เคียฟ (ยูเครน) 31 มี.ค. – รัสเซียยังคงโจมตีบางพื้นที่แถบกรุงเคียฟ แม้เพิ่งประกาศลดระดับการสู้รบ ขณะที่กองทหารยูเครนเข้าไปยึดคืนและประจำการในหลายเมืองตอนเหนือของเมืองหลวง
เมืองเออร์พิน เป็นแนวปะทะที่ทัพรัสเซียถูกตรึงไว้ไม่ให้เข้าสู่กรุงเคียฟเมื่อรัสเซียถอยออกไป สภาพเมืองเมื่อทหารยูเครนได้ยึดคืนกลับมา ร่องรอยการต่อสู้กราดเกลื่อนถนน บ้านเรือนถูกทำลาย ที่อยู่อาศัยกลายเป็นแดนประหาร สุนัขเลี้ยงกลายเป็นสุนัขจรจัด ชาวเมืองเคราะห์ร้ายกลายเป็นศพอยู่ทั่วไป
เช่นเดียวกับอีกหลายพื้นตอนเหนือของกรุงเคียฟ ที่ทหารรัสเซียถอยร่นไป บ้างก็เชื่อว่าเป็นผลของการเจรจาครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ ที่รัสเซียประกาศลดการปฏิบัติการทางทหารบริเวณรอบๆ กรุงเคียฟ บ้างก็เชื่อว่า รัสเซียจำใจต้องยอมถอย เพราะเผชิญแรงต้านทานอย่างชะงัดมาแรมเดือน ขณะออกตรวจเยี่ยมทหารที่ประจำการรอบเมืองเออร์พิน โดย พลเอก โอเล็กซานเดอร์ เซียสกีผู้บัญชาการกองทัพบกของยูเครน เผยว่ากำลังพลของเขายึดคืนพื้นที่ได้มากขึ้น แต่ยังต้องการความช่วยเหลือด้านอาวุธเพื่อขับไล่ผู้รุกราน
ในพื้นที่ที่ยึดคืนมาได้ ทหารยูเครนเผยว่า ทหารรัสเซียมีความเคลื่อนไหวน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นกองทหารและขบวนรถถัง หลงเหลือเพียงซากปรักหักพังจากการสู้รบหนักหน่วงมากเมื่อรัสเซียพยายามรุกคืบเข้าสู่เมืองหลวงแต่ไม่สำเร็จ ผิดกับอีกเมืองซึ่งรัสเซียประกาศจะลดระดับการสู้รบเช่นกัน คือ เมือง เชอร์นีฟ ผู้ว่าของเมือง ตำหนิรัสเซียว่าไม่ได้ทำตามที่รับปาก ยังคงโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเมืองนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่ตลอดทั้งคืน
ตามที่กองทัพยูเครนได้ย้ำไว้ว่า ยังไม่อาจวางใจเชื่อคำของรัสเซียได้เต็มที่ นายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงว่าแม้การเจรจาสันติภาพมีสัญญาณที่ดี แต่กองทัพยูเครนจะดูที่การกระทำ โดยจะยังไม่ลดระดับการป้องกันตัวเอง ทหารทุกหน่วยรบยังคงเฝ้าระวังเต็มพิกัด
จากรายงานข่าวกรอง บรรดาชาติตะวันตกก็ยังไม่ปักใจเชื่อและเตือนว่า รัสเซียยังไม่ได้ถอนทหารออกไป เพียงแต่ปรับเปลี่ยนตำแหน่ง จึงอาจเป็นอุบายเพียงซื้อเวลาเท่านั้น
ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของยูเครน นอกเหนือจากแถบกรุงเคียฟ ยังคงมีการสู้รบเช่นเดิม จุดที่สร้างความเสียหายที่สุดในรอบวัน คือ อาคารที่ทำการของเมืองมีโคลาอิฟ ทางใต้ของยูเครน ที่ถูกยิงด้วยขีปนาวุธ จนเกิดช่องโหว่ มีผู้เสียชีวิต 12 คน และบาดเจ็บเกือบ 30 คน ทั้งหมดเป็นพลเรือน เมืองมิโคลาอิฟเป็นเมืองที่เสี่ยหายหนักสุดเมืองหนึ่ง จากที่รัสเซียพยายามยึดครองมานาน
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย นำภาพการต่อสู้ในเมืองมาริอูโพล ทางใต้ของยูเครน โดยรายงานว่า กองกำลังแบ่งแยกดินแดนชาวยูเครนได้ยึดพื้นที่แถบชานเมืองได้แล้ว แต่ใจกลางยังคงมีการต่อสู้กันอยู่ แล้วยังมีภาพทหารเข้าไปยังที่หลบภัยของชาวเมืองนับร้อยด้วย
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยังแพร่ภาพการสาธิตโดรนรุ่น ออร์ลาน-10 ซึ่งมีความสำคัญทางกลยุทธ์ เพราะเป็นโดรนตรวจการณ์ เพื่อชี้เป้าการยิงโจมตีภาคพื้นดิน และเคลื่อนกำลังยานเกราะ โดยที่ไม่ได้ระบุว่า นำไปใช้บริเวณใด
ขณะที่ยังต้องรอให้การเจรจานำไปสู่สันติภาพได้จริงๆ ศิลปินรวมตัวแสดงเพื่อเรียกร้องสันติภาพ ในคอนเสิร์ตเพื่อยูเครน ที่เมืองเบอร์มิงแฮมของอังกฤษ มีทั้ง เอ็ด เชียแลน และคามิลลา คาเบลโญ่ ขับขานผลงานดัง ผู้ที่ได้รับกำลังใจสูงสุดจากผู้ชมแน่นขนัดคือ จามาล่า ศิลปินชาวยูเครน ที่ต้องอพยพออกมาตั้งแต่รัสเซียยกทัพบุก เธอขับร้องเพลง 1944 (ไนน์ทีโฟร์ตีโฟร์) ของเธอ คำร้องว่า “คุณมีหัวใจหรือไม่ คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า แต่ทุกคนต้องตาย หยุดกลืนกินวิญญาณของทุกคนได้แล้ว”
• ธนัส ศิรางกูร • ฝ่ายข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย รายงาน