นนทบุรี 16 ส.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุปั้น Gen Z เป็น CEO ได้แล้วกว่า 16,500 คนเพื่อรองรับการค้ายุคใหม่ New Normal โดยเฉพากลุ่มนักศึกษาและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ภาคใต้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ พบปะนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีและผู้ประกอบการภาตใต้ ผ่านระบบ Zoom เพื่อให้โอวาทในพิธีเปิดโครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่(From Gen Z to be CEO) ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยโครงการปั้น Gen Z เป็น CEO ประเทศเราพัฒนามาเรื่อยๆ ซึ่งจะทำเฉพาะการส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจการเมือง ประชาธิปไตย เข้าใจบริบทของสังคม
ทั้งนี้ ในเรื่องของการค้าและการค้ายุคนี้เปลี่ยนรูปแบบไปโดยสิ้นเชิงจากระบบการค้าแบบออฟไลน์เป็นการค้าแบบยุค New Normal ที่ต้องเน้นการค้าออนไลน์มากขึ้น กลยุทธ์เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นระบบดิจิทัล หลายคนบอกว่าถ้าเรียนจบไม่อยากไปเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ที่ทุกคนฝันคืออยากเป็นนายของตนเอง แต่ต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่โครงการปั้น Gen Z เป็น CEO ให้ความรู้ความเข้าใจ หลักสูตรทั้งหมดมีทั้งหลักสูตร e-commerce ให้ขายผ่านระบบออนไลน์ได้ ขายเป็น มีความรู้ความเข้าใจเชิงลึก และเรื่องโลจิสติกส์สมัยใหม่
นอกจากนี้ ยังรวมทั้งเทคโนโลยีการบริหารจัดการยุคใหม่ ที่มีแพลตฟอร์ม แอพพลิเคชั่นต่างๆที่จะมีส่วนมาช่วยให้พวกเราบริหารจัดการได้คล่องตัวขึ้น และต้องมีความเข้าใจเรื่อง 5G การให้บริการ Cloud Service ที่เปลี่ยนจากระบบเดิม รวมถึงการเจรจาการค้าระหว่างประเทศหลักสูตรนี้จะให้ความรู้ความเข้าใจกับน้องๆความเข้าใจเรื่องการส่งออกเบื้องต้น ภาษาอังกฤษทางการค้า ที่สำคัญมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่มาถ่ายทอดประสบการณ์ให้รับทราบว่าเทคนิคในการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยเป็นอายุน้อยร้อยล้านทำอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ตอนเริ่มโครงการได้คุยกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศตั้งเป้าในปลายปี 2563-2564 ที่เริ่มต้นโครงการจะปั้น Gen Z เป็น CEO ให้ได้ 12,000 คนทั่วประเทศ แต่มีคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจตอนนี้สมัครเข้ามาถึง 16,500 คนจากทั่วประเทศและกระทรวงพาณิชย์อบรมให้ความรู้ไปแล้วหลายรุ่น ขณะนี้ มีประมาณ 5,000 คน สำหรับน้องๆนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ถือเป็นโอกาสทองสำหรับน้องๆทุกคน และที่สำคัญถ้าจบการอบรมแล้วผลสอบได้ติดท็อป 100 คนแรกมีโอกาสไปฝึกงานในบริษัททรูคอร์ปอเรชั่นและบริษัทหัวเว่ย รวมทั้งระบบการทำธุรกิจบิทคอยน์ซึ่งเป็นการบริหารจัดการการเงินยุคใหม่หรือถ้าติดท็อป 500 คน จะมีโอกาสเข้าไปเรียนเพิ่มทักษะต่างๆกับเครือข่ายพันธมิตรของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป
ทั้งนี้ ภาวะที่ประสบกับปัญหาโควิด การค้าและการส่งออกกลายเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การท่องเที่ยวภายในประเทศยังลำบาก ได้เริ่มโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และจะขยายให้นักท่องเที่ยวที่มาสามารถไปเที่ยวกระบี่ สมุยและพังงา เป็นอันดามันแซนด์บ็อกซ์ แต่ถ้าจะเปิดพร้อมกันทั้งประเทศยังต้องใช้เวลา ถ้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ประสบความสำเร็จก็จะขยายไปพัทยาเชียงใหม่ หัวหิน ต่อไปได้ โดยตัวจักรที่ยังหวังได้คือการส่งออก ซึ่งในเดือนมิถุนายนเป็นบวกสูงถึงร้อยละ 43.82 ดังนั้น การส่งออกยังเป็นกุญแจดอกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย