fbpx

ผลไม้ชมพู่ไทยมีโอกาสทำตลาดส่งออกได้มากขึ้น

rose apple on white wooden backgroud


นนทบุรี 13 ก.ค. – สนค. วิเคราะห์ตลาดผลไม้ชมพู่ไทยมีโอกาสเจาะตลาดส่งออกในตลาดประเทศได้สูง แนะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ชมพู่พันธุ์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการบริโภค ส่วนเกษตรกรต้องเร่งพัฒนาคุณภาพพร้อมแปรรูปเพื่อให้ชมพู่ไทยอยู่ได้นานขึ้นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างอำนาจต่อรอง และขายผลผลิตผ่านออนไลน์ ด้านรัฐต้องส่งเสริมแหล่งเพาะปลูก เป็นแหล่งท่องเที่ยวควบคู่


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์การผลิตและการทำตลาด “ชมพู่” ของไทยในด้านการยกระดับรายได้เกษตรกร และแนวทางการส่งเสริมการค้าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยพบว่า ปัจจุบันไทยมีสายพันธุ์ที่นิยมเพาะปลูกและมีผลผลิตมาก ได้แก่ ชมพู่ทับทิมจันทร์ ชมพู่ทูลเกล้า ชมพู่เพชรสุวรรณ และชมพู่เพชร เป็นต้น มีแหล่งผลิตสำคัญอยู่ที่จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สมุทรสาคร สุราษฎร์ธานี เป็นต้น โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรผู้ปลูกชมพู่ 4,573 ครัวเรือน มีพื้นที่เพาะปลูก จำนวน 26,273 ไร่ มีปริมาณผลผลิต 48,579 ตัน

ทั้งนี้ ในด้านการทำตลาด ผลผลิตส่วนใหญ่ยังเป็นการจำหน่ายในประเทศ มีการส่งออกไปต่างประเทศในปริมาณไม่มากนัก เมื่อเทียบกับผลไม้ส่งออกชนิดอื่น เช่น ทุเรียน ลำไย มังคุด เนื่องจากชมพู่ยังผลิตได้ไม่มากและการขนส่งที่ยาก เพราะเป็นผลไม้ที่เสียหายได้ง่ายในขั้นตอนการขนส่ง และยังไม่มีการแปรรูปเพื่อการส่งออก โดยในปี 2563 มีการส่งออก จำนวน 659.21 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.72 มีมูลค่า 739,348 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 20.47 โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เวียดนาม อินโดนีเซีย จีน และลาว เป็นต้น


ทั้งนี้ แนวทางการส่งเสริมและเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับชมพู่ของไทย จะต้องสร้างตลาดให้ผู้บริโภครู้จักชมพู่แต่ละสายพันธุ์ เพื่อกระตุ้นการบริโภคเพื่อให้ประชาชนหรือผู้บริโภคทราบถึงความพิเศษและความเป็นมาของสินค้า ได้แก่ ชมพู่ทับทิมจันทร์ ชมพู่ทูลเกล้า ชมพู่เพชรสุวรรณ นอกจากนี้ยังมี ชมพู่เพชร ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อีกด้วย ขณะเดียวกันด้านการผลิตเกษตรกรจะต้องเพิ่มการผลิตและพัฒนาคุณภาพของผลไม้ชมพู่ เพื่อเพิ่มปริมาณและมูลค่าการส่งออก เช่น มีมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (การรับรอง Organic Thailand) , สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (IFOAM Basic Standards) , มาตรฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์ของสหภาพยุโรป รวมทั้งต้องนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตและแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น เยลลี่ชมพู่ แยมชมพู่ ชมพู่อบแห้ง เป็นต้น

นอกจากนี้ เกษตรกรควรมีการรวมกลุ่มผู้ปลูกชมพู่ ในรูปแบบสหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และยังต้องส่งเสริมให้มีการวางแผนการผลิต โดยใช้ตลาดนำการผลิต เพื่อลดปัญหาชมพู่ล้นตลาดหรือราคาตกต่ำในอนาคต รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่วยสินค้าในช่องทางออนไลน์ผ่านทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยปัจจุบันมีสวนชมพู่หลายแห่งเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน และมีหลายแห่งในจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และ นครปฐม ที่ได้ผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดการเรียนรู้เชิงเกษตร ซึ่งได้ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เรือสินค้าชนสะพานพังในสหรัฐ

บัลติมอร์ 26 มี.ค.- สื่อในสหรัฐรายงานว่า เกิดเหตุเรือสินค้าชนสะพานสำคัญในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ทำให้สะพานพังลงไปในแม่น้ำ เว็บไซต์บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์รายงานว่า มีผู้โพสต์คลิปผ่านเอ็กซ์ (X) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เรือลำใหญ่ชนกับคานรองรับของสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นจากเรือ จากนั้นสะพานได้ทยอยพังลงไปในแม่น้ำ ขณะที่สำนักงานเครื่องกลเบย์แอเรียถ่ายทอดสดทางยูทูบเมื่อเวลา 01:28 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เห็นเรือลำใหญ่ชนสะพานดังกล่าว จากนั้นเมื่อเวลา 03:00 น.เห็นโครงสร้างสะพานแตกเป็นส่วน ๆ และจมอยู่ในแม่น้ำ บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์ได้ตรวจสอบแผนที่การเดินเรือในเว็บไซต์เวสเซิล ไฟน์เดอร์ (VesselFinder) พบว่า เมื่อเวลา 02:50 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เรือดาลี (Dali) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าติดธงชาติสิงคโปร์ ยังคงจอดนิ่งอยู่ใต้สะพาน สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อเดือนมีนาคม 2520 มีความยาวทั้งหมด 2,632.3 เมตร.-814.-สำนักข่าวไทย

ศาลยกฟ้อง “ชวน หลีกภัย” หมิ่นประมาท “ทักษิณ”

“ชวน” อดีตนายกรัฐมนตรี เผยศาลยกฟ้องคดี “ทักษิณ” ฟ้องหมิ่นประมาท ชี้มีสิทธิ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ได้ประสบมาเพราะเป็นนักการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนต

“ทนายตั้ม” แฉเส้นทางเงินเว็บพนันโยง “ส่วยตัวท็อป” น็อก “บิ๊ก ตร.”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะเปิดหลักฐานแฉขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ โยงบิ๊กตำรวจรับเงินเว็บพนัน

ข่าวแนะนำ

“ทนายตั้ม” มอบหลักฐานแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยง “บิ๊ก ตร.” ให้ “บิ๊กเต่า”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำหลักฐานมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยงถึงบิ๊กตำรวจ

“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับ

“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับคดีครอบครองอาวุธปืน -อั้งยี่ เมื่อปี 2560 ด้านทนายความเตรียมหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาทต่อคดี ไว้ยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน

พบร่างเหยื่อสะพานถล่มแล้ว 2 ราย

ทีมนักประดาน้ำสหรัฐ พบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุสะพานพังถล่มในเมืองบัลติมอร์ แล้ว 2 ราย เป็นคนงานชาวเม็กซิโกและชาวกัวเตมาลา

นายกฯ ย้ำเงินดิจิทัลช่วยฟื้นเศรษฐกิจ-ได้ข้อสรุป 10 เม.ย.

นายกรัฐมนตรี ย้ำโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ได้ข้อสรุป 10 เม.ย.นี้