ไทยลงนาม MOU มลฑลไห่หนาน ขยายการค้าระหว่างกัน


นนทบุรี 20 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์เป็นสักขีพยานลงนาม MOU ความร่วมมือทางการค้าไทย-ไห่หนานของจีนถือเป็นมินิเอฟทีเอฉบับแรก ที่เพิ่มช่องทางการค้าและการลงทุนทุกมติ แถมโอกาสสินค้าไทยเข้าไปทำตลาดไห่หนานเพิ่ม พร้อมยังส่งเสริม SMEs 2 ฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมและการลงทุนด้วย คาดดันมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่ม 2 ปีเป็น 12,000 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานสักขีพยานฝ่ายไทย และนายเฝิง เฟย (H.E. Mr. Feng Fei) ผู้ว่าการมณฑลไห่หนาน เป็นประธานสักขีพยานฝ่ายจีน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านความร่วมมือทางการค้าระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กับกรมพาณิชย์ไห่หนาน มณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์ ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้ลงนาม ร่วมกับนายเฉินซี (Mr.Chen Xi) อธิบดีกรมพาณิชย์ไห่หนาน โดยมีสักขีพยานฝ่ายไทย ได้แก่ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และสักขีพยานฝ่ายจีน ได้แก่ นายหนี เฉียง (Mr. Ni Qiang) รองผู้ว่าการมณฑลไห่หนาน  นางสาวไต้ เจิน (Ms.Dai Zhen) ผู้อำนวยการสำนักงานการต่างประเทศไห่หนาน  
 
อย่างไรก็ตาม การลงนาม MOU ครั้งนี้ถือเป็นมินิเอฟทีเอฉบับแรกที่ไทยได้ลงนามกับมลฑลของจีน ซึ่งในเร็วๆนี้ยังมีการลงนามเพิ่มเติมอีก โดยไม่เพียงแต่จีนเท่านั้น ยังจะมีประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอีกหลายประเทศด้วยกัน ดังนั้น การลงนาม MOU กับไห่หนานถือเป็นกาาสร้างความร่วมมือทางการค้าเชิงลึกระดับมณฑล เพื่อขยายการส่งออกสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงของจีน ที่สำคัญ



รัฐบาลจีนมีนโยบายผลักดันให้เป็นเมืองท่าการค้าเสรีระดับสูงที่มีอิทธิพลในระดับโลกเทียบเท่าฮ่องกง ดังนั้น หากมีความร่วมมือต่อกันจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าระหว่างกันในอนาคต โดยตลอดปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทย และกรมพาณิชย์ไห่หนานของจีน ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดแม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จนที่สุดได้เกิดผลลัพธ์ที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งใน ซึ่งการลงนามใน MOU จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน อำนวยความสะดวกในกิจกรรมการค้าต่าง ๆ สนับสนุนการขยายการค้าในสินค้าส่งออกสำคัญระหว่างกัน ร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซ และการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร่วมกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ของทั้ง 2 ฝ่าย

ทั้งนี้ โดยสาระสำคัญของ MOU ประกอบด้วย 5 มิติ ได้แก่ 1.แลกเปลี่ยนข้อมูลและมาตรการสนับสนุนสำหรับ SMEs ความร่วมมือทางอุตสาหกรรม การลงทุน และการจัดตั้งตัวแทนการค้าร่วมกันในประเทศของตน  2.ส่งเสริมและเชื่อมโยงธุรกิจ ยกระดับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของ SMEs ผ่านโครงการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า แลกเปลี่ยนบุคลากร การขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ตลาดที่สาม การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ และการจัดคณะผู้แทนการค้าเพื่อการพัฒนาสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลก
3.อำนวยความสะดวกในกิจกรรมทางการค้าต่าง ๆ ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้จัดหรือจัดร่วมกัน เช่น การจัดสัมมนา การประชุมวิชาการ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การจับคู่ธุรกิจการค้า งานแสดงสินค้า คณะผู้แทนการค้า เป็นต้น ด้วยการแบ่งปันข้อมูล ความรู้ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี เพื่อขยายโอกาสทางการค้าร่วมกัน 4.สนับสนุนการขยายการค้าในสินค้าส่งออกสำคัญระหว่างกัน เช่น สินค้าอุตสาหกรรม อาหาร สินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เป็นต้น และ 5.ส่งเสริมความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซและการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน ตามที่ผู้เข้าร่วมตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ผลจากการพัฒนาความสัมพันธ์การค้าเชิงลึกของกระทรวงพาณิชย์ประเทศไทยกับมณฑลไห่หนาน ผ่านการลงนาม MOU ครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดการขยายมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ล้านบาทภายใน 2  ปี ซึ่งสินค้าไทยที่มีศักยภาพ ได้แก่ สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพารา อาหารสำเร็จรูป ของใช้ตกแต่งบ้าน ธุรกิจด้านการเงิน  โดยในปี 2563 มูลค่าการค้าระหว่างไทย-ไห่หนาน มีมูลค่า 295.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาทกว่า 9,200 ล้านบาท สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปไห่หนาน ได้แก่ สตาร์ช  ไซคลิกไฮโดรคาร์บอน ปิโตรเลียมโค้ก ปิโตรเลียมบิทูเมน ยางผสม (คอมพาวนด์) ยางธรรมชาติ สินแร่และหัวแร่ไทเทเนียม ยาและเวชภัณฑ์ ข้าว    


นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดกิจกรรมคู่ขนานเจรจาธุรกิจการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจีน โดยเฉพาะผู้นำเข้าจากไห่หนาน จำนวน 119 คู่ โดยมีผู้ส่งออกไทย 53 บริษัท และผู้นำเข้าจีน 29 บริษัท ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี คาดการณ์มูลค่าการค้าใน 1 ปี 595.75 ล้านบาท สินค้าไทยที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ข้าวสาร อาหารพร้อมรับประทานและเครื่องดื่ม ผลไม้ กุ้งแช่แข็งและอื่นๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ แม้สถานการณ์โควิดที่ไทยยังมีปัญหาอยู่ แต่หากดูยอดมูลการค้าส่งออกโดยรวมของไทยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสัปดาห์หน้ากระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลยการส่งออกในเดือนกรกฎาคม 64 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ตัวเลขอยู่ แต่เบื้องต้นยังเป็นตัวเลขขยายตัวเป็นบวก 2 หลักเช่นเดิม แต่จะเป็นบวกแค่ไหนสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]