“คอคอดกระ” อภิมหาโครงการยักษ์ ที่ทั่วโลกจับตามอง

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่ารัฐบาลไทยเตรียมจะปัดฝุ่นโครงการขุดคลอง และก่อสร้างถนน-ทางรถไฟ เชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการ “คอคอดกระ” อีกครั้ง ทำให้สื่อต่างชาติโดยเฉพาะจีนและอินเดีย ที่กำลังเป็นคู่ขัดแย้งเรื่องพรมแดน ต่างหันมาจับตามองเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด


ข่าวจาก บางกอกโพสต์ อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า ได้งบประมาณ 10 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2564 เพื่อทำประชาพิจารณ์โครงการดังกล่าว โดยโครงการขุดคลองเชื่อมฝั่งอันดามันกับอ่าวไทย หรือ “Thai Canal” หรือ “9A Canal” นี้จะมีระยะทาง 135 กิโลเมตร เริ่มจากจังหวัดกระบี่ ผ่านจังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช และไปถึงฝั่งอ่าวไทยที่จังหวัดสงขลา ส่วนโครงการก่อสร้างถนนและทางรถไฟ จะมีระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้

อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Bloomberg ยืนยันว่า โครงการเชื่อมฝั่งอันดามันกับอ่าวไทย จะมีเพียงถนนมอเตอร์เวย์ และทางรถไฟ รวมทั้งท่าเรือน้ำลึกทั้งสองฝั่งเท่านั้น แต่จะไม่มีการขุดคลอง เพราะต้องใช้งบประมาณสูง และอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่คาด


ก่อนหน้านี้ในปี 2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยสั่งการให้ สศช. และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการขุดคอคอดกระ ซึ่งมีรายงานว่าจีนก็เคยเสนอตัวจะเข้ามาลงทุนในโครงการนี้ตั้งแต่ราว 15 ปีก่อน และพยายามที่จะเจรจากับรัฐบาล คสช. เพื่อรื้อฟื้นโครงการขึ้นมาอีกครั้ง โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย One Belt One Road หรือ เส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 หรือ String of Pearls ของจีน ซึ่งจะช่วยร่นระยะทางการเดินเรือที่ไม่ต้องอ้อมผ่านช่องแคบมะละกาได้ถึงราว 1,200 กิโลเมตร

หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ของจีน รายงานข่าวที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ พูดถึงโครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทย พร้อมทั้งระบุว่า เมื่อปีที่แล้วมีรายงานพบการปล้นสะดมจากกลุ่มโจรสลัดเพิ่มมากขึ้น ในช่องแคบมะละกา จากที่เกิดขึ้น 8 ครั้งในปี 2561 เป็น 30 ครั้งในปีที่แล้ว นอกจากนี้ บริเวณดังกล่าวยังถือเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่คับคั่งที่สุดในโลก โดยราว 40% ของการค้าโลกต้องขนส่งผ่านช่องแคบมะละกา

ด้าน The Economic Times และสำนักข่าว Asian News International (ANI) ของอินเดีย รายงานตรงกันว่า หลังทางการไทยเจรจาขอเลื่อนการสั่งซื้อเรือดำน้ำจากจีน และแสดงความชัดเจนที่จะลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมฝั่งอันดามันกับอ่าวไทยด้วยตัวเอง แทนที่จะให้จีนเข้ามาลงทุนขุดคอคอดกระ รัฐบาลกรุงเดลีก็ตอบรับข่าวดังกล่าวด้วยความยินดี


อินเดียยอมรับว่า จับตามองอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับข้อตกลงที่ไทยสั่งซื้อเรือดำน้ำจากจีน เพราะอาจกระทบต่อความมั่นคงในอ่าวเบงกอล แต่ก็ไม่เคยมีนโยบายที่จะก้าวก่ายเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการขุดคอคอดกระนั้น อินเดียเคยแสดงความกังวลอย่างชัดเจนต่อทางการไทย เพราะหากมีการขุดคลองสำเร็จจะทำให้กองทัพเรือของจีนสามารถส่งเรือรบข้ามจากทะเลจีนใต้เข้าสู่มหาสมุทรอินเดียได้อย่างรวดเร็ว จากปัจจุบันที่จีนกังวลว่า กองเรือพาณิชย์และทัพเรือของจีนอาจถูกปิดกั้นไม่ให้ผ่านช่องแคบมะละกาโดยกองทัพของสหรัฐและชาติต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน

อีกด้านหนึ่ง เว็บไซต์ข่าว The Irrawaddy ของเมียนมา ระบุว่า จีนยังคงมีความหวังว่าโครงการขุดคอคอดกระจะเกิดขึ้นได้ในระยะยาว

คอคอดกระเป็นพื้นที่ส่วนที่แคบที่สุดของประเทศไทย จากฝั่งทะเลอันดามันด้านจังหวัดระนอง ถึงอ่าวไทยจังหวัดชุมพร หากวัดเป็นเส้นตรงจะมีระยะทางเพียง 50 กิโลเมตร มีข้อมูลว่าแนวคิดเรื่องการขุดคลองเริ่มพูดถึงครั้งแรกตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และมีการหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 4 และล่าสุดรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เคยจะทำโครงการแลนด์บริดจ์ที่มีทั้งถนน ทางรถไฟ ท่าเรือน้ำลึก และนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ด้วยมูลค่าลงทุน 1.5 ล้านล้านบาท แต่โครงการหยุดชะงักไปหลังถูกปฏิวัติเมื่อปี 2549 จนมาถึงรัฐบาล คสช. ซึ่งทางการจีนเข้ามาเสนอตัวจะทำโครงการอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การทำอภิมหาโครงการที่หากเกิดขึ้นจริง จะถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนี้ มีประเด็นที่ละเอียดอ่อนและสลับซับซ้อนหลายแง่มุมให้ต้องพิจารณา อาทิ ปัญหาความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สถานการณ์ความมั่นคงรวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประเทศในภูมิภาค หรือแม้แต่ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ

เพราะแม้จะมีข้อมูลว่า การที่ไม่ต้องเดินเรืออ้อมผ่านช่องแคบมะละกา จะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งลงได้มหาศาล แต่ระยะทางไป-กลับที่สั้นลง 1,200 กิโลเมตร ใช้เวลาเร็วขึ้น 2-3 วันนั้น ยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับคลองสุเอซ ที่ร่นระยะทางได้ถึง 7,000 กิโลเมตร และคลองปานามาที่ร่นระยะทางได้ถึง 13,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ มูลค่าก่อสร้างโครงการประมาณ 28,000 ล้านดอลาร์สหรัฐ บวกกับโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็อาจทำให้ความคุ้มทุนเกิดขึ้นได้ยาก เพราะหากเก็บค่าธรรมเนียมเดินเรือผ่านคลองแพงเกินไป และการเดินเรืออาจล่าช้าจากความแออัด ก็อาจทำให้เรือจำนวนหนึ่งกลับไปใช้เส้นทางผ่านช่องแคบมะละกาตามเดิม.

Source : Bangkok Post South China Morning Post The Economic Times Asian News International The Irrawaddy

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชาถอย เป็นความสำเร็จเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต”

ทำเนียบ 9 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชายอมถอย เป็นความสำเร็จจากการเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” และพูดคุยในทุกระดับ โยน กองทัพพิจารณามาตรการปิดด่าน เชื่อสถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลาย ย้ำถก JBC ยึดกรอบเดิม ไม่มีคุยปม 3 ปราสาท หวังความชัดเจนเส้นเขตแดน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชายอมถอนกำลังออกจากจุดประทะ และกลับไปอยู่ ในจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย และเป็นขบวนการที่พยายามพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี จนไปถึงระดับกองทัพ โดยมีทูตทหารของไทยในกัมพูชาเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งการพูดคุยมีมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวาน เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เห็นตรงกันว่าอยากหาข้อยุติที่เป็นสันติด้วยกัน เพราะการทำสงครามมันไม่มีประโยชน์ ซึ่งตนได้แจ้งว่า ในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เป็นผู้รับผิดชอบการสั่งให้รบกันมันง่าย แต่ความสูญเสียจะเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ดังนั้น สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างยุติ โดยไม่เกิดความสูญเสีย สิ่งสำคัญคือ เราอยากลดการเผชิญหน้า ซึ่งจากการพูดคุยพบว่ามี มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทั้งสองฝ่าย จึงเหมือนว่าการคุยกันยังไม่ยุติ จึงต้องพูดคุยกันใหม่ […]

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย