กรุงเทพฯ 30 ก.ย.-“เจษฎ์” ชี้แม้ “พล.อ.ประยุทธ์” ได้ไปต่อ แต่พรรคการเมืองที่จะหนุนสมัยหน้าคงคิดหนัก มั่นใจถ้าส.ส.รวมเสียงได้ ส.ว.พร้อมหนุนโหวตนายกฯ
นายเจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังไม่สิ้นสุดลงว่า เป็นไปตามที่คาดการกันไว้ ซึ่งเป็นความเห็นที่ต่างจากที่ตนมองว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์น่าจะนับตั้งแต่ปี 2557 แต่เมื่อมีคำวินิจฉัยเช่นนี้ก็ผูกพันทุกองค์กร และเชื่อว่าสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง อาจจะเคลื่อนไหวบ้างประปราย อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการวินิจฉัยเช่นนี้อาจทำให้ฝ่ายที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต้องคิดหนัก โดยเฉพาะในการเลือกตั้งสมัยหน้า เพราะการจะหาเสียงชูพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป
“ชื่อว่าพวกที่สนับสนุนไม่ถึงขั้นเบรค แต่ต้องคิดหนัก เพราะพล.อ.ประยุทธ์ไปต่อได้แค่ครึ่งเทอม แล้วถ้าเสนอแคนดิเดตนายกฯ 2 คนจะเป็นอย่างไร จึงคิดว่าไม่ง่าย อาจจะไม่หยุดชู แต่คิดหนักจะไปต่อแบบนิ่ม ๆ ก็คงยาก เพราะส.ส.ไม่ได้หวังมาเพื่อรองรับใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น” นายเจษฎ์ กล่าว
สำหรับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะทำให้พรรคเพื่อไทยหมดคู่แข่งแล้วเกิดแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ อดีตที่ปรึกษากรธ.กล่าวว่า จากการเข้ามาทำงานของพล.อ.ประยุทธ์และสถานการณ์การเมืองในช่วงที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยคลายใจไปมากและไม่ได้มองว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นคู่แข่งที่สำคัญ แต่อาจจะหนักใจกับการเมืองโดยรวม ที่หากพรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกัน จะทำให้พรรคเพื่อไทยซึ่งจับมือกับพรรคก้าวไกลต้องรวมเสียงให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
ส่วนส.ว.ที่ยังมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีจะมีผล ต่อการเมืองหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งสมัยหน้าจะมีผลที่ทำให้เห็นความแตกต่างจากเดิม ว่าหาก 3 ป.คือพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังเดินไปในทิศทางเดียวกัน เสียงโหวตนายกรัฐมนตรีก็น่าจะเป็นไปในทางเดียวกัน แต่หากเดินไปคนละทาง ก็ต้องดูว่าส.ว.ยังเหนียวแน่นหรือไม่
“เท่าที่ฟังเสียงจากส.ว.ก็บอกกันว่าจะไม่หักเสียงของสภาผู้แทนราษฎร หากรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งแล้วเสนอชื่อใครก็พร้อมสนับสนุน แต่ถ้าหากไม่ลงมติตามสภาผู้แทนราษฎรเชื่อว่าสถานการณ์บ้านเมืองน่าจะวุ่นวาย น่าจะเกิดปรากฏการณ์คนเดินบนถนนประท้วง และเชื่อว่าน่าจะยืดเยื้อด้วย แต่ถ้ารวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งและส.ว.สนับสนุนสถานการณ์การเมืองก็น่าจะเดินหน้าไปได้” นายเจษฎ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย