ครม.เคาะหลักการคัดกรองต่างด้าวเข้าไทย


ทำเนียบฯ 5 ต.ค.- ครม.เห็นชอบในหลักการเกณฑ์พิจารณาคัดกรองคนต่างด้าวเข้ามาในไทยและไม่สามารถกลับภูมิลำเนาได้ ให้สถานะเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองผู้ได้รับการคุ้มครอง เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการพิจารณาคัดกรองคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการพิจารณาคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศไทยและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ เพื่อให้สถานะเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง ทั้งนี้ ได้กำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการพิจารณาคำร้องขอรับสิทธิเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง โดยคุณสมบัติของผู้ยื่นคำร้อง จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือเป็นผู้ที่เข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรและไม่สามารถหรือไม่สมัครใจที่จะเดินทางกลับไปยังรัฐแห่งสัญชาติของตน หรือกรณีเป็นบุคคลไร้สัญชาติ ไม่สามารถหรือไม่สมัครใจที่จะเดินทางกลับไปยังรัฐที่เดิมตนมีถิ่นพำนักประจำ เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจะได้รับอันตรายจากการถูกประหัตประหาร และต้องไม่เป็นคนต่างด้าวหรือบุคคลในกลุ่มใดที่กระทรวงมหาดไทยมีกลไกหรือกระบวนการดำเนินการรองรับเป็นการเฉพาะ รวมทั้งไม่เป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่มีกลไกหรือกระบวนการดำเนินการรองรับเป็นการเฉพาะ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้ได้รับการคุ้มครอง จะต้องมีมูลที่เชื่อได้ว่าจะได้รับอันตรายจากการประหัตประหาร การคุกคามชีวิตหรือเสรีภาพ การทรมาน การกระทำให้สูญหาย หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรูปแบบอื่นอย่างร้ายแรง และไม่สามารถหรือไม่สมัครใจที่จะได้รับการคุ้มครองจากหรือเดินทางกลับไปยังรัฐแห่งสัญชาติ ไม่เป็นผู้ที่ถูกพิจารณาว่าไม่จำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศ หรือกรณีที่เป็นบุคคลไร้สัญชาติ ไม่สามารถหรือไม่สมัครใจที่จะเดินทางกลับไปยังรัฐที่เดิมมีถิ่นพำนักประจำ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยในหลักการ ขณะเดียวกัน ผู้ยื่นคำขอต้องได้รับการตรวสอบ ดังนี้ คือ ประวัติอาชญากรรม พฤติการณ์บุคคลและทางการเมือง พฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ และหมายจับจากกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ยื่นคำขอต้องมีใบรับรองแพทย์ เพื่อแสดงว่าไม่มีโรคอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎกระทรวงกำหนดโรคต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว.-สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง