ครบรอบ 50 ปี ตลท. คลังมอบภารกิจฟื้นฟูความเชื่อมั่น

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – คลังมอบภารกิจให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ฟื้นฟูความเชื่อมั่น ให้กลับมาแข็งแรง ดูแลนักลงทุนรายย่อย ด้านประธานบอร์ด ตลท. – ผจก.ตลท. พร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสและทางเลือกการลงทุน ใช้เทคโนโลยีพัฒนาแพลตฟอร์ม-ผลิตภัณฑ์การลงทุน


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดงานสัมมนา “Legacy & Future : 50 Years of Thai Capital Market” เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2568 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองด้านพัฒนาการบรรษัทภิบาลตลาดทุนไทย วิเคราะห์อดีตเพื่อก้าวสู่อนาคตอันจะนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคมโดยรวม

ภายในงานนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์บันทึกเทป ร่วมกับนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ครบรอบ 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มต้นเมื่อปี 2518 จากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 8 บริษัท กระทั่งปัจจุบันมีมากกว่า 800 บริษัท ระดมทุนได้มากกว่า 6 ล้านล้านบาท และในอนาคตจะมีมากกว่านี้ ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพยฯ ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ดัชนีขึ้น – ลง อย่างน่าใจหาย คำถามที่น่าคิด การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญ ตลาดหลักทรัพย์ต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับนวัตกรรม และพัฒนา วันนี้ตรอบรอบ 50 ปี มองไปใน 50 ปีข้างหน้า หรือ เป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ จะครบ 100 ปี อยากเห็นการพัฒนาฟื้นฟูความเชื่อมั่น ( Trust and Confident ) ให้กลับมาแข็งแรงให้ได้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมผู้ระดมทุน ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งจัดทำโครงสร้างพื้นฐานให้อำนวยความสะดวกในการลงทุน รวมทั้งให้ประสานการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์และลดอุปสรรค เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นผลดีต่อนักลงทุนรายย่อยและประชาชน ในการสร้างโอกาสและทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอในการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนระยะยาวที่ดีและยั่งยืน

ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลาดทุนเจอวิกฤตหลายครั้งก็ต้องปรับตัวให้ทันซึ่งตลาดทุนมีมาตรการมากมายที่ต้องสร้างความมั่นคง ความเชื่อมั่นทำคนเดียวไม่ได้ หน่วยงานต้องร่วมกันรวมทั้ง ก.ล.ต.ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล ต้องทำงานใกล้ชิดมากขึ้น ร่วมมือกันปรับเปลี่ยนนโยบายให้รวดเร็ว พร้อมย้ำว่านักลงทุนต้องวิเคราะห์และใช้ดุลยพินิจให้ดีตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางพร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลมากที่สุด เพื่อให้ข้อมูลเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องศึกษาปัจจัยพื้นฐานหุ้นก่อนจะตัดสินใจลงทุน และที่สำคัญอย่าลงทุนเกินตัว ไม่ควรไปกู้ยืมมาลงทุน

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงทิศทางการพัฒนาตลาดทุนว่า ภารกิจสำคัญในปัจจุบันคือการสร้างโอกาสให้กับทุกภาคส่วน ทั้งนักลงทุนและผู้ประกอบการ โดยเน้นให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เพียงพอ ตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถระดมทุนจากตลาดทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องมือการลงทุนใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น Depository Receipts (DR), DRx, และกองทุน ETF เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนในการกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงตลาดต่างประเทศ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงข้อมูลและวิเคราะห์ได้สะดวกยิ่งขึ้น


แม้ในระยะสั้นตลาดจะมีความผันผวนสูงจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ แต่มองว่าในวิกฤตยังแฝงด้วยโอกาส โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ยังมีศักยภาพสูง อาทิ กลุ่มสุขภาพ (Healthcare), สินค้าอุปโภคบริโภคที่มีแบรนด์ไทย และภาคการท่องเที่ยวซึ่งยังเป็นจุดแข็งของประเทศ

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น เสริมสร้างเสถียรภาพ และพัฒนาระบบการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนและธุรกิจสามารถใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือในการสร้างอนาคตได้อย่างมั่นคง” นายอัสสเดช กล่าว.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]