ธอส.ขนบ้านมือสองกว่า 7,000 รายการ ประมูลออนไลน์ผ่าน G H Bank Smart NPA


กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิด “ประมูลขายบ้านมือสอง(รวมที่ดินเปล่า) ธอส. ครั้งที่ 4/2563”ในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 เป็นการประมูลออนไลน์ผ่าน Application : G H Bank Smart NPA โดยนำทรัพย์ทั่วประเทศมาออกประมูลมากที่สุดในรอบปีมากกว่า 7,000 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 75% จากราคาปกติ ราคาเริ่มต้นประมูลต่ำสุดเพียง 30,000 บาท แบ่งทรัพย์ออกประมูลออกเป็น 7 รอบเวลา รอบละ 30 นาที ประมูลระหว่างเวลา 10.00-16.30 น.


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่ง ธอส. ได้คำนึงถึงความปลอดภัยในสุขภาพรวมถึงความสะดวกของลูกค้าประชาชนเป็นหลักนั้น ธนาคารจึงขอประกาศ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดงานประมูลขายบ้านมือสอง(รวมที่ดินเปล่า) ธอส. ครั้งที่ 4/2563 ในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 จากเดิมกำหนดให้มีการประมูลที่สำนักงานใหญ่ หรือ ที่ทำการสาขาที่ทรัพย์นั้นตั้งอยู่ มาเป็นการประมูลออนไลน์ผ่าน Application : G H Bank Smart NPA โดยธนาคารได้คัดทรัพย์สภาพดีรวมทั้งสิ้นมากกว่า 7,000 รายการ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงในภูมิภาค ทั้งประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุด อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า ราคาเริ่มต้นประมูลให้ส่วนลดสูงสุด 75% จากราคาปกติ แบ่งเป็นทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 555 รายการ ราคาเริ่มต้นประมูลให้ส่วนลดสูงสุด 50% ถึง 33 รายการ โดยมีรายการที่น่าสนใจ อาทิ ทรัพย์ที่มีราคาจำหน่ายต่ำสุด ได้แก่ ห้องชุดชั้นที่ 5 ขนาด 19.5 ตารางเมตร โครงการสมจินตรา ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่แค่ 30,000 บาทเท่านั้น ส่วนรายการทรัพย์เด่นที่มีสภาพใหม่ ตั้งอยู่ในทำเลดี อาทิ ทรัพย์ที่สามารถเดินทางไปสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท-ศรีนครินทร์ ได้อย่างสะดวก ได้แก่ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 67.4 ตารางวา โครงการหมู่บ้านปริญญดา ถ.บางพลี-ตำหรุ อ.บาลพลี จ.สมุทรปราการ ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่ 3,600,000 บาท ทรัพย์ที่อยู่ห่างจากศูนย์การค้าเมกาบางนาเพียง 4 กิโลเมตร คือ ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น เนื้อที่ 28.1ตารางวา ในโครงการหมู่บ้านเดอะคัลเลอร์สเลชเชอร์บางนา กม.10 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ราคาเริ่มต้นประมูล 2,520,000 บาท ขณะที่ทรัพย์ในภูมิภาคนำออกประมูล 6,500 รายการ โดยมีรายการที่น่าสนใจ อาทิ ราคาเริ่มต้นประมูลลดเกือบ 70% และมีราคาเริ่มต้นประมูลต่ำที่สุดเพียงแค่ 85,000 บาท ได้แก่ ที่ดินเปล่า ขนาด 188 ตารางวา ใน อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์

“ผลจากการจัดประมูลทรัพย์ออนไลน์ผ่านแอป G H Bank Smart NPA ตลอด 6 ครั้งระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถขายทรัพย์ได้ 165 รายการ ราคารวมถึง 254.6 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าลูกค้าของธนาคารมีความคุ้นเคยกับการรูปแบบการประมูลออนไลน์มากขึ้น และมีส่วนสำคัญที่สนับสนุนให้การขายทรัพย์ NPA ของธนาคารในปีนี้จนถึง ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 สามารถขายได้แล้วถึง 3,352 รายการ มูลค่ารวม 2,872.27 ล้านบาท แม้ว่าจะมีปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งทำให้ธนาคารไม่สามารถ จัดงานประมูลขายทรัพย์ หรือนำทรัพย์ไปออกจำหน่ายในมหกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ ส่วนในปี 2564 ธนาคาร มีเป้าหมายในการขายทรัพย์จำนวน 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเป้าของการขายผ่านทางออนไลน์จำนวน 400 ล้านบาท เพราะคาดว่าจะเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น”นายฉัตรชัย กล่าว


สำหรับการประมูลขายบ้านมือสอง(รวมที่ดินเปล่า) ธอส. ครั้งที่ 4/2563 ผ่าน Application : G H Bank Smart NPA ในครั้งนี้ จะแบ่งทรัพย์ออกประมูลเป็น 7 รอบเวลา รอบละ 30 นาที ประกอบด้วย
รอบที่ 1 เวลา 10.00-10.30 น. ประมูลทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี จ.ระยอง จ.ตราด และ จ.สระแก้ว
รอบที่ 2 เวลา 11.00-11.30 น. ประมูลทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.พะเยา จ.แพร่ จ.เชียงใหม่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.ลำปาง จ.ลำพูน จ.กำแพงเพชร จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ จ.ลพบุรี จ.สุโขทัย และ จ.อุทัยธานี
รอบที่ 3 เวลา 12.00-12.30 น. ประมูลทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สระบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.อ่างทอง จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ จ.ร้อยเอ็ด จ.ศรีสะเกษ จ.สุรินทร์ จ.สิงห์บุรี จ.นครนายก และ จ.อุบลราชธานี
รอบที่ 4 เวลา 13.00-13.30 น.ประมูลทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จ.กาญจนบุรี จ.นครปฐม จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสาคร จ.พัทลุง จ.ยะลา จ.สงขลา จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สตูล
รอบที่ 5 เวลา 14.00-14.30 น.ประมูลทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.กระบี่ จ.ตรัง จ.นครศรีธรรมราช จ.ภูเก็ต จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.เพชรบุรี จ.สุราษฎร์ธานี จ.พังงา จ.ระนอง จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส
รอบที่ 6 เวลา 15.00-15.30 น. ประมูลทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และ จ.ปราจีนบุรี
รอบที่ 7 เวลา 16.00-16.30 น. ประมูลทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร จ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.เลย จ.สกลนคร จ.หนองคาย จ.หนองบัวลำภู จ.บึงกาฬ และ จ.อุดรธานี

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลสามารถดาวน์โหลด Application : G H Bank Smart NPA และลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลออนไลน์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2563 เวลา 09.45 น.(เฉพาะลูกค้าที่ยังไม่เคยลงทะเบียน) ผู้ชนะการประมูลจะได้รับ QR Code ผ่าน Application : G H Bank Smart NPA สำหรับติดต่อกับธนาคารเพื่อชำระเงินมัดจำตามที่ธนาคารกำหนดและทำสัญญาจะซื้อจะขายในระหว่างวันที่ 21-30 ธันวาคม 2563 และสามารถเลือกใช้โปรโมชั่นผ่อนดาวน์ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 60 เดือน หรือเทดาวน์แล้วยื่นกู้เลยก็มีสิทธิ์เลือกใช้โปรโมชั่นสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 48 เดือน (ภายใต้เงื่อนไขของมาตรการพิเศษที่ธนาคารกำหนด) สอบถามรายละเอียด หรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารเพิ่มเติมได้ที่ www.ghbhomecenter.com หรือ www.ghbank.co.th หรือ โทรศัพท์สอบถามข้อมูลกรณีทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โทร. 0-2202-1582 ถึง 3 กรณีทรัพย์ในส่วนภูมิภาค โทร. 0-2202-2036 และ 0-2202-1170 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]