วิชาถกปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

คณะกรรมกฤษฎีกา 3 ก.ย.- “วิชา” ถกปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม คดีบอส นัดแรกระบุต้องปรับปรุงข้อกฎหมายที่ล้าสมัย ให้พ้นจากความเสื่อม คดีบอสครบ 8 ปี ต้องทำความจริงให้กระจ่าง สั่งจับตัวบอสไม่ว่าอยู่ที่ไหน กลับมาดำเนินคดี โต้ข้อครหาว่าตั้งคณะกรรมการแต่ในทางทฤษฎีทำอะไรทางปฏิบัติไม่ได้ บอกขอแค่มีคนเชื่อมั่นแค่ 90% ก็พอแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญากับนายวรยุทธ อยู่วิทยา เป็นประธานร่วมประชุมพิจารณาเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมนัดแรก หลังจากได้รับการต่ออายุคณะกรรมการฯ อีก 30 วันจากนายกรัฐมนตรี

ก่อนการประชุม นายวิชา ให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังของสังคม หลังคดีนายวรยุทธ ครบ 8 ปี ว่า เข้าใจว่าจะต้องไปคาดหวังที่ตัวนายกรัฐมนตรี เพราะตนได้เปิดข้อมูลไปแล้วและได้ส่งให้นายกรัฐมนตรีเรียบร้อย บอกทุกข้อ ทั้ง 8 ข้อ ที่นายกรัฐมนตรี จะรับไปทำ ก็ยืนยันหนักแน่นว่าท่านทำแน่นอน ก็คงจะต้องใช้เวลา แต่ก็จะมีสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งจะเป็นฝ่ายติดตามและส่งต่อ จัดการ และดำเนินการ ตามที่เราได้เสนอแนะไว้ ที่อยู่ในกำกับของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี


เมื่อถามว่าคดีครบรอบ 8 ปีวันนี้ แต่ต้องมาเริ่มต้นคดีใหม่ นายวิชา กล่าวว่า สิ่งที่ผิดพลาดไม่ว่าจะใช้ระยะเวลายาวนานแค่ไหน หรือแม้จะหมดอายุความไปแล้วทั้งหมดเลย ก็ยังยืนยันว่าการทำให้กระจ่างชัด ทำให้คนรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุดแล้ว เราต้องกล้าหาญเพียงพอ ที่จะยอมรับสิ่งที่ผิดพลาด ต้องทำให้เห็นว่าอะไรผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก จึงถือเป็นจริยธรรมสูงสุดของมนุษย์แล้ว โดยเฉพาะของบุคคลที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม คนที่อยู่ในระบบบริหารราชการแผ่นดิน

นายวิชา กล่าวว่า ภาระของตน จากนี้คือการศึกษา และเสนอแนะเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการปฏิรูปที่ทำให้พ้นจากความเสื่อม หรือความไม่แน่นอนตามที่คนไม่เชื่อถือ เราจะต้องอาศัยตัวบทกฏหมาย อะไรที่ล้าสมัยหรือมีข้อควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก็จะรีบนำเสนอให้ครบภายใน 30 วัน

นายวิชา ยังกล่าวถึงกระบวนการตั้งเรื่อง เพื่อส่งฟ้องใหม่ ในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา กับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการว่า ต้องเริ่มจากชั้นตำรวจ ที่จะเป็นผู้สอบสวนใหม่ โดยการปรึกษาหารือกับคณะกรรมการป.ป.ท. และผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะนายวิษณุ เครืองาม คงจะต้องอาศัยเป็นคณะทำงาน เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งคนเดียวไม่ได้ จึงจะเป็นภาระของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่จะต้องเข้ามารับผิดชอบ โดยมีคณะกรรมการ ที่เรียกว่าศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งทาง ป.ป.ท. เป็นกรรมการ อยู่


ส่วนที่ในเอกสารการเปิดเผยข้อสรุปของคณะกรรมการหน้า 3 มีการเปิดเผยตัวละคร ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเร็ว แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อ และนามสมมตินั้น นายวิชา กล่าวว่า เอกสารทุกอย่างอยู่ในรายงานแล้วที่อยู่ในมือนายกรัฐมนตรีหมดแล้ว ซึ่งมีการระบุชื่อทั้งหมด ส่วนเหตุผลของการไม่เปิดเผยชื่อนั้น นายวิชา กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะเป็นสิทธิ์ขาดของนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องไปถามนายกรัฐมนตรีเอง เพราะอาจจะมีอะไรที่จะต้องรอให้แน่ใจก่อน แต่ในรายละเอียดอยู่ในฉบับเต็มบริบูรณ์ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็บอกชัดเจนว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามที่ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กแล้ว ต่อข้อถามว่ามีข้อครหาว่าคณะกรรมการ เผยผลสอบมาแล้วเหมือนเป็นเพียงแค่ในทางทฤษฎีแต่ในทางปฏิบัตินั้นไม่สามารถทำได้ นายวิชากล่าวว่า มีคนเชื่อมั่นว่าทำจริง เพียงแค่ 90% ก็พอแล้ว

นายวิชา กล่าวว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาอยู่ที่ไหนก็ต้องติดตามมาให้ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยืนยัน และตำรวจก็บอกว่าถ้าอัยการรับเรื่องไว้ ก็จะดำเนินการออกหมายจับกับอินเตอร์โพล ส่วนกรอบการประชุมการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม นายวิชา กล่าวว่า วางกรอบดูทุกเรื่อง หากมีผู้เสนอแนะมา หรือคณะกรรมการเห็นสมควร เราก็จะกำหนดประเด็นว่าประเด็นเหล่านั้น เกี่ยวกับองค์กรใด ทั้งตำรวจ และพนักงานสอบสอน หรือพนักงานสอบสวนที่ไม่ใช่เฉพาะตำรวจ ยังมีพนักงานฝ่ายปกครอง อัยการ รวมถึงดีเอสไอ

เมื่อถามว่ากรณีที่ตำรวจ แจ้ง 3 ข้อกล่าวหากับนายวรยุทธใหม่ ถือเป็นการรื้อคดีแล้วหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า รับทราบว่าเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 147 ที่ทางตำรวจดำเนินการ ส่วนกรณีที่ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการอัยการ ระบุว่า มีอัยการที่มีส่วนในคดีนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น นายวิชา กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน ต้องไปตรวจสอบ ทาง ป.ป.ท. ต่อข้อถามว่ากรณีออกระเบียบใหม่ ว่ามีบทลงโทษทางวินัย และสั่งลงโทษทางวินัย รองอัยการสูงสุด ที่มีบทลงโทษร้ายแรง ถึงขั้นขั้นไล่ออก นายวิชา กล่าวว่า ก็ไม่ได้เป็นผลจากคณะกรรมการชุดนี้แต่เป็นผลจากหน่วยงานเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]