ปชป.เปิดตัว 3 ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร ลั่นกวาดที่นั่งภาคเหนือเพิ่ม

พิจิตร 21 ส.ค. – “จุรินทร์” นำทัพประชาธิปัตย์เปิดตัว 3 ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร ลั่นกวาดที่นั่งภาคเหนือเพิ่ม “ไพฑูรย์” มั่นใจคะแนนพรรคมาที่ 1 ในพิจิตร


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำ “จุรินทร์ ออนทัวร์ พิจิตร” ไปร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีกับนายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีต ส.ส.พิจิตร อดีต รมว.แรงงาน ได้รับเกียรติเป็น “ราษฎรอาวุโส เมืองพิจิตร” และร่วมอวยพรวันเกิดครบรอบ 86 ปี พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ท่าข้าววังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ผูกพันกับพี่น้องชาวภาคเหนือมายาวนาน ปี 2489 มีผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นผู้แทนราษฎรภาคเหนือถึง 10 คน และคนสำคัญคนหนึ่ง คือ นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีต รมช.อุตสาหกรรม อดีต รมช.พาณิชย์ อดีต รมว.แรงงาน และวันนี้ได้รับตำแหน่งเป็นราษฎรอาวุโส เมืองพิจิตร พร้อมกับได้อวยพรครบรอบวันเกิด 86 ปี อาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ รวมทั้งหลวงพ่อเพชร ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เป็นกำลังสำคัญให้กับพวกเราชาวประชาธิปัตย์ ทั้งที่ จ.พิจิตร ทั่วประเทศ เป็นพลังสำคัญในการสร้างความเจริญรุ่งเรือง และเป็นผู้รับใช้พี่น้องชาวพิจิตรสืบไปชั่วกาลนาน


ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่อความมั่นใจในการเปิดตัวผู้สมัครว่า ต้องมั่นใจทั้ง 2 ด้าน ทั้งด้านตัวบุคคลที่ลงสมัคร และนโยบายที่ได้เตรียมไว้สำหรับพี่น้องชาวพิจิตร สำหรับตัวบุคคล ขณะนี้เราได้ตัวครบทั้ง 3 เขตแล้ว ประกอบด้วย พล.ท.ฉลวย แย้มโพธิ์ใช้ นายวรวุฒิ แก้วทอง และ ดร.มานพ เกตุเมฆ เที่ยวหน้าพิจิตรมี 3 เขต โดยมีนายไพฑูรย์ แก้วทอง และรองหัวหน้าพรรค ภาคเหนือ นายนราพัฒน์ แก้วทอง จะเป็นกำลังหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า จ.พิจิตร เป็นพื้นที่เป้าหมายของภาคเหนือหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องถือเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมาย เพราะประชาธิปัตย์เคยได้ยกทีมมาแล้วใน จ.พิจิตร หลายครั้งหลายสมัย และเคยมีรัฐมนตรีมาแล้วหลายท่านในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราก็หวังว่า แม้คราวที่แล้วไม่ได้รับเลือกตั้งเลย อาจจะเพราะอุบัติเหตุทางการเมืองที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด แต่เที่ยวหน้าโอกาสของเราก็มี ไม่ใช่ไม่มี

“เราถือว่า จ.พิจิตร เป็นจังหวัดเป้าหมายจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือของประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะมีกำลังหลักอย่างท่านไพฑูรย์ และนายนราพัฒน์ ก็ทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น การลงพื้นที่วันนี้ได้รับการต้อนรับดี และหลายจังหวัดก็มีลักษณะใกล้เคียงกัน แตกต่างจากช่วงต้นๆ หลังการเลือกตั้งใหม่ๆ ตอนนี้ในหลายพื้นที่ หลายภาค หลายจังหวัด เสียงตอบรับประชาธิปัตย์ดีขึ้นมาก พิจิตรก็เป็นหนึ่งในนั้น” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งเป้าจำนวน ส.ส.ในภาคเหนือไว้อย่างไรหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ขอเรียนว่าจะกี่ที่ แต่คราวที่แล้วเราลดลงมาเหลือที่เดียว แต่เที่ยวหน้ายังไงก็ต้องได้ แล้วก็ไม่น้อยหรอก จะเป็นกอบเป็นกำก็แล้วกัน สำหรับพื้นที่ภาคเหนือในหลายจังหวัดที่เราเตรียมการไว้ แล้วก็อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของเราในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วก็ยังอยู่กัน เรียกว่าครบทีม

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรทำให้มั่นใจว่าประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเพราะเสียงตอบรับจากกระแสประชาชน จากการลงพื้นที่ที่เราสัมผัสได้ ในฐานะนักการเมืองและพรรคการเมืองที่เรามีประสบการณ์ นอกจากนั้นในเรื่องของผลงานตลอด 3 ปีที่เราร่วมรัฐบาลก็พิสูจน์ชัดเจน ภาคเหนือเกษตรกรเยอะ เพราะฉะนั้น นโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์ และการแก้ปัญหาพืชผลการเกษตร ต้องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้พืชผลบางช่วงจะทะลักออกมาเยอะ ราคาจะตกลงบ้าง แต่สุดท้ายด้วยมาตรการที่เราเข้าไปดูแลเกษตรกรตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ช่วยดึงราคาให้ดีขึ้นมา พอราคาตกก็จะมีเงินส่วนต่างของประกันรายได้เข้ามาช่วย อันนี้ก็มีส่วนสำคัญ และที่ไปไกลกว่านั้นคือ เรามีนโยบายชัดเจนว่า ภาคเหนือจะไม่ได้หยุดอยู่กับที่ แล้วก็ไม่ได้วนเวียนอยู่แค่พืชผลการเกษตร การค้าขายในประเทศ แต่อนาคตของภาคเหนือ ต้องไปไกลถึงขนาดเชื่อมกับโลก และนำเงินเข้าประเทศ นำเงินเข้าภาคเหนือต่อไป ซึ่งเป็นนโยบายที่ชัดเจนที่เรากำลังทำอยู่ และจะทำต่อไป แล้วจะทำให้ได้ดีกว่านี้ด้วย

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้มีพรรคการเมืองบางพรรคมาเปิดตัวที่ จ.พิจิตร และประกาศยกจังหวัดว่า เราสู้ได้ ไม่มีปัญหาหรอก ส่วนใครจะประกาศอย่างไรก็อยู่ที่พรรคการเมืองนั้นๆ ทุกคนก็มีสิทธิประกาศ

ด้านนายไพฑูรย์ ระบุว่า ตนมั่นใจว่าพิจิตรไม่สูญพันธุ์ ครั้งที่แล้วเราเชื่อเพื่อนเรา ครั้งนี้เรามั่นใจ และอยู่ที่ประชาชน แต่เราไม่ซีเรียสถึงขนาดที่ว่าลงแล้วแพ้ไม่ได้ เราไม่พูดหรอก มันอยู่ที่ประชาชน แต่เรามั่นใจพรรคประชาธิปัตย์ เคยยกจังหวัดภาคเหนือมาแล้วหลายจังหวัด สมัยที่ตนเป็นรองหัวหน้าพรรค ภาคเหนือ ก็ได้ ส.ส. 10-20 คน ทุกครั้ง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ หาร 100 จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบขึ้นหรือไม่ นายไพฑูรย์ กล่าวว่า บัตร 2 ใบ เราได้เปรียบ ส่วนจะหาร 100 หาร 500 มันคนละเรื่อง บัตร 2 ใบจะอยู่ที่ประชาชน แต่เราขอใบที่ 2 ที่เป็นคะแนนพรรคให้กับประชาธิปัตย์ พร้อมกับมั่นใจว่า คะแนนพรรคประชาธิปัตย์ต้องมาเป็นที่ 1 ของ จ.พิจิตร อย่างแน่นอน หากไม่ได้ตนจะเลิกยุ่งกับการเมือง เหมือนเลขาธิการพรรค ตนอายุ 86 ปีแล้ว เขาตั้งให้เป็นที่ปรึกษาก็ต้องทำให้สำเร็จ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]