วิชาถกปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

คณะกรรมกฤษฎีกา 3 ก.ย.- “วิชา” ถกปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม คดีบอส นัดแรกระบุต้องปรับปรุงข้อกฎหมายที่ล้าสมัย ให้พ้นจากความเสื่อม คดีบอสครบ 8 ปี ต้องทำความจริงให้กระจ่าง สั่งจับตัวบอสไม่ว่าอยู่ที่ไหน กลับมาดำเนินคดี โต้ข้อครหาว่าตั้งคณะกรรมการแต่ในทางทฤษฎีทำอะไรทางปฏิบัติไม่ได้ บอกขอแค่มีคนเชื่อมั่นแค่ 90% ก็พอแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญากับนายวรยุทธ อยู่วิทยา เป็นประธานร่วมประชุมพิจารณาเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมนัดแรก หลังจากได้รับการต่ออายุคณะกรรมการฯ อีก 30 วันจากนายกรัฐมนตรี

ก่อนการประชุม นายวิชา ให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังของสังคม หลังคดีนายวรยุทธ ครบ 8 ปี ว่า เข้าใจว่าจะต้องไปคาดหวังที่ตัวนายกรัฐมนตรี เพราะตนได้เปิดข้อมูลไปแล้วและได้ส่งให้นายกรัฐมนตรีเรียบร้อย บอกทุกข้อ ทั้ง 8 ข้อ ที่นายกรัฐมนตรี จะรับไปทำ ก็ยืนยันหนักแน่นว่าท่านทำแน่นอน ก็คงจะต้องใช้เวลา แต่ก็จะมีสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งจะเป็นฝ่ายติดตามและส่งต่อ จัดการ และดำเนินการ ตามที่เราได้เสนอแนะไว้ ที่อยู่ในกำกับของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี


เมื่อถามว่าคดีครบรอบ 8 ปีวันนี้ แต่ต้องมาเริ่มต้นคดีใหม่ นายวิชา กล่าวว่า สิ่งที่ผิดพลาดไม่ว่าจะใช้ระยะเวลายาวนานแค่ไหน หรือแม้จะหมดอายุความไปแล้วทั้งหมดเลย ก็ยังยืนยันว่าการทำให้กระจ่างชัด ทำให้คนรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุดแล้ว เราต้องกล้าหาญเพียงพอ ที่จะยอมรับสิ่งที่ผิดพลาด ต้องทำให้เห็นว่าอะไรผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก จึงถือเป็นจริยธรรมสูงสุดของมนุษย์แล้ว โดยเฉพาะของบุคคลที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม คนที่อยู่ในระบบบริหารราชการแผ่นดิน

นายวิชา กล่าวว่า ภาระของตน จากนี้คือการศึกษา และเสนอแนะเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการปฏิรูปที่ทำให้พ้นจากความเสื่อม หรือความไม่แน่นอนตามที่คนไม่เชื่อถือ เราจะต้องอาศัยตัวบทกฏหมาย อะไรที่ล้าสมัยหรือมีข้อควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก็จะรีบนำเสนอให้ครบภายใน 30 วัน

นายวิชา ยังกล่าวถึงกระบวนการตั้งเรื่อง เพื่อส่งฟ้องใหม่ ในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา กับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการว่า ต้องเริ่มจากชั้นตำรวจ ที่จะเป็นผู้สอบสวนใหม่ โดยการปรึกษาหารือกับคณะกรรมการป.ป.ท. และผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะนายวิษณุ เครืองาม คงจะต้องอาศัยเป็นคณะทำงาน เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งคนเดียวไม่ได้ จึงจะเป็นภาระของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่จะต้องเข้ามารับผิดชอบ โดยมีคณะกรรมการ ที่เรียกว่าศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งทาง ป.ป.ท. เป็นกรรมการ อยู่


ส่วนที่ในเอกสารการเปิดเผยข้อสรุปของคณะกรรมการหน้า 3 มีการเปิดเผยตัวละคร ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเร็ว แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อ และนามสมมตินั้น นายวิชา กล่าวว่า เอกสารทุกอย่างอยู่ในรายงานแล้วที่อยู่ในมือนายกรัฐมนตรีหมดแล้ว ซึ่งมีการระบุชื่อทั้งหมด ส่วนเหตุผลของการไม่เปิดเผยชื่อนั้น นายวิชา กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะเป็นสิทธิ์ขาดของนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องไปถามนายกรัฐมนตรีเอง เพราะอาจจะมีอะไรที่จะต้องรอให้แน่ใจก่อน แต่ในรายละเอียดอยู่ในฉบับเต็มบริบูรณ์ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็บอกชัดเจนว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามที่ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กแล้ว ต่อข้อถามว่ามีข้อครหาว่าคณะกรรมการ เผยผลสอบมาแล้วเหมือนเป็นเพียงแค่ในทางทฤษฎีแต่ในทางปฏิบัตินั้นไม่สามารถทำได้ นายวิชากล่าวว่า มีคนเชื่อมั่นว่าทำจริง เพียงแค่ 90% ก็พอแล้ว

นายวิชา กล่าวว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาอยู่ที่ไหนก็ต้องติดตามมาให้ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยืนยัน และตำรวจก็บอกว่าถ้าอัยการรับเรื่องไว้ ก็จะดำเนินการออกหมายจับกับอินเตอร์โพล ส่วนกรอบการประชุมการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม นายวิชา กล่าวว่า วางกรอบดูทุกเรื่อง หากมีผู้เสนอแนะมา หรือคณะกรรมการเห็นสมควร เราก็จะกำหนดประเด็นว่าประเด็นเหล่านั้น เกี่ยวกับองค์กรใด ทั้งตำรวจ และพนักงานสอบสอน หรือพนักงานสอบสวนที่ไม่ใช่เฉพาะตำรวจ ยังมีพนักงานฝ่ายปกครอง อัยการ รวมถึงดีเอสไอ

เมื่อถามว่ากรณีที่ตำรวจ แจ้ง 3 ข้อกล่าวหากับนายวรยุทธใหม่ ถือเป็นการรื้อคดีแล้วหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า รับทราบว่าเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 147 ที่ทางตำรวจดำเนินการ ส่วนกรณีที่ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการอัยการ ระบุว่า มีอัยการที่มีส่วนในคดีนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น นายวิชา กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน ต้องไปตรวจสอบ ทาง ป.ป.ท. ต่อข้อถามว่ากรณีออกระเบียบใหม่ ว่ามีบทลงโทษทางวินัย และสั่งลงโทษทางวินัย รองอัยการสูงสุด ที่มีบทลงโทษร้ายแรง ถึงขั้นขั้นไล่ออก นายวิชา กล่าวว่า ก็ไม่ได้เป็นผลจากคณะกรรมการชุดนี้แต่เป็นผลจากหน่วยงานเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

นักท่องเที่ยวหลั่งไหลชมปราสาทตาเมือนธมคึกคัก

สุรินทร์ 18 ก.ค. – นักท่องเที่ยวสองประเทศยังหลั่งไหลไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ รวมทั้งให้กำลังใจทหารแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเศรษฐกิจท้องถิ่นคึกคัก ขณะที่ตำรวจพร้อมดำเนินคดีหญิงกัมพูชาด่าทหารไทย ด้านนายอำเภอพนมดงรัก ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างหลุมหลบภัย ยันพยายามจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศทยอยเข้ามามอบสิ่งของบำรุงขวัญทหารแนวหน้า และเข้าไปเที่ยวชมภายในตัวปราสาทอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศดูคึกคักตั้งแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวฝ่ายกัมพูชามีกลุ่มวัยรุ่นหัวเกรียน คนหน้าเดิม เข้ามาเป็นประจำ ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย คล้ายๆ กับการจัดตั้ง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยล้วนเข้ามาด้วยความสมัครใจ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นโรดม แพน โมนิก้า หญิงกัมพูชาที่ชี้หน้าด่าและไล่ทหารไทย จะกลับเข้าพื้นที่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมรับสถานการณ์แล้ว ภายใต้ข้อตกลงที่มีร่วมกันจากเหตุดังกล่าวว่าให้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายซ้ำรอยเดิม ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับการเปิดเผยจากพันตำรวจเอก นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการ สภ.พนมดงรัก ว่ามีคนแจ้งความดำเนินคดีนโรดม แพน โมนิก้า แล้ว ซึ่งตำรวจพร้อมเดินหน้าสะสางคดี เพื่อเป็นการยืนยันเขตอธิปไตยไทยด้วย การเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นของ อ.พนมดงรัก พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งเต็นท์ขายสินค้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น เสื้อยืดสกรีน ภาพทหารพร้อมข้อความ […]

“แพทองธาร” เยี่ยมทหารบาดเจ็บ ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ

อุบลราชธานี 18 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยรับมอบหมายจาก ครม. ให้เป็นตัวแทนร่วมคณะ “รมช.กลาโหม” เยี่ยมให้กำลังใจ 3 ทหารพราน ในเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดช่องบก ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ ยัน “รัฐบาล – กองทัพ” รับผิดชอบดูแลกำลังพล ประชาชน พร้อมรักษาอธิปไตยไทย นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​วัฒนธรรม​ พร้อมด้วย พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าเยี่ยมให้กำลังใจทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิด ในพื้นที่ช่องบกอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยนางสาวแพทองธาร ได้สอบถามอาการพลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 พร้อมบอกว่า รัฐบาลจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปมากกว่านี้ อะไรที่ทำได้ก็จะทำ พร้อมให้กำลังแม่ของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทราบว่า เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวตกใจ เพราะทหารคนดังกล่าวเพิ่งไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จากนั้น นางสาวแพทองธาร และ พลเอกณัฐพล ได้เยี่ยมให้กำลังใจทหารอีก 2 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมรับฟังอาการ ว่า […]

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

เปิดใจทหารกล้า ภูมิใจได้รับใช้ชาติ

18 ก.ค. – เปิดใจ 3 ทหารกล้าเหยียบระเบิดชายแดนช่องบก ด้าน “พลทหารธนพัฒน์” เล่านาทีเหยียบกับระเบิด ลั่นภูมิใจที่สมัครมารับใช้ชาติแม้ต้องตัดขา 1 ข้าง เผยพร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเข้าเยี่ยมและพุดคุยกับ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาด้านซ้ายจนต้องตัดขา เพื่อรักษาเนื้อเยื่อส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายเอาไว้ พลทหาร ธนพัฒน์ เปิดเผยช่วงที่เกิดเหตุเป็นการลาดตระเวนกลับฐานใกล้กับต้นพญาสัตบรรณ ตนได้เหยียบกับระเบิด เนื่องจากชุดทหารช่างตรวจไม่เจอ เพราะน่าจะเป็นระเบิดพลาสติก ตอนที่เกิดเหตุตนเองมีสติครบ พอเหยียบระเบิดปุ๊บตนเองรู้สึกร้อนเป็นไฟอยู่ที่ขา จากนั้นดูตนเองพบว่าขาขาด เพื่อนทหารก็สลบจากแรงระเบิด ตนจึงเข้าไปปลุกเพื่อนให้ช่วยลากตนออกจากจุดเกิดเหตุ พลทหาร ธนพัฒน์ บอกอีกว่า หลังจากที่เหยียบระเบิดตนเองเห็นขาแล้ว บอกกับตัวเองว่าหมดแล้วอนาคต แต่ก็ไม่เป็นไร ในการมาเป็นทหารครั้งนี้ตนเองสมัครใจมา พร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน.-สำนักข่าวไทย