เคาะ 11 เรื่องแก้ปัญหาให้ “ชาวพังงา”

พังงา 28 ก.ย. – รองนายกรัฐมนตรีเคาะ 11 เรื่องแก้ปัญหาเพื่อให้ชาวพังงา” ประกาศพร้อมติดตามคืบหน้าทุกเรื่องใกล้ชิด


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมติดตามการปฎิบัติราชการในภูมิภาคเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่จังหวัดพังงา ว่า โดยที่ประชุมได้สรุปปัญหาและประเด็นต่างๆในพื้นที่ดังกล่าวออกเป็น 11 เรื่อง คือ 1.การเร่งรัดการก่อสร้างสนามบินพังงา ที่ประชุมรับทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการร่าง TOR จะแล้วเสร็จเดือนตุลาคมนี้ และจะได้ผู้รับจ้างเป็นที่ปรึกษาเดือนมกราคม 2564 และการศึกษาจะแล้วเสร็จเดือนกรกฎาคม 2564

2. การท่องเที่ยว โดยอุทยานแห่งชาติสิมิลันจะเปิดในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 และจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ งานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ในเดือนธันวาคม 2563 เทศกาลซีฟู้ดจะจัดเดือนกุมภาพันธ์ 64 และงานเซิร์ฟบอร์ดจะสามารถจัดได้ในเดือน พค  64 และจะมีการเพิ่มชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่พังงาอีก 5 ชุมชน ได้แก่ ตะกั่วป่า เกาะปันหยี ตลาดคลองงา (อำเภอเมือง) บ้านพุรอด คุระบุรี) เกาะยาวน้อย ด้วยงบประมาณที่ได้รับจากเงินกู้ 4 แสนล้าน สำหรับการเปิดเกาะตาชัยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เกาะตาชัยถูกปิดมาปีที่ 4 แล้ว ด้วยวัตถุประสงค์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ


3. ผังเมือง เพื่อจัดพื้นที่อุตสาหกรรมเพิ่มเติม เนื่องจากพื้นที่สีม่วงทางอุตสาหกรรมไม่เพียงพอ ณ ขณะนี้ มีเพียง 1,029 ไร่เท่านั้น โดยการสร้างโรงงานเพิ่มเติมสามารถทำได้ในพื้นที่ทุกประเภท โดยต้องประกาศกฎกระทรวงเพื่อยกเลิกบัญชีโรงงานที่ห้ามก่อสร้างในเขตพื้นที่สีเขียว น่าจะเสร็จได้ไม่เกินเดือน พค ปีหน้า และปัจจุบันมีการดำเนินการพิจารณาการขยายพื้นที่อุตสาหกรรมสีม่วงอยู่แล้ว อยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์

4.โครงข่ายถนน ก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 โครงการ ระยะทาง 59 กิโลเมตร งบประมาณ 1,850 ล้านบาท กำลังดำเนินการ ในพื้นที่ อ ตะกั่วป่า รวมระยะทาง 38 กิโลเมตร 1,466 ล้านบาท และอยู่ในแผนพัฒนาถึงปี 2568 เจ็ดสายทาง รวม 126 กิโลเมตร งบประมาณรวม 6,170 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมทางหลวงรับปากว่าได้หารือกับชุมชนแล้ว สำหรับเส้นบางสัก-ตะกั่วป่า และจะนำไปดำเนินการปรับแบบต่อไป

5. การสร้างอ่างเก็บน้ำคลองลำรูใหญ่ อ ท้ายเหมือง ต้องดำเนินการเพิกถอนบางพื้นที่ออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อจัดทำแผนที่แนบท้าย พรฎ เพิกถอนอุทยานฯ ซึ่งต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 25 พย ซึ่งจะนำเข้าคกก กฤษฎีกา และนำเสนอ ครม เห็นชอบต่อไป


6. การสร้างท่อประปาพังงา-ภูเก็ต มูลค่า 3,517 ล้านบาท ได้ประสานกับท้องถิ่นแล้ว มีการส่งแบบสำรวจความต้องการใช้น้ำไปยังประชาชนในพื้นที่ กำหนดส่งแบบสำรวจต้นเดือนและปลายเดือนตุลาคม โดยการประปาส่วนภูมิภาคจะเกลี่ยงบประมาณ ไปทำโครงการกระจายน้ำด้วย ไม่ต้องรอหลังการก่อสร้างจบ และมีแผนการสำรองน้ำสามโครงการปริมาณน้ำ 2.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ด้วยการซื้อที่ดิน หากเกิดการขาดแคลนน้ำ จะกระจายน้ำในพังงาก่อน โดยได้สั่งการ ให้ทำการประปาส่วนภูมิภาคทำหนังสือยืนยันการยึดหลักให้พังงาใช้น้ำจนพอก่อน และขอให้สอบถามชุมชนตลอดสองข้างทางอย่างชัดเจน เพื่อนำไปทำแผนการกระจายน้ำให้จบ โดยไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จเป็นเอกสาร ส่งผู้ว่าราชการขังพวัดและผู้ตรวจฯ ขอให้รายงานความคืบหน้าในการประชุมครั้งต่อไป

7. การสร้างเรือนจำ จ พังงา แห่งใหม่ พื้นที่ 35 ไร่ ได้ย้ายเข้าใช้พื้นที่แห่งใหม่แล้ว สามารถรองรับนักโทษได้ 2800 คน และได้ส่งมอบพื้นที่เดิมทั้งหมดไปยังกรมธนารักษ์แล้ว และจะไม่มีการดำเนินการในเรื่องการขยายเรือนจำแห่งใหม่เป็นเรือนจำในภูมิภาค 8.ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะทางชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะทั่วจังหวัดพังงาในฝั่งอ่าวไทย 223 กม ที่รุนแรงอยู่ที่บ้านทุ่งนางดำ โดยมีแนวทางในการแก้ไขด้วยการปรับสมดุลธรรมชาติ  และบ้านปากเกาะ แก้ไขโดยการดำเนินงานด้านวิศวกรรมต่อไป และหาดบ้านน้ำเค็ม ซึ่งต้องมีการใช้โครงสร้างในบริเวณชุมชนและสถานประกอบการ และใช้แนวทางปรับสมดุลในบริเวณที่ไม่มีบ้านเรือนหนาแน่น และหาดบ้านท่านุ่น ซึ่งต้องปล่อยให้มีการปรับสมดุลทางธรรมชาติ และสำหรับหาดนางทองที่มีศักยภาพที่ตจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ยังไม่มีแนวทางการแก้ไข และได้สั่งการ ขอให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาเป็นเจ้าภาพเชิญ กระทรวงทรัพยากรฯ โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน พังงา (กรอ พังงา) และผู้ตรวจเขตอันดามันจากสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ มาประชุมหาแนวทางการแก้ไขเรื่องนี้ และรายงานความคืบหน้าในการประชุมครั้งต่อไป และการประชุมครั้งหน้าขอให้อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมาประชุมเอง

9. การแก้ไขเพิ่มเติมร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มรองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่อำเภอคุระบุรี ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง ทับปุด อำเภอเมืองพังงา ตะกั่วทุ่ง และเกาะยาว พ.ศ. 2559 ในประเด็นที่มีผลกระทบต่อชุมชนก่อน จะเสนอ ครม พิจารณา และจะออกประกาศฉบับที่ 3 หลังจากประกาศฉบับที่ 2 จะหมดอายุลงในปี 2564 เพื่อปรับปรุงแบบเต็มขั้นต่อไป และได้สั่งการ ขอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบว่าได้ส่งร่างประกาศเวียนให้ภาคเอกชนแล้วหรือไม่ หากไม่ ต้องรีบส่งโดยด่วน และขอให้ส่งทางจังหวัดตรวจสอบร่างสุดท้าย ก่อนให้จังหวัดเวียนหนังสือให้ภาคส่วนอื่นๆทราบต่อไป

10.การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จังหวัดพังงา ได้จัดการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำแผนงานโครงการและได้สเนอประธาน คกก ขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะแล้ว และได้รับแจ้งจากกระทรวง DE ว่าให้จังหวัดพังงาออกประกาศเพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ และให้เข้าร่วมหลักสูตรการพัฒนา 11.การสร้างสวนพฤกษ์ศาสตร์จังหวัดพังงา ขณะนี้มีการดำเนินการขอใช้พื้นที่ต่อกรมธนารักษ์ เพื่อเป็นที่ศึกษาวิจัย สร้างศูนย์เรียนรู้ เพื่อเตรียมการสร้างสวนพฤกษ์ศาสตร์ในพื้นที่ด้านใน จากนี้ องค์การสวนพฤกษ์ศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตและสิ่งแวดล้อม จะเข้ามาตั้งสำนักงานในปีงบประมาณ 64 ต่อไป โดยทั้ง 11 เรื่องดังกล่าวจะมีการติดตามทุกเรื่องอย่างใกล้ชิด และขอให้มีการรายงานความคืบหน้าในการประชุมครั้งหน้าอีกด้วย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย