กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – กทม.เตรียมพร้อมรับฝนตกหนักต่อเนื่อง ยันระบบระบายยังทำงานได้เต็มที่ ยอมรับหลายจุดยังมีปัญหา ต้องใช้เวลารอระบาย หลังเจอฝนหนักเกิน 100 มม.
นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม.เปิดเผยถึงสถานกาณ์การระบายน้ำในพื้นที่ว่า หลังจากที่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา กทม.มีฝนตกหนักกว่า 100 มม. อย่างวันศุกร์ที่ผ่านมา เกือบ 130 มม. โดยตกหนักสุดที่เขตทวีวัฒนากว่า 157 มม. ขณะที่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนัก ปริมาณฝนสูงสุดที่จุดวัด ค.ประเวศฯ-ถ.ร่วมพัฒนา เขตลาดกระบัง 94.0 มม. จุดวัด ค.บางนา-ถ.ศรีนครินทร์ เขตบางนา 84.5 มม. โดยในช่วงนี้เป็นฤดูฝน ฝนจะตกกระจายทั่วไป แต่ที่ผิดปกติคือ หลังจากการเกิดปัญหา Climate change ทำให้เกิดฝนหนักรุนแรงมากกว่า 100 มิลลิเมตร ขณะที่ระบบการระบายน้ำของ กทม. เมื่อฝนตกลงมา จะมีการระบายน้ำลงถนนผ่านท่อระบายน้ำ มีระบบสูบน้ำสูบลงคลองสายย่อย ลงสู่คลองสายหลัก ก่อนลงสู่เจ้าพระยา และมีระบบอุโมงค์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง สูบจากจุดที่อยู่ไกลช่วยลงเจ้าพระยาได้ไวขึ้น มีแก้มลิง มี water bank หรือถังเก็บน้ำใต้ดิน อีก 4 แห่ง ทำงานเต็มที่ทุกจุด
กรณีที่เกิดปัญหา เมื่อฝนตกหนักเกินกว่า 100 มม. เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจุด เช่น รามคำแหง 21, 24 ห้วยขวาง ดินแดง ประเวศ นั้น เพราะมีฝนตกตกลงหนักถึง 2 ครั้ง ตกวนอยู่ในพื้นที่ พอเริ่มแห้งก็ตกลงมาซ้ำ ซึ่งการระบายแต่ละจุด ต้องใช้เวลาการระบายประมาณ 1-3 ชั่วโมงแล้วแต่พื้นที่ โดยเฉพาะหากตกเกิน 100 มม.ต้องใช้เวลานานขึ้น และยิ่งบางจุดมีการก่อสร้าง ก็มีผลต่อการระบายน้ำ เช่น ช่วงถนนรามคำแหง 24 มีการปรับปรุงถนนอยู่ มีจุดเชื่อมท่อระบายน้ำยังไม่เรียบร้อย หากต่อไปปรับปรุงแล้วเสร็จจะแก้ปัญหาไปได้
ขณะที่ทุกสถานีสูบน้ำถึงแม้จะมีระบบกระแสไฟฟ้าสำรองแต่ก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่ากระแสไฟฟ้าปกติ อย่างกรณี ที่สถานีสูบน้ำเอกมัย คลองแสนแสบ ที่ผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่ดูเมื่อวานนี้ และได้ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันได้แก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยระบบ Pipe Jacking หรือที่รู้จักกันในชื่อ “การดันลอดท่อ” และมีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 6 ตัว มีกำลังสูบน้ำ 1.5 ลบ.เมตรต่อวินาที แต่เมื่อคืนทำงานหนักจนเสียไป 2 ตัว เนื่องจากแผงควบคุมไหม้จากการทำงานอย่างหนัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งซ่อมแซมให้ใช้งานได้ตามปกติ รวมถึงการเร่งพร่องน้ำในคลองทั่วกรุงเทพฯ เพื่อรองรับฝนที่จะตกหนัก
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ประชาชนดูเรดาร์ ของเว็บไซต์สำนักงานระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ที่จะมีการคาดการณ์เรดาร์ฝนล่วงหน้า 3 ชั่วโมง และมีข้อมูลเซ็นเซอร์ว่าระดับน้ำบนถนนพื้นที่ใดบ้างมีน้ำท่วมสูงอยู่ระดับไหนและเช็คระดับน้ำในคลองได้ ซึ่งระดับน้ำในคลองหากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน น้ำในคลองก็ต้องใช้เวลาในการระบาย แม้จะมีการพร่องน้ำไว้แล้ว แต่น้ำในคลองเป็นน้ำมวลน้ำก้อนใหญ่ อย่างจุดที่อยู่ไกลเจ้าพระยา ก็อาจระบายช้า ประชาชนก็ต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ที่อาจมีน้ำท่วมขัง ต้องใช้เวลาในการระบาย โดยจุดเสี่ยงน้ำท่วมของ กทม.หากฝนตกหนักสะสมปริมาณเกิน 100 มม. อาจเกิดปัญหาได้ จากการถอดบทเรียนน้ำท่วมปี 2565 มี 737 จุด เช่น โซนรัชดา พัฒนาการ สุขุมวิท101/1 อุดมสุข ถนนจันทร์ บางจุด เป็นต้น
ซึ่งปริมาณค่าเฉลี่ยนฝนสะสมของปี 68 นี้ ยังประมาณค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ แต่อาจมีแนวโน้มมากกว่าได้ ยังต้องดูปริมาณฝนในช่วงกันยายน และตุลาคม
สำหรับประชาชนหากพบจุดใดน้ำยังไม่แห้ง หรือเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมขังสามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร โทร. 02 248 5115 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-417-สำนักข่าวไทย