ปภ.27 ก.ย.-ปภ.แจ้ง 7 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ – เตรียมรับมือระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค.65
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำท่าและปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ประกอบกับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประกาศ ฉบับที่ 42/2565 ลงวันที่ 26 กันยายน 2565 แจ้งว่าติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำโขง คาดว่าพายุไต้ฝุ่น “โนรู” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 28 ก.ย.นี้
อธิบดีปภ. กล่าวว่า พายุโนรูจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและดีเปรสชันตามลำดับ โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของไทยวันที่ 29 ก.ย.นี้ ทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและลุ่มน้ำโขง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ดังนี้ 1. สถานีนครพนม จังหวัดนครพนม ปัจจุบันระดับน้ำ +137.85 เมตร จากระดับทะเลปานกลางต่ำกว่าตลิ่ง 5.11 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2565 ประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง
นายบุญธรรม กล่าวว่า 2. สถานีมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ปัจจุบันระดับน้ำ +130.76 เมตร จากระดับทะเลปานกลางต่ำกว่าตลิ่ง 5.96 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2565 ประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3. สถานีโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันระดับน้ำ +98.78 เมตร จากระดับทะเลปานกลางต่ำกว่าตลิ่ง 4.75 เมตร คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ประมาณ 2.00 – 2.50 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง
“กอปภ.ก.ประสาน 7 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบราชธานี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและ สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วง 24 ชั่วโมง และจุดเสี่ยงน้ำท่วมขัง” อธิบดีปภ. กล่าว
นายบุญธรรม กล่าวว่า กอปภ.ก.จะตรวจสอบและซ่อมแซมคันกั้นน้ำริมแม่น้ำให้มั่นคงแข็งแรง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำ บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ เร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ เพื่อรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ต้นน้ำ แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย
