3 พันธมิตรสร้าง Springboard เพิ่มโอกาสเข้าสู่ตลาดทุนให้ SMEs/Startups

กรุงเทพฯ 27 ส.ค.-เปิดตัวความร่วมมือโครงการพัฒนาและสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น (Startups) และวิสาหกิจขนาดกลางกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย


3 พันธมิตรผนึกกำลังสร้าง Springboard เพิ่มโอกาสการเข้าสู่ตลาดทุน ให้ SMEs/Startups โดยร่วมกันพัฒนา Embryo Incubation Program ที่เป็น Incubation สำหรับผู้ประกอบการ เพื่อสร้างการเติบโตให้เศรษฐกิจประเทศ พร้อมเปิดตัว 25 กันยายน 2564 นี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านธุรกิจ เปิดตัวความร่วมมือสร้าง Springboard เพิ่มโอกาสการเข้าสู่ตลาดทุน ให้กับ SMEs/ Startups  โดยร่วมกันพัฒนา ‘EMBRYO Incubation Program’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ LiVE Incubation Program มุ่งเน้นเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ SMEs/Startups เพิ่มศักยภาพ เพื่อพร้อมสำหรับการเติบโต แผนการพัฒนา

ตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SME หรือ SME Board ที่จะเปิดให้บริการในปลายปี 2564 นี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ที่จะเพิ่มโอกาสให้ SMEs/ Startups เข้าถึงแหล่งทุนผ่านตลาดทุน เพื่อเติบโตเป็นบริษัทขนาดใหญ่และก้าวสู่ตลาด mai และ SET ต่อไปในอนาคต โดยหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญในการระดมทุนผ่าน SME Board นี้ บริษัทจำต้องเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ด้วยเหตุนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงได้ร่วมกันพัฒนา “EMBRYO Incubation Program” เพื่อให้ความรู้และเตรียมความพร้อมให้กับ SMEs/ Startup ในการระดมทุนผ่าน SME Board โดยออกแบบโครงสร้างหลักสูตรให้ครอบคลุมเนื้อหาที่สำคัญ ประกอบด้วย Roadmap to Capital Market เปิดประตูสู่เส้นทางในตลาดทุน (SME Board-> mai-> SET) Readiness Checklist เช็คสถานะความพร้อมของธุรกิจตัวเอง เพื่อสร้างแผนการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจสู่เป้าหมาย Business Model for Growth พัฒนาโมเดลธุรกิจกับวิทยากรชั้นนำ สู่กลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน Financial & Accounting ปรับระบบหลังบ้านให้พร้อมก่อนระดมทุน และ Win Strategy วางกลยุทธ์ธุรกิจสู่การเติบโต พร้อมไปกับการให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าร่วมอบรมในระหว่างเข้าการอบรมเป็นรายบริษัท นอกจากนี้ เมื่อสำเร็จการอบรม บริษัทที่เข้าอบรมสามารถยื่นขอทุนสนับสนุนจากทางกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เพื่อใช้ในการสร้างความพร้อมของบริษัท อาทิ การจัดทำระบบงานที่สำคัญ สูงสุดบริษัทละ 50,000 บาท


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นความสำคัญของผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (SMEs) และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startups) และพร้อมสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุน โดยเป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการส่งเสริมการระดมทุนของธุรกิจใหม่ โดยเสริมสร้างองค์ความรู้และความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ สำหรับความร่วมมือกับหอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ภายใต้โครงการ EMBRYO Incubation Program นับเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดทุนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs / Startups ผ่านเครือข่ายของหอการค้าไทย และเชื่อว่าโครงการดังกล่าว จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจ และการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าตลาดทุนให้กับผู้ประกอบการ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย  กล่าวว่า การผลักดันผู้ประกอบการ SMEs และ  Startups ที่เปรียบเสมือนฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ  ให้มีโอกาสในการเข้าถึงตลาดทุนถือเป็น Springboard ที่จะผลักดันให้บริษัทขนาดเล็กขึ้นสู่ขนาดกลางได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้กับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นความร่วมมือที่จะสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจประเทศ อีกทั้งโครงการ “EMBRYO Incubation Program” ที่ดำเนินการโดย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นโครงการที่จะพัฒนาให้ SMEs/Startups ได้มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจ พร้อมกับการปรับระบบหลังบ้าน หรือระบบภายในของธุรกิจที่ต้องสอดรับกับการเติบโต ผมต้องขอบคุณทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่ได้เป็นผู้จัดหลักสูตรนี้ และด้วยความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ ประกอบกับมีคณาจารย์และเครือข่ายทีมที่ปรึกษาธุรกิจ  ผมเชื่อว่า  SMEs/Startups จะได้รับแนวทางในการพัฒนาธุรกิจ และ เตรียมความพร้อมของตนเองสู่การเข้าระดมทุนในตลาดทุนต่อไป และต้องขอขอบคุณทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ได้ร่วมมือทั้งทางการออกแบบโครงการร่วมกัน และได้ให้การสนับสนุนเงินทุนจาก กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ให้กับ SMEs/Startups ที่เข้าร่วมโครงการ “EMBRYO Incubation Program”  ขอเชิญชวน SMEs/Startups เข้าร่วมโครงการนี้ และวันนี้เป็นวันเริ่มต้นที่ดี และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ SMEs/ Startup ไทยจะ Springboard และเติบโตได้อย่างยั่งยืน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ไทย มีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ  99.5ของผู้ประกอบการทั้งหมด มีบทบาทต่อการจ้างงานราวร้อยละ  70 และด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและธุรกิจในวันนี้ ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 และประสบกับปัญหาเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ความร่วมมือครั้งนี้ จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญที่จะช่วย SMEs ไทยรอด และ เติบโต ด้วยการเข้ามาเตรียมความพร้อม และเรียนรู้ถึงโอกาสในการเข้าสู่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SME หรือ SME Board


มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันและสนับสนุนการเข้าถึงตลาดทุนของ SMEs/Startups ในครั้งนี้ ผมและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีความตั้งใจในจัดโครงการ “EMBRYO Incubation Program” เราได้เตรียมความรู้ เครื่องมือสนับสนุน และผู้เชี่ยวชาญ ที่จะมาช่วย SMEs/ Startups ในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ และการปรับระบบต่างๆให้สอดรับกับกลยุทธ์การเติบโต และพร้อมให้คำปรึกษาทางธุรกิจ โดยโครงการนี้เราได้พันธมิตรชั้นนำอาทิ PwC Thailand, Baker McKenzie, APM Asset Pro Management ที่จะมาร่วมกันให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าร่วมอบรม สุดท้ายนี้ การผนึกกำลังของ 3 องค์กรในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับ SMEs/Startups ไทยในอนาคตอันใกล้นี้ “Level UP Your Business Future”  by EMBRYO Incubation Program ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย