ไทยลงนาม MOU มลฑลไห่หนาน ขยายการค้าระหว่างกัน


นนทบุรี 20 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์เป็นสักขีพยานลงนาม MOU ความร่วมมือทางการค้าไทย-ไห่หนานของจีนถือเป็นมินิเอฟทีเอฉบับแรก ที่เพิ่มช่องทางการค้าและการลงทุนทุกมติ แถมโอกาสสินค้าไทยเข้าไปทำตลาดไห่หนานเพิ่ม พร้อมยังส่งเสริม SMEs 2 ฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมและการลงทุนด้วย คาดดันมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่ม 2 ปีเป็น 12,000 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานสักขีพยานฝ่ายไทย และนายเฝิง เฟย (H.E. Mr. Feng Fei) ผู้ว่าการมณฑลไห่หนาน เป็นประธานสักขีพยานฝ่ายจีน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านความร่วมมือทางการค้าระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กับกรมพาณิชย์ไห่หนาน มณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์ ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้ลงนาม ร่วมกับนายเฉินซี (Mr.Chen Xi) อธิบดีกรมพาณิชย์ไห่หนาน โดยมีสักขีพยานฝ่ายไทย ได้แก่ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และสักขีพยานฝ่ายจีน ได้แก่ นายหนี เฉียง (Mr. Ni Qiang) รองผู้ว่าการมณฑลไห่หนาน  นางสาวไต้ เจิน (Ms.Dai Zhen) ผู้อำนวยการสำนักงานการต่างประเทศไห่หนาน  
 
อย่างไรก็ตาม การลงนาม MOU ครั้งนี้ถือเป็นมินิเอฟทีเอฉบับแรกที่ไทยได้ลงนามกับมลฑลของจีน ซึ่งในเร็วๆนี้ยังมีการลงนามเพิ่มเติมอีก โดยไม่เพียงแต่จีนเท่านั้น ยังจะมีประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอีกหลายประเทศด้วยกัน ดังนั้น การลงนาม MOU กับไห่หนานถือเป็นกาาสร้างความร่วมมือทางการค้าเชิงลึกระดับมณฑล เพื่อขยายการส่งออกสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงของจีน ที่สำคัญ



รัฐบาลจีนมีนโยบายผลักดันให้เป็นเมืองท่าการค้าเสรีระดับสูงที่มีอิทธิพลในระดับโลกเทียบเท่าฮ่องกง ดังนั้น หากมีความร่วมมือต่อกันจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าระหว่างกันในอนาคต โดยตลอดปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทย และกรมพาณิชย์ไห่หนานของจีน ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดแม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จนที่สุดได้เกิดผลลัพธ์ที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งใน ซึ่งการลงนามใน MOU จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน อำนวยความสะดวกในกิจกรรมการค้าต่าง ๆ สนับสนุนการขยายการค้าในสินค้าส่งออกสำคัญระหว่างกัน ร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซ และการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร่วมกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ของทั้ง 2 ฝ่าย

ทั้งนี้ โดยสาระสำคัญของ MOU ประกอบด้วย 5 มิติ ได้แก่ 1.แลกเปลี่ยนข้อมูลและมาตรการสนับสนุนสำหรับ SMEs ความร่วมมือทางอุตสาหกรรม การลงทุน และการจัดตั้งตัวแทนการค้าร่วมกันในประเทศของตน  2.ส่งเสริมและเชื่อมโยงธุรกิจ ยกระดับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของ SMEs ผ่านโครงการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า แลกเปลี่ยนบุคลากร การขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ตลาดที่สาม การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ และการจัดคณะผู้แทนการค้าเพื่อการพัฒนาสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลก
3.อำนวยความสะดวกในกิจกรรมทางการค้าต่าง ๆ ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้จัดหรือจัดร่วมกัน เช่น การจัดสัมมนา การประชุมวิชาการ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การจับคู่ธุรกิจการค้า งานแสดงสินค้า คณะผู้แทนการค้า เป็นต้น ด้วยการแบ่งปันข้อมูล ความรู้ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี เพื่อขยายโอกาสทางการค้าร่วมกัน 4.สนับสนุนการขยายการค้าในสินค้าส่งออกสำคัญระหว่างกัน เช่น สินค้าอุตสาหกรรม อาหาร สินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เป็นต้น และ 5.ส่งเสริมความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซและการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน ตามที่ผู้เข้าร่วมตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ผลจากการพัฒนาความสัมพันธ์การค้าเชิงลึกของกระทรวงพาณิชย์ประเทศไทยกับมณฑลไห่หนาน ผ่านการลงนาม MOU ครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดการขยายมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ล้านบาทภายใน 2  ปี ซึ่งสินค้าไทยที่มีศักยภาพ ได้แก่ สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพารา อาหารสำเร็จรูป ของใช้ตกแต่งบ้าน ธุรกิจด้านการเงิน  โดยในปี 2563 มูลค่าการค้าระหว่างไทย-ไห่หนาน มีมูลค่า 295.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาทกว่า 9,200 ล้านบาท สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปไห่หนาน ได้แก่ สตาร์ช  ไซคลิกไฮโดรคาร์บอน ปิโตรเลียมโค้ก ปิโตรเลียมบิทูเมน ยางผสม (คอมพาวนด์) ยางธรรมชาติ สินแร่และหัวแร่ไทเทเนียม ยาและเวชภัณฑ์ ข้าว    


นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดกิจกรรมคู่ขนานเจรจาธุรกิจการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจีน โดยเฉพาะผู้นำเข้าจากไห่หนาน จำนวน 119 คู่ โดยมีผู้ส่งออกไทย 53 บริษัท และผู้นำเข้าจีน 29 บริษัท ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี คาดการณ์มูลค่าการค้าใน 1 ปี 595.75 ล้านบาท สินค้าไทยที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ข้าวสาร อาหารพร้อมรับประทานและเครื่องดื่ม ผลไม้ กุ้งแช่แข็งและอื่นๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ แม้สถานการณ์โควิดที่ไทยยังมีปัญหาอยู่ แต่หากดูยอดมูลการค้าส่งออกโดยรวมของไทยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสัปดาห์หน้ากระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลยการส่งออกในเดือนกรกฎาคม 64 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ตัวเลขอยู่ แต่เบื้องต้นยังเป็นตัวเลขขยายตัวเป็นบวก 2 หลักเช่นเดิม แต่จะเป็นบวกแค่ไหนสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย

หกเดือนหก กองทัพอากาศเตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ ส่งทันที ถึงที่หมาย

กองทัพอากาศ 6 มิ.ย.- กองทัพอากาศ เผยพร้อมติดตั้งระเบิด เครื่องบินรบ แสดงความพร้อมกำลังพล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจกองทัพอากาศ เผยข้อความ หกเดือนหก (6.6)⚡กองทัพอากาศ เตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย ฝูงบิน 103 กองบิน 1เครื่องบิน F-16 นามเรียกขาน ” Lightning “ติดตั้งระเบิด พร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถก สมช. ชี้รัฐบาล-กองทัพ ไร้ปัญหา ทำงานเป็นเอกภาพ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.-นายกฯ ถก สมช.แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลกับกองทัพ เคลียร์อำนาจหน้าที่แล้วไร้ปัญหา ย้ำ ทำงานเป็นเอกภาพ รักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ยึดสันติวิธี บอกมอบหน้างานประเมินหากต้องปะทะ ทุกอย่างยังโอเค ยืนยันรัฐบาลทำงานไม่ช้า กำชับ ก.ดีอี ดูเนื้อหาปลุกปั่นหวั่นขยายขัดแย้ง ด้าน ผบ.ทสส. ลั่น กองทัพพร้อมหนุนรัฐบาล แจงประชุมเหล่าทัพไม่เชิญสื่อ ขอทำงานมืออาชีพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ หลังจากเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปคุยกับทีมกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังโอเคอยู่ และยืนยันว่า ทุกหน่วย ทุกฝ่ายทั้งกองทัพและรัฐบาลมีการปรึกษากันตลอดก่อนที่จะดำเนินการใดใด อำนาจไหนที่เป็นของใคร และทุกคนทราบในอำนาจของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ได้คุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี […]

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย