ทำเนียบรัฐบาล 7 ก.ย.-ที่ประชุม คกก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเห็นชอบต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ย้ำรัฐบาลมียโยบายพัฒนาพื้นที่แบบมีส่วนร่วม คุ้มครองเสรีภาพ ความปลอดภัยประชาชนด้วยกฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่ 3/65 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยที่ประชุมรับทราบผลการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและพลเรือนสามารถปฏิบัติงานร่วมกันในการควบคุมสถานการณ์และบังคับใช้กฎหมาย
ที่ประชุมร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ยกเว้น อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.สุคิริน จว.นราธิวาส รวมทั้ง อ.ไม้แก่น อ.แม่ลาน จว.ปัตตานี และ อ.เบตง อ.กาบัง จว.ยะลา ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่ 20 กันยายน – 19 ธันวาคม 2565
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงเหตุการณ์ในพื้นที่จชต.ที่ผ่านมา โดยขอให้หน่วยงานความมั่นคงเพิ่มความเข้มข้นงานข่าวและทำงานเชิงรุกร่วมกันกับภาคประชาชนในพื้นที่ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อป้องกันและลดเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายและความตั้งใจในการพัฒนาพื้นที่ เน้นการมีส่วนร่วมควบคู่กับดูแลเสรีภาพและความปลอดภัยของประชาชน ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฝากความระลึกถึงและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่และครอบครัวที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกคน โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน อดกลั้น ระมัดระวังและไม่ประมาท เพื่อนำความสงบและสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ให้ได้” พล.อ.ประวิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย
