รัฐสภา 9 ก.ย.- “ปกรณ์วุฒิ” เผย ยังไม่แบ่งงานฝ่ายค้านกับเพื่อไทย ชวน เสนอกฎหมายที่อยากผลักดันในช่วง 4 เดือน เหตุฝ่ายค้านคุมเสียงข้างมาก เชื่อไม่ต้องแบกองค์ประชุม เพราะคงไม่มีร่างของครม.เข้ามา ชี้ อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิ แต่ขอให้คุยก่อน หากแก้รธน.เดินหน้าควรทำให้สำเร็จ ลั่น ไม่ได้ทำข้อตกลงเรื่องนี้ หากมีข้อมูลชัดเจน ปชน.ก็พร้อมไม่ไว้วางใจ
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการทำงานร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย ว่า มีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการบ้างแล้ว แล้ววันนี้ก็ได้เชิญตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมวิปฝ่ายค้านด้วย และยังไม่ได้มีการแต่งตั้ง ตัวแทนวิปฝ่ายค้านจากพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ ต้องรอพูดคุยกันก่อนและตัวเองก็ได้เชิญชวนพรรคเพื่อไทยว่า 4 เดือนที่เหลือ ครม. ที่มีเวลาไม่มาก ครม.คงไม่ยื่นร่างกฎหมายเข้ามา ดังนั้น 4 เดือนที่เหลือจะเป็นเวลาที่สำคัญ นับถอยหลังจากวันแถลงนโยบาย คาดว่าอาจจะเป็นปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่ร่างของสส.จะได้รับการพิจารณา จึงชวนเพื่อไทยว่าอยากจะผลักดันร่างใหม่ให้จบ ภายใน 4 เดือนนี้ก็อยากจะให้ร่วม พูดคุยกันให้ชัดเจน
“ยังมีหลายนโยบายที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนเห็นตรงกัน และขณะนี้ฝ่ายค้านคุมเสียงข้างมากในสภา ดังนั้นร่างกฎหมายใดที่พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยเห็นตรงกัน รัฐบาลก็ไม่สามารถคัดค้านได้ เพราะเสียงข้างมากในสภาจะเห็นชอบกับกฎหมายนั้น ถึงเชิญชวนให้มาผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์และกฎหมายที่เป็นนโยบาย ที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ให้สำเร็จ” นายปกรณ์วุฒิกล่าว
นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึง ปัญหาองค์ประชุมที่ขณะนี้ฝ่ายค้านจะต้องเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายรัฐบาล ว่า ที่ผ่านมาเวลาเรานับองค์ประชุม ต้องดูว่าวาระนั้นเป็นวาระอะไร ไม่ว่าพรรคไหนจะมาเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะมีพรรคร่วมฝ่ายค้านสลับสับเปลี่ยนหน้ากันมาเยอะ หลักการที่ตนพูดกับพรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงเดิม หากร่างกฎหมายใด หรือวาระใดที่พรรคประชาชนเห็นด้วย พรรคประชาชนพร้อมเป็นองค์ประชุมให้เสมอ แต่หากเรื่องใดที่ทางครม. เสนอมาแล้วเราไม่ได้เห็นด้วย ร่างบางร่างเสนอมาอย่างเร่งรีบ ร่างบางร่างเสนอมาอย่างไม่รอบคอบ จึงมองว่านั่นเป็นหน้าที่ของฝั่งรัฐบาลที่เสนอกฎหมายมา ที่จะต้องรักษาองค์ประชุม ซึ่งถ้าหากเป็นร่างของพรรคประชาชนเราไม่นับองค์ประชุมแน่นอน และหลังจากนี้คงจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายที่สส.เสนอเข้ามาเท่านั้น และก่อนที่จะเสนอร่างเข้ามาในระเบียบวาระก็คงมีการพูดคุยกันมาในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นร่างของพรรคเพื่อไทยเราพร้อมที่จะพูดคุยให้สภาบรรจุวาระและคิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์ที่พรรคเพื่อไทยขอนับองค์ประชุมในขณะที่พิจารณาร่างของพรรคเพื่อไทยอยู่
“การแบกองค์ประชุมต้องดูว่า วาระอะไร และหลังจากนี้คงไม่มีร่างของ ครม.เข้ามาอีก ดังนั้นเรื่องหน้าที่ขององค์ประชุมของเจ้าของวาระ คงจะไม่เกิดขึ้น ที่เหลือร่างของสส. ที่เสนอเข้ามาก็เป็นหน้าที่ของสส. ทั้งสภาอย่างน้อยๆ ก็พรรคที่เห็นด้วยกับวาระนั้นๆ ก็ควรจะต้องอยู่เป็นองค์ประชุม” นายปกรณ์วุฒิกล่าว
ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจหาก อีก 1 เดือนข้างหน้าพรรคเพื่อไทยมีการเสนอขึ้นมา นั้นนายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของสมาชิกอยู่แล้ว แต่ก็อยากให้มีการพูดคุยกันก่อน อยากให้พิจารณาดูดีๆ อย่างน้อยพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากที่รัฐบาลได้ทำงานแล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีการขยับไปข้างหน้า ก็ต้องมาคุยกันว่า ควรจะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จดีหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย
“ส่วนของพรรคประชาชนเองเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงที่ทำกับพรรคภูมิใจไทยว่าเราจำเป็นจะต้องประคอง หากหลักฐานข้อมูลที่มีการอภิปรายมีความหนักแน่นและมีความชัดเจน เราก็พร้อมลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ไม่ว่าคนใดก็ตาม ถ้าถึงเวลาที่สุกงอมแล้วเหมาะสมจริงๆ พรรคประชาชนเองก็พร้อมที่จะยื่นบางรายชื่อที่เราไม่ไว้วางใจ ในครม.ชุดนี้เช่นกัน ” นายปกรณ์วุฒิกล่าว -สำนักข่าวไทย