รัฐสภา 1 ก.ย.-ทหารจากกองทัพไทย-ผู้แทนกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเข้าชี้แจงกรรมาธิการทหารปมฝากส.ต.ท.หญิงเข้าราชการ “มงคลกิตติ์” ระบุมีชื่อนายพลฝากลูกหลาน-สาวคนสนิทเข้างานวิธีพิเศษ
การประชุมคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (1 ก.ย.) มีวาระพิจารณากรณีส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม ถูกกล่าวหาว่ากระทำทารุณกรรมลูกจ้างที่เป็นอดีตทหารหญิง โดยมีพล.อ.อ.สุวรรณ ขำทอง รองเสนาธิการทหาร ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ท.สุรสรห์ดรุณสาสน์ เจ้ากรมกำลังพลทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพ.อ.สโรช พารอด ผู้อำนวยการกองการจัดการกำลังพล กรมกำลังพล กองบัญชาการกองทัพไทย พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พ.ท.วีรศรุตธ์ ประดิษฐสุวรรณ หัวหน้าแผนกนโยบายและแผน กองนโยบายและแผน สำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้ามาชี้แจง
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการทหารฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการฯจะตรวจสอบกรณีให้ ส.ต.ท.หญิงไปช่วยราชการว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ การฝากเข้ารับราชการว่า ถูกต้องหรือไม่ ส่วนที่ ส.ว.คนดังกล่าวยอมรับแล้วว่าเคยสนิทกับส.ต.ท.หญิงนั้น ก็ต้องดูว่าระหว่างที่ส.ว.คนดังกล่าวเป็น สนช.ใช้เส้นสายอะไรหรือไม่ หากใช้จะผิดจริยธรรมและกฎหมายป.ป.ช.
“แต่ระบบเส้นสายในสังคมไทยนั้น มีมานานแล้ว ซึ่งเป็นการใช้ดุลยพินิจและระบบพรรคพวก โดยมีทุกเหล่าทัพและเป็นกันมานานแล้ว เหมือนกับการฝากเด็กเข้าโรงเรียนจนกลายเป็นวัฒนธรรมไทย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องขยายผลต่อไป ผมมีชื่อนายพลหลายคนที่รู้จัก ฝากลูกหลานเข้ารับราชการด้วยวิธีพิเศษ มีทั้งลูกหลานจริงบ้าง และเพื่อนสาวคนสนิทบ้าง ซึ่งหากเปิดชื่อก็พังทั้งระบบ ดังนั้น จึงค่อย ๆ เป็นกรณีไป และวันนี้จะสอบถามผู้มาชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้าย ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการทหารฯ จะเชิญส.ว.คนดังกล่าว มาชี้แจงในสัปดาห์หน้า แต่เชื่อว่า คงไม่มาชี้แจง” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ในวงการตำรวจ ทหาร มีบัญชีเด็กฝากที่จะเข้าสู่ระเบียบตามปกติ แต่ว่าในการสอบสัมภาษณ์ก็จะรู้ว่าใครมีตั๋วใคร ดังนั้น ในอนาคตอาจจะต้องมีข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลว่าการสอบเข้าราชการ ควรจะเป็นข้อเขียนล้วน ห้ามมีคะแนนพิศวาส ส่วนกรณีดังกล่าวต้องไปดูว่ามีหลักฐานฝากกันจริงหรือไม่ พร้อมพิจารณาระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ที่จะมีความผิดคือคนที่บรรจุแต่งตั้งเข้าไป ความจริงสืบไม่ยาก มีคนผิดอยู่แล้ว เอาผิดได้ แต่ผิดมากหรือผิดน้อยต้องดูรายละเอียด เพราะส่วนใหญ่ผู้มีอำนาจไม่ทิ้งหลักฐานไว้ ส่วนจะตรวจสอบประเด็นคนสนิทของ ส.ว.หรือไม่ต้องดูอำนาจของคณะกรรมาธิการทหารก่อน.-สำนักข่าวไทย