เห็นภาพความเป็นจริง มาอย่างนี้เราสั่งการเร่งรัดได้ว่ามันควรจะทำอย่างไร ตรงนั้นตรงนี้ แต่ประเด็นสำคัญการจะทำโครงการอะไรก็แล้วแต่ประชาชนต้องเห็นชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญหากตั้งโครงการมาแล้วประชาชนไม่เห็นชอบ ก็ทำไม่ได้ นั่นคือความยากง่ายในการบริหารงานของเรา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

รองเลขาธิการนายกฯ แจ้งความดำเนินคดี “ฮุนเซน”

กทม. 20 มิ.ย.-“สมคิด” รองเลขาธิการนายกฯ เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดี “ฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้แก้เกี้ยวให้ “แพทองธาร” ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ความยาว 17.6 วินาที ที่หลุดออกมาจากฝั่งเขา จนสร้างความแตกแยก จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ และไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยืนยันไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากทำลายความมั่นคง ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นแหล่งที่มาของต้นโพสต์ หารือกับอัยการสูงสุดและประสานสถานทูตประเทศนั้น เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

นายกฯ​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 20 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรี​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่น​แม้รัฐบาลหวังหลีกเลี่ยงการปะทะ​ แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย ทุกภาคส่วนต้องพร้อม ย้ำผู้บริหารมหาดไทย​ แม้มีการเปลี่ยนแปลง​ แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเข้มแข็งไม่มีการเปลี่ยน บอก สัญญารัฐบาลไม่ทิ้งกระทรวงใด​ ขณะที่ช่วงบ่ายเตรียมบินไป จ.อุบลราชธานี พบแม่ทัพภาคที่ 2 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย​ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี สระแก้ว โดยมี นางสาวธีรรัตน์​ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมการประชุม โดยนายกรัฐมนตรี​ […]