กาซา 31 ก.ค. – ผู้เสียชีวิตจากความอดอยากและหิวโหยในฉนวนกาซาเพิ่มอีก 7 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ อาจประกาศภาวะความอดอยากในฉนวนกาซาอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้
กระทรวงสาธารณสุขที่บริหารโดยกลุ่มฮามาสในดินแดนปาเลสไตน์แถลงว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการในฉนวนกาซาเพิ่มอีก 7 คน รวมยอดผู้เสียชีวิตจากปัญหาดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้นสงครามอิสราเอล-ฮามาสในปี 2566 ขณะนี้ อยู่ที่ 154 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 89 คน
ในสัปดาห์นี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงด้านอาหารโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ เตือนว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดของความอดอยากในฉนวนกาซากำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ รายงานฉบับล่าสุดเกี่ยวกับ การจัดลำดับระยะความอดอยาก (Integrated Food Security Phase Classification) หรือ IPC พบว่ามีภาวะอดอยากถึง 2 ใน 3 ของเกณฑ์ในกาซา โดยการบริโภคอาหารลดลงฮวบฮาบและเกิดภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลัน แต่ที่ยังไม่ได้มีการประกาศภาวะอดอยากในฉนวนกาซาในตอนนี้ เนื่องจากยังไม่สามารถพิสูจน์ดัชนีชี้วัดที่ 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการได้ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ความอดอยาก ภาวะทุพโภชนาการ และโรคภัยไข้เจ็บที่แพร่หลาย เป็นปัจจัยผลักดันให้อัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับความหิวโหยเพิ่มขึ้น ทำให้เชื่อว่า อาจมีการประกาศภาวะความอดอยากในฉนวนกาซาอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ เว้นแต่สถานการณ์จะดีขึ้นอย่างมาก หากมีการประกาศจริง จะเป็นเพียงภาวะอดอยากครั้งที่ 5 เท่านั้นในศตวรรษนี้ ตามหลังที่โซมาเลียในปี 2554 และซูดานใต้สองครั้ง

ด้านอิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้กำลังเผชิญกับวิกฤตด้านความหิวโหยในกาซา และไม่ได้จำกัดการส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังดินแดนดังกล่าว อย่างไรก็ดี ภาพรวมปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ ทำให้อิสราเอลต้องเผชิญกับแรงกดดันจากนานาชาติมากขึ้น เพื่อให้ยอมเปิดทางจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซาเพิ่มเติม จนต้องยอมกลับมาใช้การจัดส่งสิ่งของความช่วยเหลือทางอากาศในฉนวนกาซาอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังประกาศหยุดปฏิบัติการทางทหารในบางพื้นที่ของฉนวนกาซาเป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวัน เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเปิดทางให้สามารถแจกจ่ายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้มากขึ้น แต่ที่ผ่านมาก็ ยังคงถูกประชาคมโลกวิจารณ์ว่าความช่วยเหลือยังเข้าไปในยังกาซาไม่มากพอ และการส่งอาหารและสิ่งของช่วยเหลือด้วยการหย่อนทางอากาศ ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนสูง และเสี่ยงอันตรายต่อผู้คนที่รอรับอย่างมาก.-815.-สำนักข่าวไทย