รัฐสภา 15 ก.ย.- มท.1 มั่นใจ ยังรับมือสถานการณ์น้ำจากพายุได้ ยืนยันน้ำท่วมใน กทม.ฝั่งตะวันออก เพราะปริมาณฝนมากกว่าปกติ ร้อยละ 50
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ถามของ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ทั้งในเขตมีนบุรี ลาดกระบัง คลองสามวา และพื้นที่อื่น ๆ โดยยอมรับว่า มีปริมาณฝนจำนวนมาก อิทธิพลจากร่องมรสุม และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่ทำให้ฝนตกใต้เขื่อน จึงเกิดปัญหาการระบายน้ำ โดยรัฐบาลบริหารจัดการลุ่มน้ำ และน้ำท่าต่างๆ เพื่อพร่องน้ำในเขื่อนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลงสู่อ่าวไทย ป้องกันร่องมรสุมเพิ่มเติม ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพราะรัฐบาลคาดการณ์แล้วว่า น่าจะมีพายุหมุนเขตร้อน ที่อาจจะเกิดอีก 1 ลูกในช่วงปลายเดือนนี้ ถึงต้นเดือนหน้า เพื่อไม่ให้กระทบต่อกรุงเทพฯ และพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยมั่นใจว่า ไทยยังสามารถรับมือพายุหมุนเขตร้อนได้ 1-2 ลูก และลุ่มน้ำเจ้าพระยาก็ยังสามารถรับมือได้
พลเอกอนุพงษ์ ยังกล่าวถึ งการบริหารน้ำในลุ่มน้ำชี ว่า ยังมีการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแม่น้ำมูล ซึ่งใน 2 ลุ่มน้ำนี้ หากยังมีพายุหมุนเขตร้อน หรือร่องมรสุมลงมาเพิ่มเติม ก็อาจจะกระทบต่อพื้นที่ได้ หรือในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ภาคกลางต้นบน ภาคเหนือตอนล่าง และอีสานตอนบน หากยังมีร่องมรสุม ก็อาจจะกระทบพื้นที่ได้เช่นเดียวกัน แต่ประเมินว่ายังสามารถรับมือได้ เพราะยังคงมีการระบายน้ำผ่านแม่น้ำบางปะกง และอ่าวไทย เพื่อรับมือสถานการณ์อยู่
“สถานการณ์น้ำท่วมในเขตลาดกระบัง และประเวศ รวมถึงพื้นที่ตะวันออกของกรุงเทพ ไม่ได้เกิดจากการระบายน้ำในภาพรวมของประเทศ เพื่อระบายสู่อ่าวไทย แต่เป็นปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่มากกว่าปกติ กว่า ร้อยละ 50 และเป็นการบริหารพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร แต่รัฐบาลก็พร้อมสนับสนุนบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องมือ หากมีการร้องขอจากทาง กทม. เนื่องจาก กระทรวงมหาดไทย ไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการโดยพลการได้” พลเอกอนุพงษ์ กล่าว
ส่วนจะมีการประกาศให้พื้นที่ใดในกรุงเทพฯ ให้ประชาชนได้รับการเยียวยาจากภาครัฐหรือไม่นั้น พลเอกอนุพงษ์ ชี้แจงว่า เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะตัดสินใจประกาศให้พื้นที่ใดเป็นพื้นที่ประสบภัย และเป็นเขตความช่วยเหลือบ้างหรือไม่.-สำนักข่าวไทย