CPNREIT เปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน


กรุงเทพฯ 8 ก.พ. – CPNREIT เปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน คาดอัตราเงินจ่ายผู้ถือหน่วยกว่า 7% โอกาสอนาคตมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นจากการคุม COVID-19


นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNREIT ได้เริ่มเปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 355.56 ล้านหน่วย ที่ราคาสูงสุด 19.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งคิดเป็นประมาณการอัตราเงินจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยที่ประมาณร้อยละ 7.1 (อ้างอิงจากประมาณการงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จปี 2564 และปรับราคาจองซื้ออ้างอิงที่ราคาเสนอขายสูงสุด) ทั้งนี้ ราคาจองซื้อสูงสุดอาจจะไม่ใช่ราคาเสนอขายสุดท้ายแต่เป็นเพียงราคาที่ระบุในหนังสือชี้ชวนฉบับที่มีผลใช้บังคับซึ่งถูกกำหนดจากส่วนลดในระดับที่เหมาะสมจากราคาตลาดในช่วงที่กำหนดราคาดังกล่าว และเป็นระดับราคาที่คาดว่ายังให้อัตราเงินจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยในระดับที่น่าสนใจอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม CPNREIT จะกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ภายหลังสำรวจความต้องการจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน (Book Building) จากนักลงทุนสถาบันและนิติบุคคลที่เข้าร่วม ซึ่งราคาเสนอขายสุดท้ายจะสะท้อนจากราคาตลาด ณ ช่วงเวลาที่ทำ Book Building ดังนั้น หากราคาเสนอขายสุดท้าย ต่ำกว่าราคาจองซื้อที่ 19.50 บาทต่อหน่วย ผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์จะคืนเงินส่วนต่างให้แก่ผู้จองซื้อทุกราย โดยในกรณีดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ประมาณการเงินจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยจะสูงกว่าร้อยละ 7.1 (อ้างอิงหนังสือชี้ชวนฉบับที่มีผลใช้บังคับ)


สำหรับรายละเอียดการจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนในครั้งนี้ จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และ GLANDRT ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียน ณ วันปิดสมุดทะเบียน (Book Close) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 (สามารถตรวจสอบสิทธิการจองซื้อได้ที่ www.cpnreit.com) โดยเริ่มจองซื้อในวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2564 (ในเวลาทำการ) และวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 (ตั้งแต่เปิดทำการ ถึงเวลา 15.30 น.) ส่วนประชาชนทั่วไป จะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 11 และ 15 กุมภาพันธ์ (ในเวลาทำการ) และวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 (ตั้งแต่เปิดทำการ ถึง 15.30 น.) นักลงทุนทั้ง 2 กลุ่มสามารถจองซื้อได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ สำนักงานใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) https://moneyconnect.krungthai.com

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวว่า CPNREIT นับเป็นกองทรัสต์ชั้นนำและมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ใหญ่ที่สุดในกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ดี โดยการเข้าลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมของ CPNREIT จะเพิ่มความมั่นคงของผลการดำเนินงาน โดยเป็นการกระจายการลงทุนในโครงการศูนย์การค้าที่มีศักยภาพในทำเลที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

“การลงทุนในหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนในครั้งนี้จะเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจเนื่องจากผลการดำเนินงานของ CPNREIT เริ่มฟื้นตัวขณะที่ราคาตลาด CPNREIT ในขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับราคาตลาดในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยการกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายซึ่งจะพิจารณาจากราคาตลาดในช่วงเวลาที่ทำ Book Building นี้ จะเพิ่มโอกาสการได้รับผลตอบแทนการลงทุนที่ดีทั้งจากอัตราเงินจ่ายผู้ถือหน่วยที่ระดับกว่า 7% และโอกาสที่ราคาหน่วยทรัสต์ CPNREIT จะปรับตัวขึ้นได้ตามผลประกอบการที่ฟื้นตัวรวมทั้งปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐสามารถเริ่มควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้ในหลายจังหวัดรวมทั้งการเริ่มทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ในหลาย ๆ ประเทศ และคาดว่าใกล้จะเริ่มฉีดในประเทศไทย” นายมนตรีกล่าว


นอกจากนี้ นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ CPN ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 กลุ่ม CPN จะจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนอย่างน้อยตามสิทธิของตนในฐานะที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม รวมถึงจะจองซื้อในส่วนเหลือจากการจัดสรรจากผู้ลงทุนรายอื่น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนให้การออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ โดย CPN คาดว่าหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลง และด้วยความเชี่ยวชาญของบริษัท ซึ่งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของ CPNREIT ที่มีประสบการณ์บริหารศูนย์การค้ามายาวนานเกือบ 40 ปี ซึ่งเคยผ่านวิกฤตการณ์ต่าง ๆ อย่างมากมาย จะสามารถบริหารโครงการศูนย์การค้าที่เป็นทรัพย์สินของ CPNREIT ให้มีผลการดำเนินงานที่ดี

นางสาวพิรินี พริ้งศุลกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้า 2 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 5,672 ล้านบาท (ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) จากกลุ่มบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ของ CPNREIT ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ประกอบด้วย (1) โครงการเซ็นทรัลมารีนา ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 14,793 ตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2563 ประมาณ 97.2% และ (2) โครงการเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 15,863 ตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2563 ประมาณ 93.4% . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ